รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์เป็นกังวลต่อรายงานของประชาคมข่าวกรองของสหรัฐฯ ที่ตราหน้าเขาว่าเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โฆษกของเขา กล่าวในวันนี้ (21 ก.พ.)
รายงานดังกล่าวที่ออกโดยสำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติจัดดูเตอร์เตอยู่ในระดับเดียวกับนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ของกัมพูชา วิกฤตโรฮิงญา และรัฐธรรมนูญของรัฐบาลทหารไทยในฐานะภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย
“เรามองประกาศฉบับนี้จากสำนักงานข่าวกรองของสหรัฐฯ ด้วยความกังวล” เฮนรี โรก โฆษกประธานาธิบดี บอกกับสถานีวิทยุ DZMM
โรกไม่ยอมรับการประเมินของสหรัฐฯ ที่ว่าดูเตอร์เตเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย
“ผมไม่คิดว่านั่นเป็นเรื่องจริง ท่านเป็นนักกฎหมาย ท่านรู้กฎหมาย ท่านต้องการดำรงรักษาหลักนิติธรรม ท่านรู้เกี่ยวกับกฎหมายสิทธิ” เขากล่าว
ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายแห่งยังคงเปราะบางในปี 2018 เนื่องจากแนวโน้มการเป็นเผด็จการ การคอร์รัปชั่นอย่างร้ายแรง และระบบพวกพ้อง ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุในรายงานการประเมินภัยคุกคามทั่วโลกที่ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์
“ในฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดีดูเตอร์เตยังคงดำเนินปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด การคอร์รัปชัน และอาชญากรรม” รายงานระบุ และเสริมว่าดูเตอร์เตอาจระงับใช้รัฐธรรมนูญและประกาศจัดตั้งรัฐบาลปฏิวัติ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐฯ วิจารณ์ดูเตอร์เตซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องการท้ายทายแรงกดดันจากนานาชาติ ดูเตอร์เตไม่พอใจกับการแสดงความกังวลของคณะบริหารอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา เกี่ยวกับการวิสามัญในสงครามยาเสพติดในฟิลิปปินส์
มีคนกว่า 4,000 คนถูกสังหารในสิ่งที่ตำรวจเรียกว่าเป็นปฏิบัติการปราบผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติดตามกฎหมายภายใต้สงครามปราบยาเสพติดของดูเตอร์เตนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2016 กลุ่มสิทธิกล่าวหาว่าตำรวจทำการวิสามัญอย่างรวบรัด ซึ่งทางการปฏิเสธ