รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ชี้แจงประเด็นหลักๆ ของร่างกฎหมายผู้อพยพที่ตนพร้อมจะให้การสนับสนุนในสัปดาห์หน้า โดยต้องจัดสรรงบประมาณ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโก และกำหนดกรอบเวลาให้ผู้อพยพผิดกฎหมายที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ ตั้งแต่ยังเด็กได้รับสัญชาติอเมริกันภายใน 10-12 ปี
ทรัมป์ แสดงความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกับพรรครีพับลิกันและเดโมแครต เพื่อทำให้สหรัฐฯ มีมาตรการคัดกรองคนเข้าเมืองที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็คุ้มครองผู้อพยพ “ดรีมเมอร์” ราว 700,000 คนไม่ให้ถูกเนรเทศ
“บอกพวกเขาว่าอย่าห่วง โอเคไหม? บอกพวกเขาว่าอย่ากังวล เราจะแก้ปัญหาได้แน่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเดโมแครต แต่พวกเขา (ดรีมเมอร์) ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเลย” ทรัมป์ กล่าวขณะเปิดให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์แบบถาม-ตอบที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธ (24 ม.ค.)
ทรัมป์ ให้สัญญาระหว่างหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2016 ว่าจะกำหนดนโยบายคนเข้าเมืองที่เข้มงวดกว่าเดิม และเมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้วก็ประกาศยกเลิกโครงการ Deferred Action for Childhood Arrivals หรือ DACA ของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งทำให้ผู้อพยพดรีมเมอร์ไม่ถูกเนรเทศและยังได้ใบอนุญาตทำงานด้วย
ทั้งนี้ หากสภาคองเกรสไม่สามารถผลักดันร่างกฎหมายใหม่มาทดแทนกันได้ภายในเดือน มี.ค. คำสั่งของ ทรัมป์ ก็จะเริ่มมีผลบังคับ และทำให้หนุ่มสาวดรีมเมอร์ที่เติบโตบนแผ่นดินอเมริกามาเกือบทั้งชีวิตต้องถูกเนรเทศ
ลินด์ซีย์ แกรห์ม ส.ว.รีพับลิกันซึ่งเป็นหนึ่งในทีมเจรจาเรื่องกฎหมายผู้อพยพ ระบุว่า คำพูดของ ทรัมป์ ถือเป็นสัญญาณทางออกให้กับสภาคองเกรส
“หากประธานาธิบดีทรัมป์ ยอมสนับสนุนการให้สัญชาติแก่ดรีมเมอร์ ก็จะช่วยให้เราสามารถกำหนดมาตรการปกป้องพรมแดนที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น เพื่อนำมาใช้ทดแทนระบบคนเข้าเมืองที่ไร้ประสิทธิภาพอยู่ในเวลานี้” แกรห์ม ระบุในถ้อยแถลง
“ผมไม่เคยมั่นใจมากเท่านี้มาก่อนว่าเราจะได้ทางออกเรื่องผู้อพยพ จนกระทั่งได้ยินคำพูดที่หนักแน่นของประธานาธิบดีทรัมป์”
หลังเสร็จสิ้นการประชุมวุฒิสมาชิกทั้ง 2 ฝ่ายที่อาคารรัฐสภาเมื่อวานนี้ (24) ส.ว.แคลร์ แม็กแคสกิลล์ จากพรรคเดโมแครต ได้แสดงความคิดเห็นอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับท่าทีของทรัมป์ โดยบอกว่า “เป็นไปได้ทั้งสองทาง” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคำพูดของประธานาธิบดีเป็นประโยชน์ต่อวุฒิสภาบ้างหรือไม่
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ปฏิเสธข้อเสนอร่วม 2 ฝ่ายที่ให้ต่ออายุโครงการ DACA จนนำไปสู่การเผชิญหน้าระหว่าง ส.ว.รีพับลิกันและเดโมแครตในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว และเกิดภาวะ “ชัตดาวน์” ปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางนานถึง 3 วัน
อย่างไรก็ตาม สภาคองเกรสสามารถผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวได้สำเร็จเมื่อวันจันทร์ (22) ซึ่งจะช่วยเบิกจ่ายงบอุดหนุนหน่วยงานของรัฐไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ. หลังจากที่ฝ่ายรีพับลิกันให้สัญญาว่าจะเปิดอภิปรายเรื่องอนาคตของผู้อพยพดรีมเมอร์
ทำเนียบขาวเตรียมนำเสนอกรอบกฎหมายว่าด้วยเรื่องผู้อพยพในวันจันทร์หน้า (29) ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากทั้ง 2 พรรค และ ทรัมป์ ยังมีกำหนดแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ในช่วงค่ำวันอังคารที่ 30 ม.ค.
ทรัมป์ ยื่นข้อเสนอของบประมาณ 25,000 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างกำแพงกั้นสหรัฐฯ กับเม็กซิโก, 5,000 ล้านดอลลาร์สำหรับอุดหนุนโครงการป้องกันชายแดน, จำกัดระบบสปอนเซอร์สำหรับครอบครัวผู้อพยพ และปฏิรูปหรือยุติระบบวีซ่าลอตเตอรี่ โดยแลกกับการออกกฎหมายคุ้มครองผู้อพยพดรีมเมอร์ไม่ให้ถูกเนรเทศ และอาจให้สัญชาติอเมริกันแก่คนเหล่านี้ภายใน 10-12 ปี
สำหรับการช่วยเหลือผู้ปกครองที่พาดรีมเมอร์เข้ามาอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย ทรัมป์ ยอมรับว่าเป็นเรื่อง “ยากลำบาก” พอสมควร
