เอเจนซีส์ - รัฐมนตรีคลังมาเลเซียยืนยันรัฐบาลชุดที่แล้วงุบงิบนำเงินจากการขายที่ดินให้แบงก์ชาติ และขายหุ้นในกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ไปเคลียร์หนี้บางส่วนให้กองทุนฉาว 1 เอ็มดีบีตั้งแต่ปีที่แล้ว ขณะที่อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบเดินทางไปให้ปากคำเกี่ยวกับเงินปริศนากว่าสิบล้านดอลลาร์ที่โอนเข้าบัญชีส่วนตัวเป็นวันที่ 2
รัฐมนตรีคลัง ลิม กวน อิง แถลงเมื่อวันพฤหัสฯ (24) ว่า กระทรวงการคลังของรัฐบาลชุดที่แล้วจ่ายหนี้แทน 1มาเลเซีย ดิเวลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1 เอ็มดีบี) ที่ก่อตั้งโดยอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค รวมแล้วถึง 1,755 ล้านดอลลาร์ และมีการลักลอบช่วยเหลือกองทุนแห่งนี้มานานกว่า 1 ปี
อนึ่ง ก่อนการแถลงข่าวนี้ แหล่งข่าววงในที่ไม่ประสงค์ออกนามเผยว่า รัฐบาลนาจิบแอบยักยอกเงินจากหน่วยงานรัฐช่วยเหลือ 1 เอ็มดีบีที่กำลังตกเป็นเป้าหมายการสอบสวนกรณีฟอกเงินจากรัฐบาลอย่างน้อย 6 ประเทศ ซึ่งรวมถึงการฟ้องร้องคดีแพ่งที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวหาว่า มีการยักยอกเงินจากกองทุนแห่งนี้ถึงราว 4,500 ล้านดอลลาร์
แหล่งข่าวแจงว่า รัฐบาลชุดที่แล้วได้นำรายได้จากการขายที่ดินให้ธนาคารกลางราว 500 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งการขายหุ้นของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ คาซานาห์ เนชันแนล เบอร์ฮัด อีกประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ ไปชำระหนี้ของ 1เอ็มดีบีให้แก่กองทุนไอพีไอซีของรัฐบาลอาบูดาบีเมื่อปีที่แล้ว โดย ณ เวลานั้น 1เอ็มดีบีอ้างว่า เงินที่นำไปชำระหนี้ได้มาจากแผนปรับโครงสร้างกิจการ
ในแถลงการณ์ทางอีเมลที่ส่งถึงสำนักข่าวรอยเตอร์ คาซานาห์เผยว่า กระทรวงคลังใช้สิทธิ์ไถ่ถอนหุ้นบุริมสิทธิ์แปลงสภาพชนิดไถ่ถอนมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
ทางด้านแบงก์ เนการา มาเลเซีย หรือธนาคารกลางมาเลเซีย แถลงเมื่อวันที่ 4 มกราคมปีนี้ว่า ตกลงซื้อที่ดินจากรัฐบาลเป็นมูลค่าราว 500 ล้านดอลลาร์ หลังจากหารือนานหลายเดือน และล่าสุด แบงก์ชาติแดนเสือเหลืองแถลงว่า ได้ส่งรายละเอียดเรื่องนี้ให้สำนักงานปราบปรามการทุจริตตรวจสอบแล้ว
สัปดาห์นี้ รัฐมนตรีคลังคนใหม่แฉว่า รัฐบาลนาจิบหลอกลวงประชาชนและรัฐสภาเกี่ยวกับสถานะการเงินของประเทศและ 1 เอ็มดีบี และว่า นับจากเดือนเมษายนปีที่แล้ว กระทรวงคลังจ่ายหนี้ที่ถึงกำหนดชำระของ 1 เอ็มดีบีไปแล้ว 1,755 ล้านดอลลาร์ และรัฐบาลจะต้องจ่ายหนี้ของกองทุนแห่งนี้อีกหลายพันล้านดอลลาร์ในปี 2022
นาจิบ ซึ่งรับตำแหน่งรัฐมนตรีคลังตั้งแต่ปี 2008 รวมถึงระหว่างนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีจนกระทั่งพลิกล็อกแพ้การเลือกตั้งหมดรูปเมื่อต้นเดือน ไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ เช่นเดียวกับ 1 เอ็มดีบี
สถานะการเงินของกองทุนแห่งนี้ถูกเปิดโปงภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ของนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตผู้นำในตำนานที่หวนคืนสู่วงการการเมืองอีกครั้ง และรื้อการสอบสวนคดีฟอกเงินและทุจริตที่เกี่ยวพันกับ 1 เอ็มดีบีขึ้นมาใหม่ โดยมีผู้ต้องสงสัยสำคัญคือนาจิบ
มหาเธร์ยังกล่าวหารัฐบาลนาจิบประเมินมูลค่าหนี้สาธารณะต่ำเกินจริง เนื่องจากมูลค่าจริงนั้นสูงถึง 1 ล้านล้านริงกิต (250,000 ล้านดอลลาร์) หรือ 65% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แต่นาจิบกลับบอกว่า มีแค่ 50.9% ของจีดีพีเท่านั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นาจิบโพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อคืนวันพุธ (23) กล่าวหามหาเธร์และรัฐมนตรีคลังคนใหม่พูดความจริงไม่หมด และทำให้ตลาดหุ้นร่วง
วันพฤหัสฯ นาจิบเดินทางไปให้ปากคำกับสำนักงานปราบปรามการทุจริตอีกครั้งเกี่ยวกับเงินปริศนา 10.6 ล้านดอลลาร์ที่โอนเข้าบัญชีส่วนตัวของเขา ซึ่งเชื่อว่ามาจากบริษัทในเครือของ 1 เอ็มดีบีที่ชื่อว่า เอสอาร์ซี อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งรัฐบาลของนาจิบตั้งขึ้นเพื่อลงทุนในทรัพยากรพลังงานในต่างประเทศ
วันเดียวกันนั้น ซาเวียร์ จัสโต ผู้เปิดโปงความไม่ชอบมาพากลใน 1 เอ็มดีบีคนแรก เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามการทุจริตเช่นเดียวกัน
นาจิบและภรรยา รอสมาร์ มานซอร์ ถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศ สัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจยังเข้าตรวจค้นบ้านพักและคอนโดมิเนียมส่วนตัว รวมทั้งสถานที่อื่นอีกหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ ซึ่งต่อมาเมื่อวันพฤหัสฯ หนังสือพิมพ์ เดอะ สตาร์ รายงานว่า ทรัพย์สินและเงินสดที่ตำรวจยึดมาจากที่พักของนาจิบมีมูลค่ารวมถึง 130 ล้านริงกิต หรือเกือบ 33 ล้านดอลลาร์
