xs
xsm
sm
md
lg

ปธ.คกก.ปราบปรามทุจริตมาเลเซียเผยโดน “ลูกปืน” ขู่ถึงบ้าน ขณะไล่บี้ “นาจิบ” ยักยอกเงิน 1MDB

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 โมฮาหมัด ชุกรี อับดุล ประธานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งมาเลเซีย ตั้งโต๊ะแถลงข่าวที่เมืองปุตราจายา วันนี้ (22 พ.ค.)
รอยเตอร์ - ประธานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตของมาเลเซียเผยมีคนส่ง “ลูกปืน” ไปข่มขู่ถึงบ้าน ขณะที่พยานหลายรายถูกบังคับสูญหาย และเจ้าหน้าที่รัฐโดนข่มขู่หรือไม่ก็ถูกปลด ระหว่างที่มีการสืบหาหลักฐานเพื่อเอาผิดกับอดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก ฐานยักยอกเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) เมื่อปี 2015

คณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งมาเลเซีย (MACC) ได้เรียก นาจิบ เข้าให้ปากคำวันนี้ (22 พ.ค.) เพื่ออธิบายที่มาที่ไปของเงิน 10.6 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 42 ล้านริงกิต ซึ่งถูกโอนเข้าบัญชีเงินฝากของเขา

โมฮาหมัด ชุกรี อับดุล ซึ่งได้รับการคืนตำแหน่งประธาน MACC หลังจาก นาจิบ แพ้เลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ระบุว่า ตนเพียงขอให้อดีตนายกฯ เข้ามาให้ปากคำ ยังไม่มีการออกหมายจับหรือตั้งข้อหาแต่อย่างใด

นายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮาหมัด ได้สั่งรื้อฟื้นการสอบสวนกรณีเงินหลายพันล้านดอลลาร์ถูกยักยอกไปจากกองทุน 1MDB ซึ่งเป็นคดีฉ้อโกงที่บั่นทอนภาพลักษณ์ของ นาจิบ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา และยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ชาวมาเลเซียส่วนใหญ่หันไปเทคะแนนหนุนฝ่ายค้านในศึกเลือกครั้งล่าสุด

ชุกรี ระบุว่า MACC เตรียมที่จะตั้งข้อหาเอาผิด นาจิบ เมื่อปี 2015 แต่ถูกรัฐบาลขัดขวางด้วยการสั่งปลดอัยการสูงสุดเสียก่อน

“ตอนนั้นมีแหล่งข่าวกรองเตือนว่า ผมจะถูกออกหมายจับและติดคุก เพราะถูกกล่าวหามีส่วนพัวพันกับกลุ่มที่จ้องล้มล้างรัฐบาล” ชุกรี กล่าวพร้อมกับปาดน้ำตา “มีคนส่งลูกปืนไปที่บ้านผม แต่ผมไม่เคยบอกภรรยาหรือคนในครอบครัว ไม่เคยแจ้งตำรวจด้วยซ้ำ”

ชุกรี ยังเล่าว่าเคยได้รับการคุ้มครองจากตำรวจอเมริกันระหว่างไปเยือนสหรัฐฯ เนื่องจากสงสัยว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงมาเลเซียสะกดรอยตาม

“เราแค่ต้องการนำเงินที่ถูกขโมยไปกลับคืนสู่มาเลเซีย แต่ผมกลับถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทรยศชาติ” ชุกรี กล่าว

ผลการเลือกตั้งเมื่อต้นเดือนนี้สร้างความตกตะลึงแก่ทุกฝ่ายและพลิกโฉมหน้าการเมืองมาเลเซียไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นการหยิบยื่นความพ่ายแพ้ครั้งแรกให้แก่กลุ่มแนวร่วม บาริซาน เนชันแนล (บีเอ็น) ที่ผูกขาดอำนาจปกครองมาเลเซียมานานกว่า 6 ทศวรรษตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1957

นายกฯ มหาเธร์ ได้ออกคำสั่งรื้อคดี 1MDB และตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อนำเงินที่ถูกยักยอกไปกลับคืนสู่ประเทศ

ทันทีที่หมดอำนาจ นาจิบ และภริยา รอสมะห์ มันซูร์ ก็ต้องเผชิญความอับอายหลายอย่าง ทั้งการถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศ โดนตำรวจบุกค้นบ้านพัก และทรัพย์สินจำนวนมากถูกยึด
อดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย เดินทางเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งมาเลเซียที่เมืองปุตราจายา วันนี้ (22 พ.ค.)
เรื่องอื้อฉาวภายใน 1MDB ถูกสื่อต่างประเทศตีแผ่จนเป็นข่าวคึกโครมในปี 2015 และแม้ นาจิบ จะยืนกรานว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่กลับสั่งปลดอัยการสูงสุดและเจ้าหน้าที่ MACC หลายคนเพื่อยุติการสอบสวนในช่วงแรกๆ

นาจิบ อ้างว่าเงิน 681 ล้านดอลลาร์ที่ถูกโอนมาเข้าบัญชีส่วนตัวของตนเป็น “เงินบริจาค” จากเจ้านายซาอุฯ พระองค์หนึ่ง ไม่ได้ถูกดึงมาจาก 1MDB ตามที่หลายคนเข้าใจ

สำหรับการสอบสวนใหม่ของ MACC ในขณะนี้จะพุ่งเป้าไปที่เงิน 42 ล้านริงกิตที่ถูกโอนจากบริษัท เอสอาร์ซี อินเทอร์เนชันแนล ไปโผล่เข้าบัญชี นาจิบ โดยเอสอาร์ซีนั้นเป็นบริษัทที่รัฐบาลมาเลเซียก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2011 เพื่อลงทุนด้านพลังงานในต่างประเทศ และเคยเป็นหน่วยงานหนึ่งของ 1MDB ก่อนจะถูกโอนไปสังกัดกระทรวงการคลังเมื่อปี 2012

MACC สามารถแกะรอยเส้นทางเงินที่โอนจากเอสอาร์ซีได้ง่ายกว่า เนื่องจากเป็นการทำธุรกรรมผ่านบริษัทในมาเลเซียเอง ขณะที่เงินทุน 1MDB ส่วนใหญ่ถูกยักย้ายถ่ายโอนผ่านธนาคารและบริษัทต่างชาติ

คณะสืบสวนเฉพาะกิจของมาเลเซียเตรียมจะประสานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในสหรัฐฯ สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ แคนาดา และประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามนำเงินกองทุนกลับคืนมา

ล่าสุด กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แถลงยืนยันวันนี้ (22 พ.ค.) ว่าจะยังคงเดินหน้าสืบสวนคดีทุจริตและฟอกเงิน 1MDB ต่อไป และพร้อมทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของมาเลเซีย

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ร้องต่อศาลในปี 2016 และ 2017 เพื่อขออายัดทรัพย์สินราว 1,700 ล้านดอลลาร์ที่ตรวจพบว่าซื้อหามาด้วยเงินที่ยักยอกจาก 1MDB และยังเคยกล่าวพาดพิงถึง นาจิบ ว่าเป็น “เจ้าหน้าที่รัฐหมายเลข 1” ที่มีส่วนในคดีฉ้อฉลนี้

คำร้องดังกล่าวระบุว่า มีเงินทุนราว 4,500 ล้านดอลลาร์ถูกผันออกจากกองทุน 1MDB ผ่านเครือข่ายฟอกเงินที่สลับซับซ้อนทั้งในสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น