เอพี - กลุ่มนักลงทุนใหญ่ 2 กลุ่มของ “แอปเปิล” ออกมาเรียกร้องให้บริษัทผู้ผลิต “ไอโฟน” ลงมือดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อสกัดกั้นการเสพติดโทรศัพท์สมาร์ทโฟนในหมู่เด็กๆ ซึ่งกำลังแผ่ขยายออกไปอย่างใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ นับเป็นการเน้นย้ำให้เห็นความวิตกกังวลซึ่งเพิ่มขึ้นทุกทีเกี่ยวกับผลในเชิงลบของพวกแกดเจ็ตและสื่อสังคมที่มีต่อผู้เยาว์ทั้งหลาย
“จานา พาร์ตเนอร์ส แอลแอลซี” ซึ่งตั้งฐานอยู่ในนิวยอร์ก และกองทุนเกษียณอายุของครูอาจารย์รัฐแคลิฟอร์เนีย “แคลิฟอร์เนีย สเตท ทีชเชอร์ส รีไทร์เมนต์ ซิสเตม” หรือ CalSTRS กล่าวในจดหมายเปิดผนึกส่งถึงแอปเปิลในวันจันทร์ (8 ม.ค.) ว่า บริษัทต้องเสนอทางเลือกและเครื่องมือต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ในการสู้รบปรบมือกับความเย้ายวนชวนให้เสพติดของพวกเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ของบริษัท
“มีความคิดเห็นซึ่งกำลังพัฒนากลายเป็นฉันทามติไปแล้วทั่วโลก รวมทั้งในซิลิกอน แวลลีย์ ด้วย ที่ว่า จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงผลต่อเนื่องระยะยาวซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ ของเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งหลายกันตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้นทีเดียว และไม่มีบริษัทใดสามารถที่จะโยนภาระรับผิดชอบนี้ออกไปยังภายนอกได้” จดหมายเปิดผนึกฉบับนี้กล่าว
“แอปเปิลสามารถที่จะแสดงบทบาทอันสำคัญยิ่งในการส่งสัญญาณไปทั่วทั้งอุตสาหกรรมนี้ว่า การให้ความใส่ใจเป็นพิเศษต่อสุขภาพและพัฒนาการของคนรุ่นต่อไปนั้น คือวิธีการทำธุรกิจที่ดี อีกทั้งเป็นสิ่งถูกต้องที่จะกระทำ” จดหมายนี้ระบุ
กลุ่มนักลงทุนทั้งสองรายนี้รวมกันแล้วเป็นผู้ควบคุมหุ้นแอปเปิลคิดเป็นมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์
ในข้อเสนอต่างๆ ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้ระบุในจดหมายส่งถึงแอปเปิล มีดังเช่น จัดตั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญขึ้นมาชุดหนึ่งซึ่งประกอบด้วยผู้ชำนาญพิเศษทางด้านพัฒนาการของเด็ก, เสนอให้พวกนักวิจัยสามารถใช้ข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่มากมายมหาศาลของแอปเปิล และเพิ่มพวกซอฟต์แวร์ด้านเครื่องมือทางระบบโมบาย ซึ่งจะทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองมีทางเลือกมากขึ้นในการปกป้องคุ้มครองสุขภาพลูกหลานของพวกตน
จดหมายเปิดผนึกได้อ้างอิงการศึกษาและผลสำรวจต่างๆ หลายหลาก ในเรื่องเกี่ยวกับการใช้สมาร์ทโฟนและสื่อสังคมอย่างเมามัน จะสามารถส่งผลกระทบทางลบต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกายของเด็กๆ อย่างไรบ้าง โดยที่มีตัวอย่างทั้งผลของการที่เทคโนโลยีดิจิตอลหันเหความสนใจของเด็กๆ ออกไปจากห้องเรียน, นักเรียนมีความสามารถต่ำลงในการโฟกัสที่ภาระหน้าที่ในการศึกษา, และมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะฆ่าตัวตายและเกิดอาการซึมเศร้า
การเรียกร้องของกลุ่มนักลงทุนทั้งสองนี้ สามารถถือได้ว่าเป็นการสะท้อนถึงความกังวลห่วงใยที่เพิ่มขึ้นทุกทีในตลอดทั่วโลก เกี่ยวกับผลกระทบระยะยาวที่จะเกิดจากการใช้เครื่องมืออุปกรณ์โมบายและสื่อสังคม โดยเฉพาะต่อผู้ที่เริ่มใช้สมาร์ทโฟนตั้งแต่ยังอายุน้อย
ขณะที่พวกบริษัทเทคโนโลยีไม่ได้มีการยอมรับอย่างเปิดเผยว่าแกดเจ็ตของพวกเขาอาจกลายเป็นสิ่งเสพติดได้ แต่ก็มีบุคคลวงในซิลิคอน แวลลีย์ บางส่วนเริ่มพูดจากับสื่อ ในเรื่องที่ว่าพวกแก็ดเจต, แอปพลิเคชันโมบาย, และเว็บไซต์สื่อสังคมทั้งหลาย มีการวางแผนออกแบบกันอย่างไรเพื่อให้กลายเป็นสิ่งเสพติด และดึงดูดความสนใจของยูสเซอร์เอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้