เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.) กระทรวงต่างประเทศแคนาดา ออกคำสั่งขับเอกอัครราชทูตเวเนซุเอลาประจำแคนาดา วิลเมอร์ โอมาร์ บาร์เรียนตอซ เฟอร์นานเดซ (Wilmer Omar Barrientos Fernandez) และห้ามเดินทางกลับเข้ามาเพื่อตอบโต้การที่รัฐบาลเวเนซุเอลาในวันเสาร์ (23 ธ.ค.) ได้ขับอุปทูตแคนาดาออกนอกประเทศ
DW สื่อเยอรมันรายงานเมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.) ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดาและเวเนซุเอลาในวันจันทร์ (25) อยู่ในขั้นเลวร้ายมากขึ้นเมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา คริสเตีย ฟรีแลนด์ (Chrystia Freeland) ออกมาแถลงว่า เอกอัคราชทูตเวเนซุเอลาประจำกรุงออตตาวา วิลเมอร์ โอมาร์ บาร์เรียนตอซ เฟอร์นานเดซ (Wilmer Omar Barrientos Fernandez) ถูกสั่งห้ามเดินทางกลับเข้าแคนาดา
ทั้งนี้ การออกคำสั่งของฟรีแลนด์เกิดขึ้น 2 วัน หลังจากประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโกลัส มาดูโร ได้สั่งขับนักการทูตระดับสูงของแคนาดาออกนอกประเทศ จากการที่ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาสิทธิมนุษยชนในเวเนซุเอลา
โดยก่อนหน้าในรายงานของสื่อบีบีซี อังกฤษ ชี้ว่า ในวันเสาร์ (23) ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญเวเนซุเอลา เดลซี โรดริเกวซ (Delcy Rodriguez) แถลงประกาศสั่งขับเอกอัครราชทูตบราซิล ฮุย เปเรรา (Ruy Pereira) และ อุปทูตแคนาดา เครบ โควาลิค (Craib Kowalik) ออกนอกประเทศ
โดยในแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (25) ทางรัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา ประกาศว่า “ในการตอบโต้ต่อรัฐบาลมาดูโร ดิฉันขอประกาศว่า เอกอัครราชทูตเวเนซุเอลาประจำแคนาดา...นั้นไม่เป็นที่ต้อนรับในแคนาดาอีกต่อไป” และเธอยังกล่าวต่อว่า “และดิฉันขอประกาศให้อุปทูตเวเนซุเอลานั้นเป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนา”
ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา ชี้ว่า อย่างไรก็ตาม เอกอัครราชทูตเฟอร์นานเดซนั้น ถูกรัฐบาลมาดูโรสั่งถอนกลับเมื่อครั้งทางแคนาดาได้ออกมาตรการคว่ำบาตรกับคนในรัฐบาลของเขา ที่รวมไปถึงตัวของประธานาธิบดีมาดูโร ซึ่งคนที่ถูกสั่งคว่ำบาตรจำนวนทั้งหมด 40 คน ในปัญหาด้านคอร์รัปชันและสิทธิมนุษยชนเมื่อเดือนกันยายนก่อนหน้า
และในวันศุกร์ (22) ทางออตตาวาได้ออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับคนในรัฐบาลของมาดูโรด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนและคอร์รัปชันอีกเช่นกัน
ฟรีแลนด์ ชี้ว่า การออกมาสั่งขับนักการทูตแคนาดา ถือเป็นมาตรฐานของรัฐบาลเวเนซุเอลาของมาดูโรมักกระทำ ซึ่งถือเป็นการบั่นทอนอย่างต่อเนื่องในการนำประชาธิปไตยกลับคืน และการช่วยเหลือประชาชนเวเนซุเอลา โดยเธอชี้ว่า “ทางแคนาดาจะไม่ยอมทน ในขณะที่รัฐบาลเวเนซุเอลากำลังปล้นประชาชนของตนเองด้านพื้นฐานทางประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน และปฏิเสธพวกเขาไม่ให้เข้าถึงความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน”