เอเอฟพี - ประชากรเวเนซุเอลาทนพิษเศรษฐกิจตกต่ำในประเทศตนเองไม่ไหว ตัดสินใจอพยพหนีไปอยู่โคลอมเบียกว่า 500,000 คน ในปี 2017
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโคลอมเบียระบุเมื่อวานนี้ (19 ม.ค.) ว่า มีชาวเวเนซุเอลาเดินทางเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศราว 550,000 คนในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นจากหนึ่งปีก่อนหน้าถึง 62%
“วิกฤตการณ์ในเวเนซุเอลาไม่เพียงบีบคั้นให้ชาวโคลอมเบียหลายพันคนตัดสินใจกลับประเทศ แต่รวมถึงชาวเวเนซุเอลาที่ใช้เราเป็นทางผ่านไปสู่ประเทศที่ 3 หรือย้ายเข้ามาพำนัก รวมถึงซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น” คริสเตียน ครูเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโคลอมเบีย ระบุ
โคลอมเบียมีพรมแดนติดกับเวเนซุเอลาเป็นระยะทางราว 2,200 กิโลเมตร
เมาริซิโอ คาร์เดนัส รัฐมนตรีกระทรวงการคลังโคลอมเบีย ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า จนถึงขณะนี้รัฐบาลโบโกตาก็ยังคงต้องแบกรับค่าใช้จ่ายจาก “นโยบายเปิดกว้างและรับผิดชอบ”
“เราได้จัดบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินและโรงเรียนให้กับชาวเวเนซุเอลาทุกคน”
อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่ารัฐบาลโคลอมเบีย “มีศักยภาพจำกัด หากยังคงมีผู้อพยพหลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ”
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโคลอมเบีย ระบุว่า มีประชากรราว 1.3 ล้านคนลงทะเบียนขอใช้บัตรผ่านแดน ซึ่งทำให้สามารถเดินทางข้ามไปมาระหว่าง 2 ประเทศได้อย่างสะดวก
วิกฤตสินค้าขาดแคลนในเวเนซุเอลาทำให้ในปี 2017 มีผู้ใช้บัตรผ่านแดนข้ามเข้ามาซื้อสินค้าและยารักษาโรคในโคลอมเบียราวๆ 37,000 คนต่อวัน
นอกจากชาวเวเนซุเอลา 550,000 คนที่ยังคงพำนักอยู่ในโคลอมเบียแล้ว ยังมีอีกราว 231,000 คน ที่เดินทางต่อไปยังเอกวาดอร์ในปี 2017
ประธานาธิบดี ฮวน มานูเอล ซานโตส แห่งโคลอมเบีย วิจารณ์ประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร ว่า นำระบอบเผด็จการมาใช้ในเวเนซุเอลา และยังเสนอให้ที่พักพิงแก่ฝ่ายต่อต้าน มาดูโร ด้วย
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวขณะไปเยือนโคลอมเบียเมื่อไม่นานนี้ ว่า ยูเอ็นพร้อมที่จะให้การสนับสนุนเพื่อช่วยโบโกตารับมือกับคลื่นผู้อพยพที่คาดว่าจะหลั่งไหลเข้ามาอีกเรื่อยๆ