เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เอ่ยในบทสัมภาษณ์ที่ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ (28 ม.ค.) ว่า สหภาพยุโรป (อียู) ค้าขายกับอเมริกาอย่าง “ไม่เป็นธรรมเอามากๆ” พร้อมเตือนว่าปมปัญหาระหว่างตนกับบรัสเซลส์อาจ “ลุกลามจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต” ขณะเดียวกันก็เผยถึงโอกาสที่สหรัฐฯ จะกลับไปร่วมมือกับนานาชาติต่อสู้ปัญหาโลกร้อน และหวนคืนความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership - TPP)
ทรัมป์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ITV ของอังกฤษเมื่อวันพฤหัสบดี (25) ที่ผ่านมาว่า “สหภาพยุโรปปฏิบัติต่อสหรัฐอเมริกาอย่างไม่เป็นธรรมเอามากๆ ในเรื่องการค้า”
“ผมมีปัญหาหลายอย่างกับอียู และมันอาจลุกลามจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โตจากจุดยืนนั้น - จุดยืนทางการค้า”
ผู้นำสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับ ITV ในหลายประเด็นระหว่างเข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจโลกประจำปี เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ที่เมืองดาวอสของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเขาได้นำนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” (America First) ไปสาธยายต่อบรรดานักธุรกิจระดับโลก
ทรัมป์ กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (26) ว่า นโยบายนี้ไม่ได้แปลว่า “อเมริกาฝ่ายเดียว” และยังเอ่ยเป็นนัยๆ ว่าสหรัฐฯ อาจกลับเข้าร่วม TPP ซึ่งเขาเป็นคนนำอเมริกาถอนตัวออกมาเมื่อต้นปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ได้มีคำสั่งต้นเดือน ม.ค. ให้ขึ้นภาษีแผงรับพลังงานแสงอาทิตย์และเครื่องซักผ้านำเข้า และบทสัมภาษณ์ล่าสุดของเขาก็คาดว่าจะทำให้รัฐบาลยุโรปวิตกกังวลเรื่องความสัมพันธ์กับวอชิงตันในอนาคต
ปีที่แล้ว รัฐบาลทรัมป์ประกาศจะรีดภาษีศุลกากรเกือบ 300% จากเครื่องบินที่ผลิตโดยบริษัทบอมบาร์เดียร์ (Bombardier) ของแคนาดา และแม้คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ จะมีมติคัดค้านเรื่องดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26) แต่ปัญหานี้ก็บั่นทอนความสัมพันธ์วอชิงตันกับออตตาวา และลามมาถึงอังกฤษซึ่งมีแรงงานบอมบาร์เดียร์อยู่มาก
“สินค้าเราไม่สามารถเจาะตลาดยุโรปได้เพราะการแข่งขันสูงมาก แต่พวกเขากลับส่งสินค้าไปขายในบ้านเราได้โดยเสียภาษีน้อย หรือไม่เสียเลย มันไม่เป็นธรรมเอามากๆ” ทรัมป์ กล่าว “แต่พวกเขาก็ไม่ใช่รายเดียวหรอกนะ ผมสามารถไล่รายชื่อประเทศและสถานที่อื่นๆ ที่ทำแบบเดียวกัน”
“สหภาพยุโรปไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐฯ และผมคิดว่าท้ายที่สุดพวกเขาอาจจะเป็นฝ่ายเดือดร้อนเอง”
ในบทสัมภาษณ์อีกชิ้นที่ออกอากาศวานนี้ (28) เช่นกัน ทรัมป์ ได้วิจารณ์แนวทางเจรจาข้อตกลง “เบร็กซิต” ของนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษ โดยบอกว่าถ้าเป็นเขา “คงจะเจรจาในแบบที่ต่างออกไป”
“ผมคงมีทัศนคติที่ไม่เหมือนเธอ” ทรัมป์ กล่าว
ชาวอังกฤษส่วนใหญ่เลือกที่จะถอนตัวออกจากอียูในการทำประชามติชี้ชะตาเมื่อเดือน มิ.ย.ปี 2016 และรัฐบาลลอนดอนก็กำลังดำเนินการเจรจาเงื่อนไขต่างๆ กับบรัสเซลส์ ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวอย่างเป็นทางการในเดือน มี.ค. ปี 2019
“ผมว่าสหภาพยุโรปยังไม่ถูกบีบมากเท่าที่ควร และผมคงจะแสดงจุดยืนที่เข้มแข็งกว่านี้ในการถอนตัว” ทรัมป์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยังโรยยาหอมให้ เมย์ โดยกล่าวว่าสหรัฐฯ คงจะสามารถบรรลุข้อตกลงหลังเบร็กซิตกับลอนดอนได้อย่างรวดเร็ว
“เราจะทำข้อตกลงที่ยอดเยี่ยมกับสหราชอาณาจักร และเมื่อข้อจำกัดหมดไป สหรัฐฯ จะเป็นคู่ค้าที่ดีเยี่ยมสำหรับคุณ”
ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้เอ่ยขอโทษเป็นครั้งแรกที่เคยกดรีทวีตคลิปวิดีโอของกลุ่มขวาจัดในอังกฤษที่แสดงภาพความรุนแรงของอิสลามิสต์
“ถ้าคุณบอกผมว่าคนเหล่านั้นเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติที่น่ารังเกียจ ผมก็ยินดีขออภัย ถ้าคุณต้องการ”
ทรัมป์ ยังประกาศจะไปเยือนอังกฤษภายในปีนี้ โดยเชื่อว่าตนเอง “เป็นที่นิยมมาก” ในหมู่ชาวเมืองผู้ดี และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้รับบัตรเชิญมาร่วมพระราชพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รี กับ น.ส.เมแกน มาร์เคิล หรือยัง ทรัมป์ ก็ตอบว่า “ยังไม่ทราบ”
“ผมหวังว่าพวกเขาจะมีความสุข พวกเขาเป็นคู่ที่น่ารักมาก” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว หลังถูกถามเรื่องที่ มาร์เคิล เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตน
ทรัมป์ ระบุด้วยว่า อาจจะยอมนำสหรัฐฯ กลับเข้าเป็นภาคีข้อตกลงภูมิอากาศปารีส หากมีการแก้ไขเนื้อหาเสียใหม่
“ข้อตกลงปารีสคือหายนะสำหรับเรา แต่ถ้าพวกเขาทำให้มันดีได้ ก็มีโอกาสเสมอที่เราจะกลับไป”