เอเจนซีส์ - ล่าสุดศาลสูงสุดมัลดีฟส์ออกคำสั่งยกเลิกคำพิพากษาปล่อยตัว 9 นักโทษทางการเมือง 1 วันหลังประธานาธิบดียามีมใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉินปกครองประเทศ อดีตผู้นำลี้ภัยต่างแดน โมฮาเหม็ด ชาฮีด เผย ผู้พิพากษาที่ถูกจับถูกเจ้าหน้าที่ปฎิบัติอย่างเลวร้ายในเรือนจำค ด้านรัฐบาลปักกิ่งออกมาเตือนอินเดีย ไม่ให้ใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงในมัลดีฟส์
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(7 ก.พ)ว่า คณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดมัลดีฟส์ที่ยังเหลืออยู่ 3 คนได้ออกคำสั่งวันพุธ(7) ยกเลิกคำพิพากษาปล่อยตัว 9 แกนนำนักโทษทางการเมือง
ซึ่งในแถลงการณ์ที่ออกมาจากคณะผู้พิพากษาศาลสูงระบุว่า คำสั่งได้ถูกยกเลิก “เนื่องมาจากความกังวลของประธานาธิบดีมัลดีฟส์”
สื่ออังกฤษรายงานว่า ยามีมได้ประกาศใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉินเพื่อที่จะสืบสวนความพยายามที่จะทำรัฐประหารต่อตัวเขา
ด้านปีกการเมืองฝ่ายค้านมัลดีฟส์ได้เรียกร้องให้นานาชาติเข้าแทรกแซงเร่งด่วน
ทั้งนี้พบว่ายามีมได้ออกคำสั่งจับกุมผู้พิพากษาศาลสูงสุดมัลดีฟส์ 2 คนคือ ประธานผู้พิพากษาศาลสูงสุด อับดุลลาห์ ซาอีด (Abdulla Saeed) และผู้พิพากษา อาลี ฮามิด( Ali Hameed)ในวันจันทร์(5)
ซึ่งในวันอังคาร(6) ประธานาธิบดีมัลดีฟส์ได้ใช้โทรทัศน์เป็นสื่อไปยังพลเมืองของตนเอง โดยกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “ผมได้ประกาศใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉิน เป็นเพราะไม่มีหนทางอื่นที่จะสามารถสืบสวนบรรดาผู้พิพากษาเหล่านี้ได้”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ประธานผู้พิพากษาศาลสูงสุด ซาอีด และผู้พิพากษาฮามิดถูกจับกุมในช่วงรุ่งสางวันอังคาร(6) เมื่อกองทหารภายใต้คำสั่งรัฐบาลบุกเข้าไปด้านในอาคารสำนักงานศาลสูงสุดมัลดีฟส์ และทำการควบคุมตัวผู้พิพากษาทั้ง 2 ไว้
และส่งผลทำให้คณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดที่เหลืออีก 3 คนออกมาประกาศการกลับคำตัดสินโดยออกคำสั่งยกเลิกหลังจากนั้น
ด้านพรรคเดโมแครตมัลดีฟส์ MDPของ โมฮาเหม็ด นาชีด อดีตผู้นำมัลดีฟส์ที่ขอลี้ภัยอยู่ในอังกฤษออกมาประกาศถึงการกลับลำผู้พิพากษาทั้ง 3 คนว่า เป็นเพราะแรงกดดันที่เกิดจากยามีม “ยามีมได้สร้างแรงกดดันเพื่อให้คำพิพากษาเดิมถูกยกเลิกไป”
อย่างไรก็ตาม เดอะการ์เดียนชี้ว่า ถึงแม้คำสั่งปล่อยตัวนักโทษการเมืองระดับสูงจะถูกยกเลิก แต่ทางคณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดมัลดีฟส์ยังคงคำพิพากษาในการคืนตำแหน่งให้กับอดีตสส. 12 คนจากการที่คนเหล่านี้แปรพักตร์จากพรรคการเมืองของยามีม
ซึ่งการที่คนเหล่านี้กลับเข้าสู่สภาอีกครั้ง จะส่งผลทำให้ฝ่ายค้านมัลดีฟส์กลายเป็นผู้ควบคุมเสียงส่วนใหญ่สำเร็จ แต่ทว่ายังไม่สามารถขับยามีมได้ เพราะการประกาศใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉินได้ริบอำนาจทางรัฐสภาไปชั่วคราวในการที่จะยื่นถอดถอน
รอยเตอร์รายงานว่า นาชีดได้ออกมาเปิดเผยในวันพุธ(7)ผ่านทางทวิตเตอร์ว่า ผู้พิพากษาศาลสูงสุดที่ถูกทางกองทัพมัลดีฟส์จับกุมนั้น ถูกปฎิบัติอย่างหยาบคายในระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ โดยเขากล่าวว่า “ผมได้รับการบอกเล่าว่า อดีตประธานาธิบดีกายูม(เมามูน อับดุล กายูม)นั้นปฎิเสธไม่รับประทานอาหาร ส่วนผู้พิพากษา อาลี ฮามิด นั้นได้รับการปฎิบัติอย่างเลวร้าย”
ทั้งนี้พบว่าอดีตประธานาธิบดี เมามูน อับดุล กายูม ถูกควบคุมตัวจากบ้านพักของตัวเองในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ทหารได้บุกเข้าไปด้านในศาลสูงสุดมัลดีฟส์
รอยเตอร์รายงานว่า นาชีดในเวลานี้อยู่ในศรีลังกา และเมื่อวันอังคาร(6)เขาได้ร้องขอให้อินเดียเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในมัลดีฟส์ โดยทางอดีตผู้นำต้องการให้ทางนิวเดลี ส่งตัวแทนทูตพิเศษที่มีกำลังทหารสนับสนุนเข้าไปยังมัลดีฟส์ เพื่อปล่อยตัวนักโทษการเมืองและผู้พิพากษาที่ถูกจับ
และอดีตผู้นำมัลดีฟส์ที่อยู่ในระหว่างการลี้ภัยยังร้องให้สหรัฐฯทำการปิดกั้นการทำธุรกรรมการเงินของบรรดาผู้นำมัลดีฟส์ รอยเตอร์รายงาน
สื่อไทม์สออฟอินเดียรายงานวันนี้(7)ว่า ปักกิ่งได้ออกมาคัดค้านอินเดียในการใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในมัลดีฟส์
ซึ่งทางปักกิ่งได้ให้เหตุผลว่า การทำเช่นนั้นยิ่งจะทำให้สถานการณ์อยู่ในความยุ่งยากมากกว่าเดิม โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวว่า “ประชาคมโลกสมควรเล่นบทบาทที่สร้างสรรค์บนพื้นฐานเคารพในอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ของมัลดีฟส์ แทนทีการเลือกใช้มาตรการที่จะนำไปสู่สถานการ์ณ์ที่สลับซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม”
และเมื่อโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนถูกถามว่า สถานการณ์ภายในมัลดีฟส์จะได้รับการแก้ไขได้อย่างไรในเมื่อผู้พิพากษาศาลสูงสุดถูกจับกุม รวมไปถึงอดีตผู้นำประเทศ ทำให้โฆษกตอบกลับมาว่า
“ผมขอพูดอย่างชัดเจนว่า ทางเราหวังว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในมัลดีฟส์แก้ปัญหาอย่างเหมาะสมผ่านทางการปรึกษาหารือ และนำเสถียรภาพของประเทศและกฎหมายกลับคืนโดยเร็ว ทางเราเชื่อว่าพวกเขามีความชาญฉลาดและความสามารถในการแก้ปัญหาต่อสถานการณ์ตามลำพัง”
ไทม์สออฟอินเดียชี้ว่า โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวโดยไม่ได้เอ่ยชื่อไปถึง “นิวเดลี”
สื่ออินเดียชี้ต่อว่า ในขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์ส ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้แสดงความเห็นผ่านบทบรรณาธิการของตัวเอว เรียกร้องให้นิวเดลีหยุดเข้าแทรกแซงมัลดีฟส์ โดยชี้ว่า สถานการณ์ความไม่ลงรอยทางการเมืองถือเป็นเรื่องภายในประเทศ ที่ทางนิวเดลี “ไม่มีความชอบธรรมในการเข้ามาก้าวก่าย”
และยังชี้ต่อว่า มัลดีฟส์ต้องตกอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างสูงจากทางนิวเดลี
ในบทบรรณาธิการของโกลบอลไทม์สยังกล่าวเพิ่มเติมว่า สมควรที่จะต้องเคารพต่อความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ของมัลดีฟส์ ซึ่งความไม่สงบทางการเมืองนั้นควรปล่อยให้ประชาชนในประเทศนั้นตัดสิน และสื่อโกบอลไทม์ส์ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอดทนอดกลั้น และเข้าถึงการถ่วงสมดุลที่ถูกต้องระหว่างอำนาจตุลาการและรัฐ