ซีเอ็นเอ็น - กองทัพเรือสหรัฐฯยกระดับประจำการกองเรือในทะเลดำ ส่วนหนึ่งในความพยายามตอบโต้รัสเซียที่เสริมกำลังเรือเข้าไปในน่านน้ำดังกล่าวมากขึ้น เจ้าหน้าที่ทหารอเมริกาเปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นในวันอังคาร(20ก.พ.)
ภูมิภาคดังกล่าวถูกปกคลุมไปด้วยความตึงเครียด ในขณะที่รัสเซียเสริมกำลังทหารเข้าไปในพื้นที่หลังผนวกไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014 แม้ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะถูกปฏิเสธอย่างกว้างขวางจากประชาคมนานาชาติ
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ยูเอสเอส คาร์นีย์ เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Arleigh Burke (อาร์ลีห์เบิร์ก) เข้าร่วมกับเรือยูเอสเอส รอสส์ ในทะเลดำ สำหรับปฏิบัติการต่างๆด้านความมั่นคงทางทะเล ซีเอ็นเอ็นรายงานโดยอ้างถ้อยแถลงจากกองเรือที่ 6 แห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งดูแลปฏิบัติการต่างๆของกองทัพเรืออเมริกาในภูมิภาคดังกล่าว
ทั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีเรือรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ 2 ลำ แล่นอยู่ในทะเลดำนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2017
"การตัดสินใจใช้เรือ 2 ลำปฏิบัติการพร้อมกันในทะเลดำก็เพื่อความมั่นใจ ไม่ใช่การตอบโต้" พลเรือโทคริสโตเฟอร์ กราดี ผู้บัญชาการกองเรือที่ 6 แห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง "การเดินหน้าประจำการในทะเลดำของกองทัพเรือสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าเรายืนหยัดในพันธสัญญาของเราต่อเสถียรภาพในภูมิภาค ความมั่นคงทางทะเลของเหล่าพันธมิตรของเราในทะเลดำ และร่วมป้องกันพันธมิตรนาโต้ของเรา"
ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์(18ก.พ.) รัสเซียเผยว่าได้ประจำการกองเรือของพวกเขาในพื้นที่ดังกล่าว โดยถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมแดนหมีขาวระบุว่าเรือฟริเกต แอดมิรัล เอสเซน และเรือลาดตระเวน 2 ลำ ได้แล่นเข้าสู่ทะเลดำเพื่อดำเนินการฝึกฝนต่างๆนานา
เจ้าหน้าที่ของกองทัพสหรัฐฯ 2 คนที่ประจำการในยุโรป เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า รัสเซีย มีความอ่อนไหวอย่างมากต่อปฏิบัติการต่างๆของกองทัพสหรัฐฯในทะเลดำ ส่งผลให้เมื่อเร็วๆนี้มอสโกได้เสริมกำลังทหารเข้าไปในไครเมีย
ความเห็นดังกล่าวสอดคลัองกับข้อมูลของเจ้าหน้าที่คนอื่นๆของสหรัฐฯและนาโต้ที่เคยกล่าวหาว่ามอสโกได้ลำเลียงยุทโธปกรณ์และกำลังทหารจำนวนมากเข้าประจำการในไครเมียช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่นาโต้เผยกับซีเอ็นเอ็นว่ารัสเซียยังได้ประจำการกองเรือดำน้ำในไครเมียด้วย พร้อมอ้างว่าพันธมิตรตะวันตกไม่ได้กำลังหาทางหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ด้วยการประจำการทางทหารในภูมิภาค แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดก็เพื่อเสริมความเข้มแข็งแก่สถานะของนาโต้ในทางตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป