เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ซารา ภรรยาของเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงตามคำกล่าวหาใช้เงินหลวงในทางที่ผิด ด้วยการสั่งอาหารจากร้านจัดเลี้ยงมารับประทานที่บ้านพักซึ่งเป็นทำเนียบนายกรัฐมนตรี จากการเปิดเผยของกระทรวงยุติธรรมในวันพฤหัสบดี(21มิ.ย.)
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นปัญหาทางกฎหมายอันน่าปวดหัวที่เนทันยาฮูและครอบครัวของเขาต้องเผชิญ ในขณะที่พวกเจ้าหน้าที่กำลังเดินหน้าตรวจสอบนายกรัฐมนตรีรายนี้ในคำกล่าวหาคอรัปชันต่างๆนานาที่ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก
ในสำนวนฟ้องได้ตั้งข้อหา ซารา เนทันญาฮู กับเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลอีกคน ฐานฉ้อโกงตลบแตลงเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินค่าอาหารรวมเกือบ 100,000 ดอลลาร์ ในหลายร้อยมื้อที่สั่งจากร้านอาหารชื่อดังต่างๆ โดยเพิกเฉยกฎระเบียบข้อบังคับที่ห้ามสั่งอาหารจากภายนอก หากว่ามีการกุ๊กประจำทำเนียบอยู่แล้ว
กระทรวงยุติธรรมอิสราเอลแถลงว่า "เมื่อสักครู่ อัยการแขวงเยรูซาเลมได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับภรรยานายกรัฐมนตรี" พร้อมเผยว่านางซารา เนทันยาฮู สำแดงเท็จว่าไม่มีอาหารที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีและสั่งอาหารหลายร้อยรายการมาจากร้านรับจัดเลี้ยงภายนอกโดยลงบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายสาธาณะ
สำนวนฟ้องระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2013 ซารา เนทันยาฮู, ครอบครัวของเธอและแขกเหรื่อ ฉ้อโกงจากเงินค่าเตรียมอาหารของรัฐหลายร้อยรายการเป็นมูลค่า 359,000 เชเกล(ราว99,700ดอลลาร์)
ซารา เนทันยาฮู ซึ่งมักปรากฏตัวในงานสำคัญๆเคียงข้างสามีตลอดระยะเวลาที่เขากุมบังเหียนผู้นำประเทศ ปฏิเสธว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด
ในสำนวนฟ้องระบุว่า อาหารถูกสั่งจากร้านอาหารชื่อดังต่างๆในเยรูซาเลม ในนั้นรวมถึงร้านอาหารอิตาเลียนแห่งหนึ่ง, ร้านปิ้งยางตะวันออกกลาง, ร้านซูชิชื่อดัง
การถูกดำเนินคดีทางกฏหมายครั้งนี้ของ ซารา มีขึ้นในขณะที่ตัวผู้เป็นสามี เบนจามิน เนทันยาฮู กำลังถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นจากกรณีต้องสงสัยคอรัปชันต่างๆนานา
ในคดีหนึ่ง นายกรัฐมนตรีรายนี้และครอบครัวถูกต้องสงสัยรับสินบนเป็นของขวัญราคาแพง อาทิ ซิการ์ และแชมเปญ จากอาร์นอน มิลชาน ผู้สร้างภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด และผู้สนับสนุน รวมเป็นมูลค่าประมาณ 1 ล้านเชเกล และมหาเศรษฐีชาวออสเตรเลีย เจมส์ แพ็คเกอร์ เพื่อแลกกับการช่วยเหลือส่วนตัวจากเนทันยาฮู
นอกจากนี้ตำรวจยังได้สืบสวนคำกล่าวหาที่ว่า เนทันยาฮู อาจมีส่วนรู้เห็นกับ "ข้อตกลงลับ" ที่ช่วยให้เขาได้พื้นที่ข่าว "เชิงบวก" มากขึ้น บนหนังสือพิมพ์ "ยีดิออต อาฮาโรนอต" ซึ่งเป็นสื่อสิ่งพิมพ์รายใหญ่ที่สุดของประเทศ ในขณะที่เงื่อนไขคือการที่ผู้นำอิสราเอลเข้าควบคุมการทำงานของ "อิสราเอล ฮายิม" ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์คู่แข่งของยีดิออต อาฮาโรนอต
เนทันยาฮู ยืนยันว่าเขาบริสุทธิ์และประกาศว่าจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป พร้อมระบุว่าตนเองตกเป็นเหยื่อของขบวนการ "ล่าแม่มด"