xs
xsm
sm
md
lg

อดีตสายลับสองหน้าชาวรัสเซีย'ถูกพิษ' อาการโคม่าหน้าศูนย์การค้าในอังกฤษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตำรวจยืนอยู่ด้านนอกของบ้านหลังหนึ่งในเมืองซัลส์บิวรี สหราชอาณาจักร เมื่อวันอังคาร (6 มี.ค.) โดยเป็นที่เข้าใจกันว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนคดีอดีตสายลับสองหน้าชาวรัสเซีย เซียร์เก สกรีปัล พร้อมกับบุตรสาว ถูกสารพิษที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองนี้
รอยเตอร์ - อดีตสายลับสองหน้าชาวรัสเซียผู้หนึ่ง ซึ่งเวลานี้พำนักอยู่ในอังกฤษภายหลังถูกมอสโกตัดสินว่ามีความผิดฐานทรยศกบฎชาติ จากการขายความลับเกี่ยวกับสปายจำนวนหลายสิบคนให้แก่หน่วยข่าวกรองของลอนดอน ได้เกิดล้มป่วยอาการโคม่าอย่างกะทันหันโดยสงสัยกันว่าเขาถูกยาพิษ ขณะนี้ตำรวจสหราชอาณาจักรกำลังเร่งสืบสวนสอบสวน เพื่อระบุให้ได้ว่าสารต้องสงสัยดังกล่าวคือสารอะไร

มาร์ค โรวลีย์ เจ้าหน้าที่ระดับท็อปด้านต่อต้านการก่อการร้ายของสหราชอาณาจักรแถลงในวันอังคาร (6 มี.ค.) ว่า ทีมสอบสอบจำเป็นที่จะต้อง “เจาะให้ทราบถึงข้อเท็จจริงซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อรัฐนี้” หลังจาก เซียร์เก สกรีปัล ซึ่งเคยเป็นนายทหารยศพันเอก ในศูนย์บัญชาการข่าวกรองทางทหารของกองทัพรัสเซีย (GRU) ได้ล้มป่วยอย่างปุบปับ

มีผู้พบอดีตสปายรัสเซียวัย 66 ปีผู้นี้ และหญิงวัย 33 ปีอีกคนหนึ่งซึ่งถูกระบุว่าคือ ยูเลีย บุตรสาวของเขา อยู่ในอาการหมดสติบนม้านั่งด้านนอกห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่เมืองซัลส์บิวรี ทางตอนใต้ของเขตการปกครองอังกฤษเมื่อวันอาทิตย์ (4) ภายหลังถูกสารชนิดหนึ่งซึ่งตำรวจยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นอะไร

ทั้งคู่อยู่ในอาการสาหัสและเข้ารับการดูแลรักษาในหอผู้ป่วยหนัก

สกรีปัล ซึ่งได้แจ้งระบุอัตลักษณ์ของสายลับจำนวนหลายสิบคนให้แก่ เอ็มไอ 6 อันเป็นหน่วยงานข่าวกรองในต่างประเทศของสหราชอาณาจักร และน่าจะสร้างความเสียหายหนักให้แก่เครือข่ายสายลับรัสเซียทั้งในสหราชอาณาจักรและในยุโรป ได้เข้าพำนักลี้ภัยอยู่ในอังกฤษ หลังจากมีการแลกตัวเขากับสปายรัสเซียหลายรายที่ถูกจับกุมในโลกตะวันตก ตามแผนการแลกเปลี่ยนสายลับในสไตล์ยุคสงครามเย็นที่ท่าอากาศยานกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของสหราชอาณาจักรบอกว่า เหตุที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ ยังไม่ได้ทำให้สาธารณชนตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างแน่ชัด แต่กระนั้นตำรวจก็ได้ปิดกั้นบริเวณที่พบอดีตสายลับผู้นี้ และร้านขายพิซซ่าชื่อ ซิซซี ในบริเวณใจกลางเมืองซัลส์บิวรี โดยเจ้าหน้าที่สอบสวนบางคนซึ่งไปตรวจสอบที่เกิดเหตุสวมใส่ชุดสีเหลืองที่ใช้ป้องกันสารเคมีพิษ

“เรากำลังพูดคุยกับพยาน เรากำลังเก็บตัวอย่างทางนิติวิทยาศาสตร์จากที่เกิดเหตุ เรากำลังทำงานในเรื่องพิษวิทยา และนี่จะช่วยให้เราได้คำตอบ” โรวลีย์กล่าวทางวิทยุบีบีซี เขาบอกด้วยว่าตำรวจต่อสู้การก่อการร้ายเข้ามาช่วยเหลือการสอบสวนคราวนี้ด้วย

“เราต้องจำเอาไว้ว่า พวกผู้ลี้ภัยชาวรัสเซียนั้นไม่ได้เป็นอมตะ พวกเขาก็ต้องตายกันทุกคนแหละ และมันมีแนวโน้มที่จะขบคิดให้เป็นทฤษฎีสมคบคิดขึ้นมา แต่ในทำนองเดียวกันเราก็ต้องเจาะให้ทราบถึงข้อเท็จจริงซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อรัฐนี้” เขากล่าว พร้อมกับอ้างอิงถึงคดีฆาตกรรม อเล็กซานเดอร์ ลิตวิเนนโก
เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนคุ้มกันพื้นที่หนึ่ง หลังอดีตสายลับสองหน้าชาวรัสเซีย เซียร์เก สกรีปัล พร้อมกับบุตรสาว ถูกสารพิษที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองซัลส์บิวรี สหราชอาณาจักร เมื่อวันจันทร์ (5 มี.ค.)
ทั้งนี้ ผลการสอบสวนของฝ่ายสหราชอาณาจักรระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อาจจะเป็นผู้อนุมัติด้วยตนเองให้สังหารลิตวิเนนโก อดีตสายลับเคจีบี ในปี 2006 ถึงแม้วังเครมลินปฏิเสธเรื่องนี้ตลอดมา

ลิตวิเนนโก วัย 43 ปี เคยวิพากษ์วิจารณ์ ปูติน และระบบการปกครองรัสเซียอย่างเผ็ดร้อน เขาถูกพิษจากการดื่มชาเขียวที่มีผู้แอบใส่สารกัมมันตรังสี พอโลเนียม-210 ลงไปในกาน้ำชาที่โรงแรมมิลเลนเนียมในกรุงลอนดอน หลังหลบหนีมาพำนักในสหราชอาณาจักรได้เพียง 6 ปี

แพทย์สหราชอาณาจักรต้องใช้เวลานานพอสมควร กว่าจะระบุสาเหตุของอาการป่วยและการเสียชีวิตของเขาได้

สำหรับเหตุล่าสุดคราวนี้ ตำรวจสหราชอาณาจักรยังไม่ได้เปิดเผยชื่อของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาทั้งสองราย แต่แหล่งข่าว 2 รายที่ใกล้ชิดกับกระบวนการสืบสวนบอกกับรอยเตอร์ว่า คนป่วยหนักที่เป็นชายคือ สกรีปัล แต่ยังไม่ทราบว่าเขาถูกสารพิษชนิดใด

ทางด้านวังเครมลินได้ออกมาแถลงว่า พร้อมให้ความร่วมมือหากสหราชอาณาจักรขอให้เข้าช่วยเหลือการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสกรีปัลนี้

“ยังไม่มีใครติดต่อเราเพื่อขอร้องเรื่องนี้” ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินกล่าว เมื่อถูกถามว่าเจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักรได้ติดต่อขอความช่วยเหลือแล้วหรือยัง และยืนยันว่า “มอสโกเปิดกว้างสำหรับการร่วมมือเสมอมา”

เปสคอฟซึ่งเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่าเป็น “สถานการณ์อันน่าเศร้าใจ” กล่าวด้วยว่าวังเครมลินไม่ได้มีข้อมูลข่าวสารใดๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้เลย

ครั้นเมื่อถูกถามว่า สื่อสหราชอาณาจักรต่างคาดเดากันว่ารัสเซียวางยาพิษสกริปัล เปสคอฟก็ตอบว่า “พวกเขาไม่ได้ใช้เวลายาวนานเลย” ก็คาดเดาเรื่องกันเช่นนี้แล้ว

สกรีปัล ถูกสำนักงานความมั่นคงสหพันธรัฐรัสเซีย (เอฟเอสบี) จับกุมในปี 2004 เนื่องจากต้องสงสัยว่าทรยศขายอัตลักษณ์สายลับรัสเซียจำนวนหลายสิบคนให้หน่วยข่าวกรองสหราชอาณาจักร และถูกตัดสินจำคุก 13 ปี เมื่อปี 2006 ภายหลังการพิจารณาคดีอย่างเป็นความลับ

สกรีปัล ซึ่งในตอนที่มีการแพร่ภาพขณะที่เขาถูกตัดสินลงโทษนั้น กำลังใส่ชุดวอร์มแบบนักกีฬาอยู่ภายในกรงในห้องพิจารณาคดี เขายอมรับว่าทรยศขายสายลับรัสเซียให้หน่วยเอ็มไอ 6 จริงเพื่อแลกกับเงินตอบแทน ซึ่งบางส่วนจ่ายผ่านบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งของสเปน ทั้งนี้ตามรายงานของสื่อรัสเซียในเวลานั้น

อย่างไรก็ดี เขาได้รับการอภัยโทษในสมัยของประธานาธิบดี ดมิตรี เมดเวเดฟ ตามโครงการแลกเปลี่ยนตัวสายลับระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียเมื่อปี 2010 ซึ่งถือเป็นการแลกเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในยุคหลังสงครามเย็น

ในเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นที่สนามบินเวียนนาคราวนั้น สหรัฐฯ ได้ส่งสายลับทั้งหมด 10 คนคืนให้แก่มอสโก หนึ่งในนั้นคือ แอนนา แชปแมน ซึ่งเครมลินให้การต้อนรับกลับบ้านประหนึ่งวีรสตรี โดยเธอเป็นหนึ่งในสายลับหมีขาว 10 คนที่เข้าไปแฝงตัวในอเมริกาเพื่อตีสนิทกับพวกผู้มีอิทธิพลและล้วงความลับจากคนเหล่านั้น ก่อนจะถูกสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จับกุมเมื่อปี 2010

หลังออกจากโลกแห่งการจารกรรมและการทรยศหักหลัง สกรีปัล ใช้ชีวิตเงียบๆ ในซัลส์บิวรี ถึงแม้หนังสือพิมพ์เดอะซัน รายงานว่า ภรรยาของเขาเสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่นานหลังจากเธอมาอยู่ในสหราชอาณาจักร ขณะที่บุตรชายของเขาก็ตายในอุบัติเหตุทางรถยนต์เช่นกันในประเทศรัสเซีย

สกรีปัลกลายเป็นข่าวดังอีกครั้ง เมื่อมีผู้พบเห็นเขานั่งทำท่าทางแปลกๆ ในวันอาทิตย์ (4)

“บนม้านั่งมีคนอยู่ 2 คน ผู้ชายสูงอายุกับหญิงสาวที่อ่อนกว่า ดูเหมือนเธอจะหมดสติแล้วก็เอนพิงเขา ส่วนผู้ชายก็ทำไม้ทำมือแปลกๆ แล้วก็มองขึ้นไปบนฟ้า” ฟรียา เชิร์ช ผู้เห็นเหตุการณ์ ให้สัมภาษณ์กับบีบีซี

“พวกเขาดูเพ้อๆ จนฉันคิดว่าถึงเข้าไปช่วยก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เลยปล่อยไว้อย่างนั้น ดูเหมือนว่าพวกเขาน่าจะเสพสารอะไรอย่างแรงเข้าไป”


กำลังโหลดความคิดเห็น