บูร์กินาฟาโซตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน

เอเจนซีส์ - ไต้หวันถูกตัดสัมพันธ์ทางการทูตเป็นครั้งที่สองในช่วงเวลาไม่ถึงเดือน เมื่อประเทศบูร์กินาฟาโซ ประกาศในวันพฤหัสบดี (24 พ.ค.) ถึงการตัดสัมพันธ์ดังกล่าว หลังจากที่จีนกดดันบรรดาชาติแอฟริกาอย่างหนัก

ไต้หวันเหลือสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเพียงแค่ 18 ประเทศเท่านั้น หลายประเทศเป็นชาติยากจนในอเมริกากลางและแถบแปซิฟิก

กระทรวงการต่างประเทศของบูร์กินาฟาโซ ไม่ได้ระบุถึงจีนโดยตรง แต่บอกว่า วิวัฒนาการของโลก รวมถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและภูมิภาค ผลักดันให้ต้องมีการทบทวนจุดยืนอีกครั้ง

โจเซฟ วู รัฐมนตรีต่างประเทศของไต้หวัน ระบุในการแถลงข่าวอย่างเร่งรีบว่า เขาได้ยื่นขอลาออกกับประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน พร้อมทั้งบอกว่ารู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของบูร์กินาฟาโซ แต่ไต้หวันไม่อาจแข่งขันกับพลังเงินของจีนได้

ที่ผ่านมา ไต้หวันกล่าวหาจีนว่าใช้วิธีล่อลวงมิตรประเทศของไต้หวันให้ตีตัวออกห่าง โดยให้ความช่วยเหลือในลักษณะเอาเงินฟาดหัว ซึ่งจีนปฏิเสธคำกล่าวหานี้ พร้อมทั้งบอกว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ไม่มีสิทธิ์ที่จะมีสัมพันธ์การทูตเป็นทางการกับประเทศอื่นๆ

ยังไม่มีการแสดงความเห็นออกมาจากทางฝั่งกระทรวงการต่างประเทศของจีน แต่สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนได้รายงานข่าวเรื่องนี้ โดยไม่มีการระบุถึงปฏิกิริยาจากทางจีน

บูร์กินาฟาโซ เป็นประเทศที่ 5 ที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน นับตั้งแต่ ไช่ อิงเหวิน ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวัน ซึ่งประเทศที่ตัดสัมพันธืไปก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย โดมินิกัน แกมเบีย เซาตูเม ปานามา

นี่เป็นครั้งที่สองที่บูร์กินาฟาโซตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน ครั้งที่แล้วเกิดขึ้นในปี 1973 จากนั้นก็กลับมาผูกสัมพันธ์กันต่อในปี 1994