ข้าหลวงสิทธิยูเอ็นฯของขึ้นไล่'ดูเตอร์เต'ไปตรวจสุขภาพจิต หลังโดนจัดหนักเป็นชุด

เอเอฟพี - หัวหน้าหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติในวันศุกร์(9มี.ค.) แนะประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพจิต ตอบโต้กรณีที่ผู้นำมะนิลารายนี้ด่าว่าคณะผู้รายงานพิเศษของยูเอ็นด้วยถ้อยคำหยาบคาย

เซอิด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หยิบยกพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่างๆนานาของมะนิลาต่อคณะผู้แทนของยูเอ็น ในนั้นรวมถึงใช้ถ้อยคำหยาบคายด่าทอข่มขู่ผู้รายงานพิเศษของยูเอ็นและล่าสุดยังขึ้นบัญชีผู้รายงานพิเศษอีกคนเป็นผู้ก่อการร้ายด้วย "มันทำให้เชื่อว่าประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์จำเป็นต้องพาตัวเองไปประเมินบางอย่างเกี่ยวกับอาการทางจิต"

คำพูดตอบโต้ครั้งนี้มีขึ้นหลังจากมีรายงานข่าวว่า รัฐบาลของดูเตร์เตได้ยื่นคำร้องต่อศาล ขอขึ้นบัญชีบุคคลมากกว่า 600 คน ซึ่งรวมถึงผู้รายงานพิเศษของยูเอ็น 1 ราย, อดีต ส.ว.ฟิลิปปินส์ 1 ราย และอดีตบาทหลวงคาทอลิกอีก 4 ราย ว่าเป็น "ผู้ก่อการร้าย"

ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติและเจ้าหน้าที่ด้านสิทธิมนุษยชนคนอื่นๆของยูเอ็น พุ่งเป้าให้ความสนใจอย่างยิ่งต่อสงครามต่อต้านยาเสพติดอันเป็นที่ถกเถียงของดูเตอร์เต

ตำรวจได้วิสามัญฆาตกรรมพวกผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับยาเสพติดแล้วมากกว่า 4,100 ราย นับตั้งแต่ ดูเตอร์เต เข้ารับตำแหน่งในปี 2016 แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลายกล่าวอ้างว่ามีคนอื่นๆอีกกว่า 8,000 คนที่ถูกฆาตกรรม ในสิ่งที่พวกเขาระบุว่ามันเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

แอกเนส คัลลามาร์ด ผู้รายงานพิเศษของยูเอ็นด้านการวิสามัญฆาตกรรม เป็นอีกผู้หนึ่งที่ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของดูเตร์เตโดยเฉพาะ สาเหตุเพราะเธอวิจารณ์สงครามยาเสพติดของเขา

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน ดูเตอร์เต ประกาศว่าเขาจะไม่มีทางให้ความร่วมมือกับคณะสืบสวนของยูเอ็นที่เข้าตรวจสอบเหตุวิสามัญฆาตกรรมใฟิลิปปินส์ " "ถ้าพวกเขาถามคุณว่าทำอะไรผิด จงอย่าตอบ และถ้าพวกเขาถามว่าทำไม จงบอกกับพวกเขาว่า เรามีผู้บัญชาการสูงสุด คนที่พวกเขาควรพูดคุยด้วย" ดูเตอร์เตกล่าว

ระหว่างการสนทนาแลกเปลี่ยนกับคณะผู้แทนจากฟิลิปปินส์ที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยูเอ็นเมื่อวันพฤหัสบดี(8มี.ค.) เซอิด กล่าวถึงรายงานข่าวจากฟิลิปปินส์เมื่อเดือนพฤศจิกายน อ้างอิงคำพูดของดูเตร์เตที่เขาขู่จะตบคัลลามาร์ด พร้อมกับด่าทอเธออย่างหยาบคาย

"เป็นเรื่องน่าเสื่อมเสียงอย่างแท้จริงที่ประธานาธิบดีของประเทศหนึ่งพูดอะไรแบบนี้ ใช้ภาษาหยาบคายที่สุดกับผู้รายงานพิเศษที่ได้รับความยอมรับนับถืออย่างสูง" เซอิดกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์

มะนิลาตอบโต้คำบ่งชี้ของเซอิดที่ว่าประธานาธิบดีอาจป่วยทางจิต โดยเรียกความเห็นของข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติว่าเป็นอารมณ์ที่เดือดพล่าน "คำพูดของข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาตินำความเสื่อมเสียใหญ่หลวงมายังคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ" รัฐมนตรีต่างประเทศของฟิลิปปินส์ระบุในถ้อยแถลง