xs
xsm
sm
md
lg

‘กองทัพอากาศจีน’ ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินขับไล่บินวน ‘เกาะไต้หวัน’

เผยแพร่:   โดย: เบอร์ทิล ลินต์เนอร์

<i>ภาพที่ถ่ายและเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (11 พ.ค.) โดยกระทรวงกลาโหมไต้หวัน แสดงให้เห็น เครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ของไต้หวัน (ซ้าย) กำลังบินอยู่ข้างๆ เครื่องบินทิ้งระเบิด เอช-6 เค ของจีนแผ่นดินใหญ่ </i>
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

China’s air force circles Taiwan with bombers and fighters
By Bertil Lintner
12/05/2018

กองทัพอากาศจีนจัดการฝึกซ้อมทางทหารเมื่อวันศุกร์ (11 พ.ค.) ที่ผ่านมา โดยมีทั้งเครื่องบินขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิด ตลอดจนเครื่องบินชนิดอื่นๆ เข้าร่วม และได้บินวนเวียนรอบเกาะไต้หวันอีกด้วย ทั้งนี้ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะขู่ขวัญ ก่อนหน้าไต้หวันเองจะจัดการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงในเดือนมิถุนายนนี้

กองทัพอากาศจีนได้ฝึกซ้อมทางทหารรอบๆ เกาะไต้หวันเมื่อวันศุกร์ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ตามรายงานของเว็บไซต์ “โฟกัส ไต้หวัน” (Focus Taiwan) ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เครื่องบินขับไล่แบบ ซู-35 (Su-35 fighters) และเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ เอช-6 เค (H-6K bombers) ของจีน บินผ่านบริเวณช่องแคบซึ่งแยกไต้หวันออกจากฟิลิปปินส์ โดยวัตถุประสงค์ของการฝึกอาจมุ่งหมายที่จะขู่ขวัญกองทัพที่เป็นอิสระของไต้หวัน พวกผู้สังเกตการณ์ชี้ว่ากองทัพจีนออกลาดตระเวนตรวจการณ์ใกล้ๆ ไต้หวันถี่ขึ้นมากนับตั้งแต่ที่ ไช่ อิงเหวิน (Tsai Ing-wen) แห่งพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progressive Party หรือ DPP) ซึ่งมีแนวทางฝักใฝ่ที่จะแยกตัวเป็นเอกราช เป็นผู้มีชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของไต้หวันเมื่อเดือนมกราคม 2016 โดยเอาชนะผู้สมัครของพรรคก๊กมิ่นตั๋ง (Kuomintang) คือ อิริค ชู (Eric Chu) นายกเทศมนตรีกรุงไทเป

นอกเหนือจากฝูงเครื่องบิน ซู-35 และ เอช-6 เค แล้ว มีรายงานว่าการซ้อมรบของฝ่ายจีนคราวนี้ยังประกอบด้วยเครื่องบินทหารแบบอื่นๆ ได้แก่ เครื่องบินขับไล่ เจ-11 (J-11 fighters), เครื่องบินขนส่ง ส่านซี วาย-8 (Shaanxi Y-8 transport planes), เครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้า เคเจ-2000 (Kj-2000 early warning aircraft) และเครื่องบินตรวจการณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตู-154 (Tu-154 electronic surveillance aircraft) ถึงแม้ทั้งปักกิ่งและไทเปต่างไม่ได้เปิดเผยจำนวนเครื่องบินทั้งหมดซึ่งเข้าร่วม แต่กองบัญชาการกองทัพอากาศของไต้หวันก็ได้ออกคำแถลงฉบับหนึ่งระบุว่า เครื่องบินของจีนมีทั้งส่วนที่เดินทางอยู่ในเส้นทางสายเหนือ โดยผ่านช่องแคบมิยาโกะ (Miyako Strait) แล้วจากนั้นก็ผ่านช่องแคบปาซื่อ (Bashi channel) ที่อยู่ระหว่างไต้หวันกับฟิลิปปินส์ ก่อนเลี้ยวกลับฐานทัพ สำหรับพวกที่อยู่ในเส้นทางสายใต้นั้นได้บินในทิศทางตรงกันข้ามย้อนกลับไปยังแผ่นดินใหญ่
<i>เครื่องบินขับไล่ เอฟ-ซีเค-1อินดิจีนัส ดีเฟนซ์ ไฟเตอร์ ของไต้หวัน (ขวา) กำลังบินใกล้ๆ เครื่องบิน ตู-154 เอ็ม ของจีน (ภาพที่ถ่ายและเผยแพร่โดยกระทรวงกลาโหมไต้หวัน เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พ.ค.) </i>
ทางด้านไต้หวันได้ส่งเครื่องบินไอพ่นของตนเอง ทั้งเครื่องบินขับไล่ อินดิจีนัส ดีเฟนซ์ ไฟเตอร์ (Indigenous Defense Fighter) และ เอฟ-16 (F-16) ขึ้นเฝ้าระวังติดตามการฝึกซ้อม โดยมีการเผยแพร่ภาพจำนวนหนึ่งบนหน้าเฟซบุ๊กของกองทัพอากาศไต้หวัน ซึ่งแสดงให้เห็นเครื่องบินไต้หวันกำลังติดตามความเคลื่อนไหวของอากาศยานของจีน ขณะที่กองทัพอากาศจีนก็โพสต์เรื่องการฝึกซ้อมครั้งนี้ของตนในเว็บไซต์สื่อสังคมอย่างเป็นทางการของตนเช่นกัน โดยที่มีการระบุถึงคำแถลงของโฆษกผู้หนึ่งซึ่งบอกว่า กองทัพอากาศจีนจะยังคงวนเวียนอยู่รอบๆ ไต้หวัน “ตามแผนการที่กำหนดเอาไว้ และมีความมั่นใจว่าสามารถที่จะพิทักษ์ปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีนได้” –ซึ่งเป็นการอ้างอิงกันตรงๆ ถึงความพยายามใดๆ ก็ตามของไต้หวันที่จะประกาศตัวเป็นเอกราชแยกจากแผ่นดินใหญ่

สำหรับการซ้อมรบป้องกันเกาะแห่งนี้ของฝ่ายไต้หวันโดยเป็นการฝึกซ้อมด้วยกระสุนจริงซึ่งกระทำกันเป็นประจำทุกปีนั้น ในปีนี้คาดหมายกันว่าจะเริ่มขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน โดยที่เมื่อปลายเดือนเมษายน เฉิน ชุงฉือ (Chen Chung-chi) โฆษกผู้หนึ่งของกระทรวงกลาโหมไต้หวัน ได้เคยแถลงกับผู้สื่อข่าวว่า เป้าหมายสำคัญที่สุดของการซ้อมรบครั้งนี้ ก็เพื่อ “ทำให้ภารกิจทางทหารใดๆ ของฝ่ายจีนคอมมิวนิสต์ในการรุกรานไต้หวันต้องประสบความล้มเหลว”

ถึงแม้ในทางหลักการแล้ว พรรค DPP ต้องการให้ไต้หวันกลายเป็นประเทศเอกราชประเทศหนึ่งอย่างแท้จริง แทนที่จะรักษาฐานะความเป็น “สาธารณรัฐจีน” (Republic of China) เอาไว้ต่อไปภายหลังฝ่ายคอมมิวนิสต์มีชัยยึดแผ่นดินใหญ่ไปได้ตั้งแต่เมื่อปี 1949 แล้ว แต่ประธานาธิบดีไช่กล่าวระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของเธอว่า เธอปรารถนาที่จะรักษาสถานะเดิมเอาไว้, สงวนรักษาความคืบหน้าต่างๆ ที่รัฐบาลชุดก่อนๆ ได้กระทำมาในความสัมพันธ์กับแผ่นดินใหญ่, ขณะเดียวกันก็สงวนรักษาสิ่งที่เธอเรียกว่า “เสรีภาพและประชาธิปไตย” สำหรับไต้หวัน อย่างไรก็ตาม เราย่อมสามารถคาดหมายได้อย่างแน่นอนทีเดียวว่าการฝึกซ้อมของฝ่ายจีนแบบที่เกิดขึ้นเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จะยังคงเกิดขึ้นมาอีกครั้งแล้วครั้งเล่า ตราบใดก็ตามที่พรรค DPP ยังคงอยู่ในอำนาจ


กำลังโหลดความคิดเห็น