รอยเตอร์/MGRออนไลน์ - เมื่อวานนี้(3 มี.ค)เกาหลีเหนืออกแถลงการณ์ข่มขู่ที่จะตอบโต้สหรัฐฯ หากวอชิงตันร่วมซ้อมรบกับโซลรอบใหม่ แถมชี้ จะไม่ยอมคุกเข่าร้องขอ “เพื่อเปิดเจรจากับอเมริกา”
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(3 มี.ค)ว่า กำหนดที่สหรัฐฯจะเริ่มต้นการซ้อมรบร่วมเกาหลีใต้ใกล้เข้ามา ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงต้นเมษายนนี้ ที่ปรึกษาประธานาธิบดีเกาหลีใต้เปิดเผยในสัปดาห์นี้ ในการรายงานของสำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ชี้ว่า การซ้อมรบระหว่าง 2 ชาติที่มีอย่างต่อเนื่อง ทางฝ่ายเปียงยางมองว่า “เป็นภัยคุกคาม” ของเกาหลีเหนือ
“หากว่าทางสหรัฐฯจะยังคงร่วมการฝึกซ้อมรบในระหว่างที่ยังคงบังคับใช้การคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ( ซึ่งมีชื่อย่อทางการคือ DPRK) ทางเกาหลีเหนือจะทำการต่อต้านสหรัฐฯในโหมดการตอบโต้ฉับพลันของเกาหลีเหนือ และสหรัฐฯต้องเป็นผู้ที่จะต้องรับผิดชอบทุกประการต่อผลทุกอย่างที่จะตามมา” รายงานแถลงการณ์เปียงยางจากสำนักข่าวทางการเกาหลีเหนือ KCNA
ทั้งนี้ในการให้ความเห็น ทาง KCNA ชี้ว่า การซ้อมรบร่วมเป็นเสมือนการบ่อนทำลายความพยายามในการประนีประนอมบนคาบสมุทรเกาหลี
รอยเตอร์ชี้ว่าเมื่อวันที่ 23 ก.พที่ผ่านมา ทางรัฐบาลสหรัฐฯประกาศว่า อเมริกาได้บังคับใช้การคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ ซึ่งชี้ว่า เป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดเท่ากว่าที่เคย โดยผู้นำสหรัฐฯชี้ว่า “จะมีเฟส 2 รอบใหม่ที่ร้ายแรงมากที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา หากว่ามาตรการที่ออกมาบังคับใช้ยังไม่ได้ผล”
ซึ่งก่อนหน้าถึงแม้ทางเกาหลีเหนือจะออกมาประณามสหรัฐฯเรื่องการบังคับใช้การคว่ำบาตรต่อเปียงยาง แต่ยังแสดงท่าทีว่าต้องการที่จะเปิดเจรจาด้วยในระหว่างที่ตัวแทนระดับสูงของเปียงยางร่วมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมีรายงานว่าทางฝั่งเกาหลีเหนือยกเลิกในวินาทีสุดท้ายก่อนที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ จะพบกับตัวแทนเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม ทางทำเนียบขาวยังคงยืนกรานว่า การเปิดเจรจากับเกาหลีเหนือต้องนำมาสู่การยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์เปียงยางเท่านั้น
ซึ่งในแถลงการณ์ที่ออกมาในวันเสาร์(3) เป็นอีกครั้งที่เกาหลีเหนือประกาศว่า พร้อมจะเปิดการเจรจากับสหรัฐฯ แต่ต้องเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีเงื่อนไขใดผูกมัดก่อนการเจรจา
สำนักข่าว KCNA รายงานแถลงการณ์ที่ออกมาจากกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือว่า “ทางเราจะไม่อ้อนวอนเพื่อให้มีการเจรจา หรือไม่หลีกหนีตัวเลือกทางทหารที่เป็นการอ้างออกจากสหรัฐฯ”
และกล่าวต่อว่า “ไม่ว่าเสรีภาพซึ่งเป็นที่ปราถนาจากประเทศเราและจากทั้งโลกจะสามารถทำให้เกิดขึ้นได้บนคาบสมุทร หรือจะเป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าจะพึงปราถนาจะถูกพัฒนาขึ้นในวงจรอุบาทว์ของการเผชิญหน้า ที่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับทัศนคติของสหรัฐฯเท่านั้น”
รอยเตอร์รายงานว่า ทางโซลมีแผนจะส่งทูตพิเศษเดินทางเข้าไปยังกรุงเปียงยางสำหรับการตอบรับคำเชิญของประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ที่ได้ส่งเทียบเชิญผู้นำทำเนียบสีน้ำเงิน ประธานาธิบดี มุน แจ-อิน ในการเปิดเผยกับทรัมป์ทางโทรศัพท์วันพฤหัสบดี(1)
ในรายงานของสถานีโทรทัศน์ PBS ของสหรัฐฯเมื่อวันพุธ(28 ก.พ) ชี้ว่า ทั้งนี้ที่ปรึกษาด้านนโยบายประจำตัวของมุนออกมาเปิดเผยทางสาธารณะว่า ปรเทศเกาหลีใต้มีความกังวลเป็นอย่างมาก ในกรณีที่ทางสหรัฐฯจะเริ่มใช้กำลังโจมตีกับเกาหลีเหนือ และหากเกิด ***เชื่อว่าทางเกาหลีเหนือจะทำการล้างแค้น และความสูญเสียครั้งใหญ่จะเกิดขึ้น****
สื่อสหรัฐฯรายงานว่า มุน ชัง-อิน(Moon Chung-in) ที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบายระหว่างประเทศเกาหลีใต้และที่ปรึกษาด้านการรวมตัวประเทศ ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานทีโทรทัศน์ในการเปิดช่องทางสื่อสารอีกครั้งกับเกาหลีเหนือ ซึ่งในการให้สัมภาษณ์ทางมุนเชื่อว่า สิ่งที่ดีที่สุดในการเปิดการเจรจากับเกาหลีเหนือ สหรัฐฯไม่สมควรที่จะมีเงื่อนไขก่อนการเปิดการเจรจา
และในการให้ความเห็นทางมุนยังยืนยันอีกครั้งว่า กำหนดการฝึกซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีใต้จะไม่มีการถูกเลื่อนออกไป
