เอเอฟพี - รัฐบาลซีเรียโฆษณาเมืองอะเลปโปร่วมกับสถานที่อื่นๆ ในซีเรียในงาน Fitur International Tourism Trade Fair ในกรุงมาดริดในสัปดาห์นี้ ในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศให้โลกได้รูจัก ถึงแม้ว่ามันจะเหลือแต่ซากแล้วก็ตาม
นี่เป็นครั้งแรกที่ซีเรียเข้าร่วมงานนี้นับตั้งแต่ปี 2011 ก่อนที่สงครามจะปะทุขึ้น
นอกจากซากปรักหักพังในอเลปโป รัฐบาลยังเชิญชวนให้ผู้คนไปเยือนซากโบราณยุคโรมันของเมืองพัลไมรา สถานที่ทางโบราณคดีที่ขึ้นบัญชียูเนสโกและถูกกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) เข้ายึดครองสองครั้ง
นักรบไอเอสระเบิดวิหารและหอคอยเผาศพบางส่วนก่อนที่จะถูกขับไล่ออกจากเมืองนี้เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อปีที่แล้วโดยกองกำลังรัฐบาลซีเรียและกองกำลังรัสเซียที่คอยสนับสนุน
“ปีนี้คือเวลาที่จะฟื้นฟูซีเรียและเศรษฐกิจของเรา” บัสซัม บาร์ซิก ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของกระทรวงการท่องเที่ยวของซีเรีย บอกกับเอเอฟพี
บาร์ซิกกล่าวว่า เมื่อปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเยือนซีเรีย 1.3 ล้านคน ถึงแม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะรวมถึงผู้ที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเลบานอนเพื่อเยือนแค่วันเดียวก็ตาม
“เราตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยว 2 ล้านคนในปีนี้” เขากล่าว
เขาให้เหตุผลว่า สถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาเช่นเมืองประวัติศาสตร์มาลูลาของชาวคริสต์ หนึ่งในสถานที่ไม่กี่แห่งบนโลกที่ยั่งมีการใช้ภาษาแอราเมอิกกันอยู่ ยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อยู่
ดาร์มัสกัส ตาร์ตุส ลาตาเกีย และปราสาทครักเดเชอวาลีเยของนักรบครูเสดใกล้ชายแดนเลบานอนเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังดึงดูดคนได้อยู่ ถึงแม้ว่าจะได้รับความเสียหายจากระเบิดบ้างก็ตาม
“ในปี 2017 กองทัพควบคุมประเทศได้เกือบทั้งหมด และนั่นเป็นสิ่งที่ช่วยโปรโมทซีเรียต่อต่างชาติและดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้ง” บาร์ซิก กล่าว อย่างไรก็ตาม ประเทศส่วนใหญ่ออกคำเตือนไม่ให้พลเมืองเดินทางไปยังซีเรีย
สงครามในประเทศนี้ทำให้มีผู้พลัดถิ่นหลายล้านคนและคาดว่าคร่าชีวิตคนไปแล้วอย่างน้อย 340,000 คนนับตั้งแต่ปี 2011