เอเอฟพี – นักรบกลุ่มติดอาวุธหลายคนบุกศูนย์ฝึกของหน่วยข่าวกรองในกรุงคาบูลในวันนี้ (18) เจ้าหน้าที่ระบุ ก่อให้เกิดการต่อสู้หนักหน่วงกับตำรวจในการโจมตีครั้งล่าสุดของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ต่อเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน
“เมื่อเวลาประมาณ 10.10 น. คนร้ายติดอาวุธกลุ่มหนึ่งได้บุกเข้าอาคารที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างในศูนย์ฝึกของเอ็นดีเอสในเขตอัฟชาร์ของกรุงคาบูล” นาจิบ เดนิช โฆษกกระทรวงมหาดไทย บอกกับเอเอฟพี โดยอ้างถึงศูนย์อำนวยการความมั่นคงแห่งชาติ (National Directorate of Security) หน่วยงานด้านข่าวกรองของอัฟกานิสถาน
“การต่อสู้ยังคงดำเนินอยู่และเราก็ได้เริ่มปฏิบัติการของเขาแล้ว”
นาสรัท ราฮิม รองโฆษกกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า เสียงยิงปืนหนักและเบาจากการต่อสู้ยังคงดังอยู่
“มีคนร้ายพัวพันสามคน ปฏิบัติการกวาดล้างกำลังดำเนินอยู่” โฆษกกล่าว และเสริมว่า ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในตอนนี้
ถนนไปยังพื้นที่ดังกล่าวถูกปิด ตำรวจและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองหลายสิบคนกำลังปิดกั้นไม่ให้สาธารณะชนเข้าถึง ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีที่ถูกควบคุมตัวห่างจากที่เกิดเหตุเกินหนึ่งกิโลเมตรเห็นรถโรงพยาบาลและกำลังเสริมกำลังมุ่งหน้าสู่ศูนย์ฝึก
“ผมกำลังไปโรงเรียน มัน (การโจมตี) เกิดขึ้นเร็วมาก ตำรวจมาถึงพื้นที่อย่างรวดเร็วและปิดถนนไม่ให้ใครก็ตามกลับไปที่บ้านของพวกเขา” นาวีด นักเรียนคนหนึ่ง บอกกับเอเอฟพี
กลุ่มไอเอสอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีนี้ผ่านฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อของพวกเขา
“นักรบไอเอสสองคนบุกโจมตีศูนย์ข่าวกรองของอัฟกานิสถานในคาบูล” สำนักข่าวอามักของไอเอส รายงาน
เมืองหลวงของอัฟกานิสถานกลายเป็นหนึ่งในสถานที่อันตรายมากที่สุดในประเทศสำหรับพลเรือนในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ในขณะที่กลุ่มกบฏตอลิบานและไอเอสต่างยกระดับการโจมตี มุ่งเป้าหน่วยงานความมั่นคงและมัสยิด
การรักษาความปลอดภัยในคาบูลถูกยกระดับขึ้นนับตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมที่มีการระเบิดรถบรรทุกใกล้เขตสถานทูตของเมืองนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 150 คนและบาดเจ็บประมาณ 400 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
ไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าวที่รัฐบาลชี้ว่าเป็นฝีมือของเครือข่ายฮักกานี พันธมิตรตอลิบาน
การโจมตีในวันนี้ (18) นับเป็นอีกความเสื่อมถอยหนึ่งของกองกำลังอัฟกานิสถานที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก กลุ่มตอลิบานมุ่งเป้าค่ายทหารหลายแห่งในช่วงไม่กี่เดือนมานี้รวมถึงการโจมตีในเดือนตุลาคมที่คร่าชีวิตราว 150 คน
กองกำลังอัฟกานิสถานที่มีปัญหาเรื่องการหนีทหารและการคอร์รัปชั่นอยู่แล้วประสบกับความสูญเสียมากขึ้นจนกลุ่มสังเกตการณ์ในสหรัฐฯอธิบายว่าเป็นระดับที่สูงจนน่าตกใจนับตั้งแต่ที่กองกำลังนาโตยุติภารกิจสู้รบในปี 2014
ขวัญกำลังใจถูกบั่นทอนจากความกลัวที่ว่า กลุ่มติดอาวุธมีคนวงในคอยช่วย โดยเป็นผู้แทรกแซงอยู่ตำแหน่งต่างๆ เพื่อทุจริตขายยุทโธปกรณ์ของกองทัพให้กับพวกตอลิบาน
แต่กลุ่มไอเอสซึ่งขยายอิทธิพลในอัฟกานิสถานนับตั้งแต่พวกเขาปรากฏตัวครั้งแรกในภูมิภาคนี้ในปี 2015 ก็ยกระดับการโจมตีในกรุงคาบูลอย่างรวดเร็วรวมถึงต่อชนกลุ่มน้อยนิกายชีอะห์ของประเทศนี้
เมื่อเดือนพฤศจิกายน มือระเบิดฆ่าตัวตายจุดชนวนระเบิดตัวเองนอกการชุมนุมทางการเมืองในคาบูล สังหารคนอย่างน้อย 14 คนในการโจมตีที่อ้างความรับผิดชอบโดยกลุ่มไอเอส