รอยเตอร์ – บังกลาเทศเห็นพ้องที่จะดำเนินกระบวนการส่งคืนชาวมุสลิมโรฮิงญากลับเมียนมาร์ให้แล้วเสร็จภายในสองปีหลังจากการส่งกลับประเทศเริ่มขึ้น ประเทศแถบเอเชียใต้แห่งนี้ระบุในวันนี้ (16) หลังจากประชุมกับเหล่าประเทศเพื่อนบ้านเพื่อบังคับใช้ข้อตกลงที่ลงนามกันเมื่อปีที่แล้ว
ถ้อยแถลงจากกระทรวงการต่างประเทศของบังกลาเทศไม่ได้ระบุว่ากระบวนการจะเริ่มขึ้นเมื่อใด แต่บอกว่า ความพยายามส่งกลับนี้จะพิจารณาหนึ่งครอบครัวเป็นหนึ่งหน่วย ในขณะที่เมียนมาร์จะจัดที่พักชั่วคราวให้กับผู้ที่กลับถึงก่อนที่บ้านของพวกเขาจะสร้างเสร็จ
ถ้อยแถลงระบุว่า บังกลาเทศจะจัดตั้งค่ายเปลี่ยนผ่านห้าแห่งซึ่งจะส่งชาวโรฮิงญาไปยังศูนย์ต้อนรับสองแห่งบริเวณชายแดนฝั่งเมียนมาร์
“เมียนมาร์เน้นย้ำถึงความรับผิดชอบที่จะหยุดการไหลทะลักออกของชาวเมียนมาร์สู่บังกลาเทศ” ถ้อยแถลง ระบุ
การประชุมในกรุงเนปิดอว์ของเมียนมาร์เป็นกระประชุมครั้งแรกสำหรับคณะทำงานร่วมที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อกำหนดรายละเอียดของข้อตกลงการส่งคนกลับในเดือนพฤศจิกายน
รัฐบาลเมียนมาร์ไม่ได้ออกถ้อยแถลงของตนเองหลังจากการประชุมและโฆษกรัฐบาล ซอว์ เท ไม่อาจติดต่อขอความคิดเห็นได้ในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม ซอว์ เท กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ผู้ที่กลับมาจะสามารถยื่นขอสถานะพลเมืองได้ “หลังจากพวกเขาผ่านกระบวนการพิสูจน์แล้ว”
หน่วยงานเมียนมาร์ที่ถูกจัดตั้งเพื่อดูแลการส่งคนกลับกล่าวในถ้อยแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (11) ว่า ค่ายส่งตัวกลับและค่ายประเมินชั่วคราวสองแห่งและค่ายรับรองผู้กลับถิ่นอีกแห่งหนึ่งสร้างเสร็จแล้ว
ปลัดกระทรวงแรงงาน ผู้อพยพ และประชากรของเมียนมาร์บอกกับรอยเตอร์เมื่อต้นเดือนว่า เมียนมาร์จะพร้อมเริ่มกระบวนการกับคนอย่างน้อย 150 คนต่อวันจากค่ายแต่ละแห่งในวันที่ 23 มกราคม
วิกฤตโรฮิงญาปะทุขึ้นหลังจากกบฏโรฮิงญาโจมตีสถานีตำรวจเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมในรัฐยะไข่ทางตะวันตกทำให้เกิดการปราบปรามทางทหารอย่างรุนแรงจนองค์การสหประชาชาติประณามว่าเป็นการลบล้างเผ่าพันธุ์ คนราว 650,000 คนหลบหนีจากความรุนแรงดังกล่าว
เมียนมาร์ปฏิเสธการลบล้างเผ่าพันธุ์และระบุว่า กองกำลังความมั่นคงดำเนินปฏิบัติการกวาดล้างกบฏตามกฎหมาย