xs
xsm
sm
md
lg

จีนโวย US เอาแต่ใจเรื่องการค้า ชี้แรงงาน-เกษตรกรมะกันรับเคราะห์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - กระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวหาอเมริกา “ทำอะไรตามอำเภอใจ” ในประเด็นการค้า เตือนผลประโยชน์ของแรงงานและเกษตรกรอเมริกันเองที่จะย่ำแย่จากการดึงดันใช้อำนาจบาตรใหญ่ของวอชิงตัน ขณะที่สื่อแดนมังกรชี้เป้าหมายการตอบโต้ของปักกิ่งอาจเป็นบริษัทอเมริกันในกลุ่มดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์

เกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวตามปกติของกระทรวงวันพฤหัสบดี (21 มิ.ย.) ว่า การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับอเมริกาที่กระทำกันก่อนหน้านี้นั้นเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ แต่มาถึงตอนนี้ปักกิ่งจำเป็นต้องตอบโต้อย่างแข็งกร้าว สืบเนื่องจากการข่มขู่ขึ้นภาษีศุลกากรของวอชิงตัน

ทั้งนี้เมื่อวันจันทร์ (18) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแถลงขู่จะเก็บภาษีศุลกากร 10% จากสินค้านำเข้าของจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ทีเดียว ถ้าปักกิ่งขืนตอบโต้มาตรการที่อเมริกาประกาศก่อนหน้านี้ในการกำหนดเป้าหมายขึ้นภาษีศุลกากร 25% จากสินค้าจีนมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ โดยวอชิงตันอ้างว่าที่ต้องลงโทษปักกิ่งเนื่องจากจีนโจรกรรมเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ ทว่าปักกิ่งปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้มาตลอด

เกาเสริมว่า การกล่าวหาของอเมริกาที่ว่า จีนบังคับให้ต่างชาติต้องถ่ายโอนเทคโนโลยีให้นั้น เป็นการบิดเบือนความจริง เขายืนยันว่าจีนพร้อมตอบโต้อย่างเต็มที่ด้วยมาตรการเชิงคุณภาพและปริมาณ หากอเมริกาประกาศรายชื่อสินค้าจีนล็อตใหม่ที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่ม

ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์โกลบอล ไทมส์ สื่อในเครือเหรินหมินรึเป้า ปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุว่า ปักกิ่งอาจใช้วิธีตอบโต้ด้วยการเล่นงานพวกบริษัทอเมริกันที่ราคาหุ้นถูกนำมาใช้คำนวณดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ โดยที่บริษัทเหล่านี้มีดังเช่น โบอิ้ง,แอปเปิล และไนกี้ ปรากฏว่าหลังข่าวนี้แพร่ออกไป ได้ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 0.17% เมื่อวันพุธ (20)

ระหว่างแถลงข่าวในวันพุธ เกายังแสดงความเสียใจที่อเมริกาทำอะไรตามอำเภอใจ ทำให้สถานการณ์ตึงเครียด และยั่วยุให้เกิดสงครามการค้า และว่า อเมริกาอาจชินกับการใช้อำนาจบาตรใหญ่ในการเจรจา แต่วิธีการนี้ไม่ได้ผลกับจีน

ก่อนหน้านั้นในวันอังคาร (19) ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของทำเนียบขาวซึ่งเป็นผู้ที่มีทัศนะมองจีนว่าเป็นมหาอำนาจที่เป็นศัตรูทั้งด้านเศรษฐกิจและการทหารของสหรัฐฯ ได่กล่าวว่า การดำเนินการของทรัมป์เป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้อง “ทรัพย์สินที่สำคัญที่สุด” ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และว่า การเจรจากับปักกิ่งไม่เคยมีความคืบหน้าในการเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติทางการค้าของจีนที่มุ่งขจัดคู่แข่งเลย

นาวาร์โรยังย้ำว่า จีนจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามการค้า

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เกาแถลงว่า มาตรการที่มุ่งหวังปกป้องคุ้มครองตนเองเพียงฝ่ายเดียวของอเมริกาเช่นนี้ จะทำร้ายผลประโยชน์ของบริษัท แรงงาน และเกษตรกรอเมริกันในท้ายที่สุด

ทางด้าน ออกซ์ฟอร์ด อิโคโนมิกส์ กลุ่มคลังสมองของอังกฤษ ก็ชี้ว่า หากสหรัฐฯจะขึ้นภาษีเอากับสินค้านำเข้าของจีนเป็นมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์จริงๆ แล้ว คงยากที่อเมริกาจะระบุรายการสินค้าจีนซึ่งควรที่จะเล่นงาน โดยที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทและ/หรือผู้บริโภคอเมริกัน เนื่องจากในสินค้าที่จีนส่งออกไปขายอเมริกานั้น พวกบริษัทอเมริกันมีส่วนได้ประโยชน์อยู่อย่างมาก

เกาเสริมว่า จีนและอเมริกามีกำหนดเจรจาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการผลิตและบริการในอนาคตอันใกล้

ตลาดการเงินต่างวิตกกังวลว่า สองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกจะเปิดศึกการค้าตอบโต้กัน หลังจากการเจรจาระดับสูง 3 รอบนับจากต้นเดือนพฤษภาคมไม่สามารถประนีประนอมกันได้
วอลล์มาร์ท ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯสาขาหนึ่งในกรุงปักกิ่ง
โดยที่สงครามการค้าจีน-อเมริกา จะสร้างความสะดุดติดขาดให้แก่สายโซ่อุปทานทั่วโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและยานยนต์ รวมทั้งจะทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะงักงันด้วย

ที่ผ่านมา หลังจากสหรัฐฯขึ้นภาษีศุลกากรจากเหล็กกล้าและอลูมิเนียมซึ่งนำเข้าจากหลายๆ ประเทศ รวมทั้งจีนด้วย ปักกิ่งก็ตอบโต้ด้วยการรีบภาษีสินค้าเข้าอเมริกัน 128 รายการ เป็นต้นว่า เนื้อหมู, ผลไม้, และถั่ว

เมื่อวอชิงตันประกาศเดินหน้าขึ้นภาษี 25% จากสินค้าเข้าของจีนรวมเป็นมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ โดยแบ่งเป็น 2 ขยัก ปักกิ่งก็เดินตามแบบเดียวกัน ด้วยการประกาศจะขึ้นภาษี 25% กับสินค้าอเมริกันรวม 659 รายการ มูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้ 545 รายการ ซึ่งประกอบด้วยถั่วเหลือง, ข้าวฟ่าง, เนื้อวัว, อาหารทะเล, รวมทั้งรถยนต์ มูลค่ารวม 34,000 ล้านดอลลาร์จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 เดือนหน้า ส่วนอีก 128 รายการ ซึ่งจะประกอบด้วยน้ำมันดิบ, ก๊าซธรรมชาติ, ถ่านหิน, น้ำมันสำเร็จรูป, และเครื่องมือแพทย์ มูลค่ารวม 16,000 ล้านดอลลาร์นั้น จะประกาศให้ทราบต่อไปว่าจะขึ้นเมื่อใด

เห็นได้ชัดเจนว่าการเลือกสินค้าเข้าอเมริกันที่จะถูกขึ้นภาษีของฝ่ายจีนนั้น มุ่งไปยังพวกสินค้าที่เป็นผลประโยชน์ของฐานเสียงสำคัญของทรัมป์ในคราวเลือกตั้งปี 2016 โดยเฉพาะพวกสินค้าการเกษตร

จา เต้าเจียง ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ ภาควิชารัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง มองว่า แรงงานจีนและอเมริกันมีความเสี่ยงพอๆ กัน ทางที่ดีทั้งสองประเทศควรกลับสู่โต๊ะเจรจา ปฏิบัติตามข้อตกลงชั่วคราว และเลิกวิพากษ์วิจารณ์กัน

เฉิน เฟิงอิ๋ง ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิเทศสัมพันธ์ร่วมสมัยแห่งประเทศจีน ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจแดนมังกร ชี้ว่า ปักกิ่งต้องไม่อ่อนข้อให้ทรัมป์ ซึ่งกำลังใช้ “ความไร้เหตุผล” ของเขามาเป็นยุทธวิธีอย่างหนึ่ง โดยกำลังพยายามทำให้จีนเกิดความสับสน


กำลังโหลดความคิดเห็น