xs
xsm
sm
md
lg

‘แมร์เคิล’จัดตั้งรบ.ผสมสำเร็จ ครองเยอรมนีอีก 4 ปี หลังพรรคเอสพีดีลงมติเข้าร่วม แต่นักวิเคราะห์ชี้ฐานะของเธออ่อนแอลงมาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<i>ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 23 พ.ย. 2016 ขณะนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี เข้าร่วมการประชุมบุนเดสตัก หรือสภาล่าง ของรัฐสภา ในกรุงเบอร์ลิน  ทั้งนี้ผลประชามติของสมาชิกพรรคเอสพีดีที่ประกาศในวันอาทิตย์ (4 มี.ค.) ทำให้เธอสามารถจัดตั้งรัฐบาลและเข้าเป็นนายกฯสมัยที่ 4 ถึงแม้ฐานะอ่อนแอลงกว่าเดิมมาก </i>
เอเอฟพี/รอยเตอร์ – นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี จะได้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 4 ปี ภายหลังผลการลงคะแนนที่ประกาศกันในวันนี้ (4 มี.ค.) ระบุว่า สมาชิกพรรคโซเชียลเดโมแครต (เอสพีดี) ตัดสินใจอย่างหนักแน่นที่จะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคอนุรักษนิยมของเธออีกครั้ง เป็นการยุติความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ดำเนินยืดเยื้อมาหลายเดือน

สมาชิกพรรคเอสพีดีถึงสองในสามโหวต “รับ” ในการลงมติประชามติว่าจะยอมรับข้อเสนอเข้าร่วมรัฐบาลผสมหรือไม่ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าความคาดหมายของแทบทุกฝ่าย และนี่หมายความว่าแมร์เคิลสามารถที่จะสาบานตัวเข้าบริหารปกครองประเทศต่อไปภายในกลางเดือนมีนาคมนี้ ด้วยรัฐบาลผสมระหว่างพรรคฝ่ายกลาง-ขวาของเธอ กับพรรคกลาง-ซ้ายอย่างเอสพีดี อย่างที่ได้กระทำมานับตั้งแต่ปี 2013

เวลานี้ความท้าทายด้านต่างๆ กำลังสะสมโถมทับเข้าใส่แมร์เคิล ผู้ซึ่งอยู่ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรีมาเป็นเวลากว่า 5 เดือนแล้วตั้งแต่ผลการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกันยายนปีที่แล้ว ออกมาโดยไม่มีฝ่ายใดครองเสียงข้างมากชัดเจน ท่ามกลางการจับตามองของยุโรปที่เล็งเห็นว่าเยอรมนีซึ่งเป็นระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในทวีปนี้ควรจะสามารถแสดงความเป็นผู้นำในประเด็นปัญหาต่างๆ ทั้งทางเศรษฐกิจและด้านความมั่นคง

อย่างไรก็ดี แมร์เคิลซึ่งอยู่ในอำนาจมา 12 ปีแล้ว จะเดินหน้าเข้าสู่สมัยที่ 4 ของเธอด้วยฐานะที่อ่อนแอกว่าเมื่อก่อนมาก ส่วนหนึ่งเนื่องจากเธอต้องจ่ายราคาแพงลิ่วทีเดียวสำหรับการจูงใจโน้มน้าวเอสพีดีที่ภายในพรรคเสียงแตกและลังเลที่จะเข้าร่วม “มหารัฐบาลผสม” (grand coalition) ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีความรักต่อกันเลย ไปเป็นเวลาอีก 4 ปี

แมร์เคิลได้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ของพรรคของเธอ โพสต์ข้อความถึงเอสพีดี แสดงความยินดีสำหรับการลงประชามติที่มี “ผลลัพธ์อันชัดเจน” พร้อมระบุว่าเธอเฝ้ารอคอยที่จะได้ “ร่วมมือกันต่อไปอีกเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติของเรา”

ตอนที่ผลเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกันยายนออกมาใหม่ๆ ซึ่งปรากฏว่าเอสพีดีได้คะแนนย่ำแย่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา พรรคได้ประกาศไม่ขอร่วมรัฐบาลผสมอยู่ใต้เงาของแมร์เคิลไปอีก 4 ปีแล้ว

แต่หลังจากแมร์เคิลได้พยายามจัดรัฐบาลกับพรรคขนาดเล็กลงมาอีก 2 พรรค แล้วล้มครืนลงอย่างไม่เป็นท่า เอสพีดีก็แสดงท่าทีผ่อนปรนและยืดหยุ่นมากขึ้น และใช้การลงประชามติของบรรดาสมาชิกพรรคมาเป็นตัวตัดสินใจเรื่องนี้
<i>โอลาฟ โชลธ์ (ขวา) ประธานชั่วคราวของพรรคโซเชียลเดโมแครต (เอสพีดี) ของเยอรมนี กล่าวปราศรัยในวันอาทิตย์ (4 มี.ค.) หลังมีการประกาศผลลงประชามติบรรดาสมาชิกพรรค ซึ่งเสียงสองในสามยอมรับให้พรรคเข้าร่วมรัฐบาลผสมชุดใหม่กับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล </i>
“เวลานี้เรามีความชัดเจนแล้ว เอสพีดีจะอยู่ในรัฐบาลชุดต่อไป” โอลาฟ โชลซ์ รักษาการประธานพรรคเอสพีดีประกาศ พร้อมกับบอกว่าพรรคเตรียมจะส่งชาย 3 และหญิง 3 เข้าร่วมคณะรัฐมนตรีตามโควตาจำนวนรัฐมนตรีที่ได้รับจัดสรร

ทางด้านยุโรปแสดงปฏิกิริยาในทางรู้สึกโล่งใจ เป็นต้นว่า ประธานาธิบดีแอมมานูแอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวว่า การตัดสินใจของเอสพีดี “เป็นข่าวดีสำหรับยุโรป”

ขณะที่ ปิแอร์ มอสโควิชี กรรมาธิการยุโรปฝ่ายกิจการเศรษฐกิจและการเงิน ก็ได้แสดงความยินดีทางทวิตเตอร์กับเอสพีดี สำหรับ “การโหวตลงคะแนนอย่างรับผิดชอบและอย่างเด็ดขาดชัดเจนของพวกเขา” และบอกว่าบัดนี้เยอรมนี “พร้อมแล้วสำหรับการเข้ามีปฏิสัมพันธ์เพื่อยุโรปที่แข็งแรงยิ่งขึ้น”

อย่างไรก็ตาม ในการเข้าบริหารประเทศต่อไปอีกสมัยหนึ่งนี้ คาดกันว่าผู้นำหญิงมากประสบการณ์จะต้องเดินไปบนเส้นทางที่ขรุขระกว่าเมื่อก่อนหน้านี้มาก

ไล่ตั้งแต่ว่าในมหารัฐบาลผสมคราวก่อนเมื่อปี 2013 พรรคอนุรักษนิยมของแมร์เคิลและเอสพีดีรวมกันแล้วมีที่นั่งในสภาเกินเสียงข้างมากอย่างท่วมท้น แต่ในคราวนี้พวกเขามีที่นั่งลดลงเหลือ 56% ของสภา (399 ที่นั่งจากทั้งหมด 709 ที่นั่ง)

ทั้งสองฝ่ายต่างมีฐานะอ่อนแอลง เนื่องจากพวกผู้มีสิทธิออกเสียงซึ่งโกรธเกรี้ยวในเรื่องที่มีผู้อพยพลี้ภัยจำนวนมากกว่า 1 ล้านคนทะลักเข้าสู่เยอรมนีนับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา พากันหันไปเทคะแนนให้พรรคอัลเทอร์เนทีฟ ฟอร์ เยอรมนี (AfD) ซึ่งมีแนวทางขวาจัด

จากการที่เอสพีดีตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล จึงเท่ากับว่าเวลานี้ AfD กลายเป็นพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุดในสภา พวกเขาได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ ตราหน้าการตัดสินใจของเอสพีดีว่าเป็น “ความหายนะ” สำหรับเยอรมนี พร้อมกับให้คำมั่นที่จะเป็นฝ่ายค้านซึ่งดุเดือดจริงจังจนกว่าจะถึงเวลาเช็กบิลในการเลือกตั้งทั่วไปคราวหน้าในปี 2021

จากความหวั่นวิตกว่าจะเสียคะแนนนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ให้แก่พรรคแนวทางขวาจัดที่แสดงความเกลียดกลัวศาสนาอิสลาม เนื่องจากพวกผู้ออกเสียงพากันหันหลังให้เหล่าพรรคการเมืองเดิมๆ ทั้งหลาย ทั้งฝ่ายอนุรักษนิยมของแมร์เคิลและเอสพีดีจึงตกลงจะให้จัดการทบทวนการจับมือเป็นรัฐบาลผสมของพวกเขาในเวลา 2 ปี
<i>นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี (ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 27 ม.ค. 2009) </i>
ภายในเอสพีดีเอง พวกที่ไม่เห็นด้วยกับกระแสหลักก็ให้คำมั่นที่จะทำหน้าที่คอยตรวจสอบอย่างไม่ลดละ

เควิน คืห์เนิร์ท หัวหน้าฝ่ายเยาวชนของเอสพีดี ซึ่งเป็นพวกที่ออกรณรงค์อย่างเร้าอารมณ์เพื่อไม่ให้พรรคเข้าร่วมรัฐบาลผสม ได้ออกมาแสดงความผิดหวังต่อผลการโหวตที่ประกาศในวันอาทิตย์

“เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์ มันก็จะมาจากพวกเรานี่แหละ” เขาประกาศ พร้อมกับบอกว่าเยาวชนชาวพรรคโซเชียลเดโมแครตจะไม่ยอมหยุดพักจนกว่าพรรคจะมี “การกลับสู่สภาพเดิมจนถึงระดับพื้นฐาน”

เช่นเดียวกับภายในพรรคอนุรักษนิยม แมร์เคิลซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่เข้มแข็งไม่มีใครสามารถเอาชนะได้ เวลานี้กลับกำลังดูอ่อนแอมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ กับที่มีเสียงเรียกร้องในพรรคให้มีการเปลี่ยนแปลงดังขึ้นทุกที

ในความพยายามที่จะลดทอนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภายในพรรค แมร์เคิลได้นำเอา เยนส์ สเปห์น นักวิพากษ์วิจารณ์เธอที่มีเสียงดังที่สุดในพรรคซีดียู ให้รับตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุขในรัฐบาลใหม่ของเธอเสียเลย

สเปห์น ซึ่งอยู่ในวัย 37 ปี เคยเป็นผู้ช่วยของ วอล์ฟกัง ชอยเบิล นักการเมืองสายแข็งกร้าวที่นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีคลังมายาวนาน เขาคอยโจมตีนโยบายสายกลางของเมอร์เคิลไม่ขาดระยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องผู้อพยพ

เขายังเสนอแนวทางให้พรรคเอียงไปทางอนุรักษนิยมอย่างแรงๆ ในความพยายามที่จะดึงผู้ออกเสียงกลับคืนจาก AfD ที่เวลานี้ได้เสียงร่วมๆ 13% ทีเดียวในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายน

ทว่าความเคลื่อนไหวซึ่งดูจะสำคัญยิ่งกว่านี้อีก ก็คือ ในการประชุมสมัชชาผู้แทนของพรรคของเธอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พรรคได้มีมติแต่งตั้งเลขาธิการคนใหม่ ซึ่งก็คือ อันเนเกรต เครมป์-คาร์เรนเบาเออร์ ตามที่แมร์เคิลเสนอ เพื่อจะได้เป็นการเริ่มต้นกระบวนการฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ของทางพรรค


กำลังโหลดความคิดเห็น