รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – หนังสือพิมพ์พีเพิลเดลี กระบอกเสียงพรรคคอมมิวนิสต์จีนโจมตีสื่อออสเตรเลียเมื่อวานนี้(11 ธ.ค)กล่าวหากีดกันสีผิว และวิตกจริตเกินควรในการรายงานข่าวประเทศจีน เกิดขึ้นหลังนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย มัลคอม เทิร์นบูล ประกาศสัปดาห์ที่ผ่านมา ยืนยันเชื่อในรายงานข่าวปักกิ่งแอบเข้าแทรกแซงการเมืองออสเตรเลีย
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(11 ธ.ค)ว่า หนังสือพิมพ์พีเพิลเดลี (People's Daily) ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนใช้หน้าบทความเห็นบรรณณาธิการออกมาตอบโต้ออสเตรเลีย โดยชี้ว่า การรายงานข่าวประเทศจีนบนหน้าสื่อออสเตรเลียนั้นดูเหมือนเลือกที่จะกีดกันทางสีผิว และไม่ตั้งอยู่บนความจริง
โดยพีเพิลเดลีได้กล่าวในวันจันทร์(11)ว่า การรายงานข่าวจีนในการเข้าแทรกแซงกิจการภายในออสเตรเลียนั้น เป็นเหมือนการหยียดทางสีผิว และวิตกจนเกินเหตุ ซึ่งเป็นการออกมาตอบโต้ของทางฝั่งจีนหลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย มัลคอม เทิร์นบูล ออกมาให้ความเห็นว่า เขาให้ความสนใจอย่างจริงจังถึงการรายงานที่เปิดเผยว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนพยายามที่จะหาทางแทรกแซงประเทศออสเตรเลียของเขา
ซึ่งเทิร์นบูลกล่าวว่า มหาอำนาจต่างชาตินั้นดำเนินการอย่างไม่คาดหมาย และหาทางอย่างซ่อนเร้นมากขึ้นเพื่อที่จะมีอิทธิพลเหนือกระบวนการทางการเมืองออสเตรเลียและของโลก โดยทางผู้นำออสเตรเลียได้อ้างไปถึงรายงานที่เปิดเผยถึงการเข้ามาแทรกแซงของปักกิ่ง
รอยเตอร์ชี้ว่า ทั้งนี้รัฐบาลจีนได้ออกมาประท้วงต่อความเห็นนี้ก่อนหน้าแล้ว และในวันจันทร์(11) หนังสือพิมพ์ทางการของพรรคคอมมิวนิสต์ได้ก้าวขึ้นมาเพื่อตอบโต้ต่อออสเตรเลียต่อ
โดยในรายงาน เดลีพีเพิลกล่าวว่า “รายงานต่างๆในสื่อออสเตรเลียล้วนเกิดมาจากการจินตนาการ และยังเป็นการกล่าวหาที่ปราศจากความเป็นจริงเพื่อโจมตีรัฐบาลจีน และป้ายสีต่อนักเรียนจีนและประชาชนจีนที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลีย”
เดลีพีเพิลกล่าวต่ออย่างเผ็ดร้อนว่า “ซึ่งการวิตกจริตที่ถึงขั้นร้ายแรงนี้มี น้ำเสียงแสดงความเหยียดหยามทางสีผิวแฝงไว้ ซึ่งทำให้แปดเปื้อนหไปถึงภาพลักษณ์แง่บวกของออสเตรเลียที่มีหลายเชื้อชาติอาศัยร่วมกันในสังคมเดียว”
รอยเตอร์รายงานว่า ความเห็นในหน้าบทบรรณาธิการเดลีพีเพิล พบว่ามีการใช้นามปากกาลงท้ายว่า “Zhong Sheng” ที่มีความหมายว่า เสียงของจีน ซึ่งเป็นนามปากกาที่ทางพีเพิลเดลีเลือกใช้เมื่อต้องการวิจารณ์ปัญหานโยบายต่างประเทศ
ทั้งนี้พบว่าเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำนักข่าวแฟร์แฟ็กซ์ มีเดีย และเอบีซี ต่างรายงานข่าวถึงแคมเปญของจีนที่มีจุดประสงค์ต้องการแทรกซึมการเมืองออสเตรเลียเพื่อผลประโยชน์ของปักกิ่ง
ซึ่งนายกรัฐมนตรีเทิร์นบูลประกาศที่จะออกกฎหมายห้ามการรับบริจาคจากต่างชาติในทางการเมืองเพื่อตัดปัญหาอิทธิพลต่างชาติต่อการเมืองในประเทศ แต่ทว่า สื่อกระบอกเสียงพรรคคอมมิวนิสต์จีนอ้างว่า ปักกิ่งไม่มีความสนใจในการเข้าแทรกแซงการเมืองออสเตรเลีย หรือใช้เงินเพื่อสร้างอิทธิพล
เดอะการ์เดียนรายงานก่อนหน้าว่า นายกรัฐมนตรีมัลคอม เทิร์นบูล ประกาศในวันเสาร์(9)ว่า ออสเตรเลียจะลุกขึ้นสู้จีน ซึ่งก่อนหน้าในวันพฤหัสบดี(7) ผู้นำออสเตรเลียได้เสนอร่างกฎหมายภัยการแทรกแซงจากต่างชาติเข้าสู่รัฐสภาออสเตรเลีย ซึ่งมีเนื้อหาห้ามการบริจาคจากต่างชาติ และยังบังคับให้อดีตนักการเมืองออสเตรเลีย ผู้บริหาร และนักล็อบบี้ยิสต์ที่ทำงานเพื่อผลประโยชน์ของต่างชาติ ต้องขึ้นทะเบียนกับรัฐบาลแคนเบอร์รา หากว่าคนเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างอิทธิพลเหนือการเมืองออสเตรเลีย
ทั้งนี้พบว่า ในร่างกฎหมายใหม่ จะถือเป็นอาชญากรรมทันทีหากว่าบุคคลหนึ่งๆจะทำงานในฐานะเพื่อผลประโยชน์ต่างชาติเพื่อมีอิทธิพลเหนือกระบวนการรัฐบาลหรือการเมืองออสเตรเลียในรูปแบบที่ปิดบัง หรือหลอกลวง
ซึ่งพบว่าในวันนั้น เทิร์นบูลได้แถลงต่อสภาล่างของออสเตรเลียเกี่ยวกับจีนว่า “สื่อรายงานได้ชี้ไปว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้แอบทำงานอย่างๆลับๆในการเข้าแทรกแซงสื่อออสเตรเลียของพวกเรา มหาวิทยาลัยของพวกเรา หรือแม้แต่การตัดสินใจจากนักการเมืองเลือกตั้งที่นั่งอยู่ในที่นี่ ในตึกแห่งนี้” และกล่าวต่อว่า “เราพิจารณารายงานที่ว่านี้อย่างจริงจัง”
โดยในวันเสาร์(9) สื่อออสเตรเลียรายงานว่า สำนักข่าวกรองออสเตรเลีย Asio ได้ชี้ถึงผู้สมัครทางการเมืองอย่างน้อย 10 คนทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ที่พบว่ามีความใกล้ชิดกับสำนักงานข่าวกรองปักกิ่ง และในรายงานยังอ้างว่า จีนใช้วิธีนี้เพื่อสร้างอิทธิพลให้กว้างไกลบนเวทีทางการเมืองออสเตรเลีย