รอยเตอร์ – ไต้หวันต้องพัฒนาระบบการรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลเพื่อป้องกันเหล่าแฮกเกอร์ที่มุ่งเป้าระบบการเงินและการธนาคารของเกาะแห่งนี้ ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน กล่าวในวันนี้ (11) พร้อมเผยโฉมยุทธศาสตร์สามง่ามเพื่อป้องกันการโจมตี
ความกังวลเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลเพิ่มสูงขึ้นหลังจากธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งถูกแฮกตู้เอทีเอ็มในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว และในเดือนตุลาคม กลุ่มแฮกเกอร์ได้โจมตีระบบโอนเงินของธนาคาร Taiwan Far Eastern Bank
ไช่กำหนดเป้าหมายด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ขึ้นมา 3 เป้าหมายไล่ตั้งแต่ระบบแห่งชาติ และจัดสร้างทีมรักษาความมั่นคงด้านดิจิตอลแห่งมาตุภูมิ ไปจนถึงส่งเสริมการวิจัยและการพัฒนาในด้านการป้องกันประเทศ
“ไต้หวันมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องสร้างระบบป้องกันความมั่นคงทางข้อมูลขึ้นเสียก่อน เพื่อเพิ่มความเชื่อใจที่ประชาชนและภาคธุรกิจมีต่อสิ่งแวดล้อมดิจิทัล” ไช่ บอกที่งานการรักษาความปลอดภัยทางข้อมูล
“ด้วยการโจมตีของแฮกเอร์ การขู่กรรโชกและการฉ้อโกงทางอินเตอร์เน็จ สิ่งเหล่านี้จะกระทบการใช้ชีวิตของผู้คน ระเบียบสังคม และกระทั่งคุกคามความมั่นคงแห่งชาติ” เธอไม่ได้กำหนดกรอบเวลาสำหรับการบรรลุเป้าหมายด้านความปลอดภัยดังกล่าว
ภัยคุกคามจากการโจรกรรมทางดิจิทัลกำลังเพิ่มสูงขึ้นในขณะที่เหล่าแฮกเกอร์ปรับใช้เครื่องมือและเทคนิคที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ SWIFT ระบบส่งข้อความทั่วโลกที่ถูกใช้เพื่อเคลื่อนย้ายเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ในแต่ละวันออกมาเตือนเมื่อเดือนที่แล้ว
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ระบบตลาดหุ้นของไต้หวันก็ถูกโจมตีด้วยเช่นกัน หน่วยงานควบคุมความปลอดภัยทางการเงินออกมาตรการต่างๆ ตอบโต้ในทันที ไช่ กล่าว
หลังจากไช่เข้ารับตำแหน่ง ไต้หวันยกให้การักษาความปลอดภัยทางข้อมูลอยู่ในระดับความมั่นคงแห่งชาติ เธอกล่าวเสริม
หลังจากนั้นรัฐบาลได้เพิ่มสมาชิกอีกคนหนึ่งเข้าไปในทีมความมั่นคงแห่งชาติ ในขณะที่สภาบริหาร (Executive Yuan) หรือคณะรัฐมนตรีก่อตั้งหน่วยงานความั่นคงทางข้อมูลขึ้นมา