xs
xsm
sm
md
lg

จีนเตือนสหรัฐฯ “กลับลำ” ก่อนเกิดสงครามการค้า หลัง “ทรัมป์” สั่งรีดภาษีนำเข้าสินค้าจีน $60,000 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน
รอยเตอร์ - รัฐบาลจีนออกมาเตือนสหรัฐให้ “กลับลำ” เสียในวันนี้ (23 มี.ค.) หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งให้มีการเก็บภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้าจีนมูลค่าสูงสุดถึง 60,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจทำให้มหาอำนาจทางเศรษฐกิจเบอร์ 1 และ 2 ของโลกมุ่งหน้าสู่ “สงครามการค้า” เต็มรูปแบบ

ความตึงเครียดระหว่างปักกิ่งและวอชิงตันส่งแรงกระเพื่อมถึงตลาดเงิน เนื่องจากนักลงทุนต่างวิตกว่ามาตรการกำแพงภาษีเหล่านี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก

ทรัมป์ ระบุว่า คำสั่งนี้เป็นแค่ “มาตรการทางการค้าชุดแรก" ซึ่งจะเล็งเป้าจำกัดการลงทุนของจีนในสหรัฐฯ เช่นกัน พร้อมชี้ว่าสหรัฐฯ กำลังเผชิญปัญหาการขโมยทรัพย์สินทางปัญหา “ครั้งมโหฬาร" ซึ่งมีการเริ่มต้นสอบสวนตั้งแต่ปีที่แล้วโดยอาศัยมาตรา 301 ของกฎหมายการค้าสหรัฐฯ ปี 1974

กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกมาแถลงตอบโต้วันนี้ (23) ว่า “จีนไม่ได้ปรารถนาสงครามการค้า แต่หากจำเป็นต้องทำก็ไม่กลัว”

“จีนหวังว่าสหรัฐฯ จะกลับลำ ตัดสินใจให้รอบคอบ และหลีกเลี่ยงการดึงความสัมพันธ์การค้าทวิภาคีเข้าสู่จุดที่อันตราย”

คำสั่งที่ ทรัมป์ ลงนามเมื่อวานนี้ (22) ยังกำหนดระยะเวลาหารือ 30 วัน ซึ่งจะเริ่มก็ต่อเมื่อผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้เสนอบัญชีรายชื่อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่เห็นควรขึ้นภาษีนำเข้า ก่อนที่คำสั่งรีดภาษีจะมีผลบังคับอย่างสมบูรณ์

ทรัมป์ ยืนยันว่ายังคงเห็นจีนเป็น “มิตร” จะทั่งสองฝ่ายก็กำลังมีการเจรจากันอยู่

จีนเองก็แสดงท่าทีว่าพร้อมจะแก้แค้น โดยประกาศแผนขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่าสูงสุด 3,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงสินค้าจำพวกผลไม้สด ไวน์ และถั่วต่างๆ เพื่อตอบโต้คำสั่งขึ้นภาษีเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมของ ทรัมป์ ที่จะเริ่มมีผลบังคับในวันนี้ (23)

มาร์ก วิลเลียมส์ นักเศรษฐศาสตร์ด้านเอเชียจากบริษัทที่ปรึกษา แคปปิตอล อีโคโนมิกส์ ชี้ว่า คำสั่งขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนในวันนี้ “เป็นมากกว่าการตักเตือนเบาๆ” และตนเชื่อว่าจีน “จะไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งก็แปลว่ามีโอกาสที่สถานการณ์จะลุกลามบานปลาย”

วิลเลียมส์ ประเมินว่า สินค้าจีนที่ถูกส่งเข้ามาขายในสหรัฐฯ มีมูลค่าราว 506,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 2.5% ของจีดีพีแดนมังกร มาตรการทางภาษีของ ทรัมป์ ซึ่งพุ่งเป้าเล่นงานสินค้าจีน 50,000-60,000 ล้านดอลลาร์จึงคิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.25% ของจีดีพีจีนเท่านั้น

กระแสความกังวลเรื่องนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ เริ่มแรงขึ้น หลังจากที่ ทรัมป์ เซ็นคำสั่งขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กกล้าและอะลูมิเนียม โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 232 ของกฎหมาย Trade Expansion Act ปี 1962 ซึ่งเปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐฯ กีดกันการนำเข้าสินค้าที่อาจกระทบต่อ “ความมั่นคงของชาติ”

ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศยกเว้นมาตรการขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมให้แก่แคนาดา เม็กซิโก อาร์เจนตินา บราซิล เกาหลีใต้ และสหภาพยุโรปในวันนี้ (23) ในขณะที่จีนนั้นไม่ได้รับการยกเว้น แม้จะเป็นซัพพลายเออร์รายย่อยกว่าแคนาดาและเกาหลีใต้ก็ตาม

ญี่ปุ่นซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ ก็ยังไม่มีชื่ออยู่ในบัญชียกเว้น แต่โฆษกรัฐบาลปลาดิบยืนยันว่าโตเกียวจะพยายามขอให้สหรัฐฯ ยกเว้นมาตรการทางภาษีต่อญี่ปุ่นด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น