เอเจนซีส์ - ตำรวจฮอนดูรัสประกาศคืนวันจันทร์ (4 ธ.ค.) ไม่ยอมรับคำสั่งจากรัฐบาลรักษาการของประธานาธิบดี ฮวน ออร์ลันโด เฮอร์นันเดซ ยืนกรานทุกนายอยู่แต่ในที่ตั้ง ไม่บังคับใช้เคอร์ฟิว ไม่ต้องการเผชิญหน้ากับประชาชน สุดเบื่อมรสุมการเมืองที่เกิดขึ้น ท่ามกลางม็อบต้านรัฐบาลลงถนนทั่วประเทศตั้งแต่วันอาทิตย์ (3) กดดันให้มีการนับคะแนนเลือกตั้งใหม่ เป็นอึ้งสุดตุกติก คู่แข่งจากฝ่ายค้านที่เคยมีคะแนนนำหลังนับผ่านไปเกินครึ่งทาง แต่คะแนนกลับหล่นฮวบหลังระบบขัดข้อง กระบวนการนับช้าผิดปกติ
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (5 ธ.ค.) ว่า โฆษกตำรวจฮอนดูรัสกล่าวผ่านแถลงการณ์ที่ออกมาในช่วงคืนวันจันทร์ (4) ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฮอนดูรัสทุกนาย รวมไปถึงหน่วยรบพิเศษที่ได้รับการฝึกโดยสหรัฐฯ ที่อยู่ภายในกรุงเตกูซิกัลปา จะไม่ยอมรับคำสั่งจากรัฐบาลรักษาการของประธานาธิบดี ฮอนดูรัส ฮวน ออร์ลันโด เฮอร์นันเดซ
โฆษกตำรวจฮอนดูรัสแถลงต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่จะอยู่แต่ภายในที่ตั้งของตนเองจนกว่ามรสุมทางการเมืองที่เกิดมาจากการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ (26 พ.ย.) จะได้รับการแก้ไข
ในแถลงการณ์ โฆษกตำรวจฮอนดูรัสประกาศว่า ทางตำรวจฮอนดูรัสปฏิเสธที่จะบังคับใช้คำสั่งเคอร์ฟิวที่ออกมาจากรัฐบาลฮอนดูรัสหลังเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดจากปัญหาโกงเลือกตั้ง
“เราต้องการสันติ ดังนั้นเราจะไม่ทำตามคำสั่งของรัฐบาลฮอนดูรัส พวกเราเบื่อหน่ายต่อสิ่งนี้เป็นอย่างมาก”
ในแถลงการณ์ของตำรวจฮอนดูรัสยังชี้ว่า “พวกเราไม่ได้มาพร้อมกับแนวความคิดทางการเมือง พวกเราไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับประชาชน และยังไม่ต้องการกดขี่หรือละเมิดสิทธิของประชาชนชาวฮอนดูรัส”
ทั้งนี้ พบว่าฝูงชนที่รวมตัวต่อต้านรัฐบาลฮอนดูรัสต่างส่งเสียงยินดี พร้อมปรบมือหลังจากที่แถลงการณ์ของตำรวจฮอนดูรัสได้สิ้นสุดลง พร้อมตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดังว่า “ประชาชนที่ร่วมเป็นหนึ่งจะไม่มีวันพ่ายแพ้”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ก่อนหน้านี้สมาชิกหน่วยปราบจลาจลฮอนดูรัสที่ชื่อ “เดอะคอบบรา” ได้ออกมาให้ความเห็นว่า “นี่ไม่ใช่การสไตรก์ นี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินเดือนหรือเรื่องเงิน แต่นี่เป็นเพราะเรามีครอบครัว และพวกเราเหน็ดเหนื่อยกับเรื่องพวกนี้ ซึ่งหน้าที่ของเราคือการดูแลความสงบและปลอดภัยให้แก่ประชาชนชาวฮอนดูรัส ไม่ใช่กดขี่คนเหล่านี้ พวกเราต้องการให้พวกเขาปลอดภัย”
สื่ออังกฤษชี้ว่า การประกาศแถลงการณ์ที่ออกมาหักมุมให้กับเหตุการณ์สับสนทางการเมืองฮอนดูรัส ซึ่งลากยาวมานานเป็นสัปดาห์ของการเลือกตั้ง เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 ที่มีการเกิดรัฐประหาร
ด้านบรรดาผู้สังเกตการณ์นานาชาติต่างออกมาเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งฮอนดูรัสจัดการนับคะแนนใหม่อีกครั้ง ในขณะที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งจากฝ่ายค้าน ซัลวาดอร์ นาสรัลลา (Salvador Nasralla) ออกมาประกาศอ้างในชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฮอนดูรัสรอบใหม่
เขากล่าวว่า “ผมเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ผมได้รับเลือกโดยประชาชนชาวฮอนดูรัส” เดอะการ์เดียนรายงานว่า ผู้สมัครจากฝ่ายค้านฮอนดูรัสมีคะแนนขึ้นนำ 5 จุดหลังจากคะแนนถูกนับไปแล้วเกือบ 58% ของผลคะแนนทั้งหมดที่ถูกนับขึ้นในช่วงต้นๆ ของชั่วโมงหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 26 พ.ย.
แต่กลับพบว่ากระบวนการนับเป็นไปอย่างล่าช้าผิดปกติ พร้อมไปกับคะแนนเสียงขึ้นนำของเขาที่หล่นหายไปทีละเล็กละน้อย ส่งผลทำให้ฝ่ายประธานาธิบดีรักษาการ เฮอร์นานเดซ ออกมาอ้างประกาศชัย
ด้าน จอร์จ คีโรกา (Gorge Quiroga) หัวหน้าองค์การรัฐอเมริกัน OAS ประจำฮอนดูรัสได้กล่าวว่า ทางองค์การ OAS ขอออกมาเรียกร้องให้มีการนับผลคะแนนใหม่อีกครั้ง โดยชี้ไปที่ความผิดปกติ ความผิดพลาด และรวมไปถึงปัญหาทางระบบ ที่หมายความว่า พวกเขาไม่สามารถวางใจในผลการเลือกตั้งที่ออกมาได้
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันจันทร์ (4) พบว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งฮอนดูรัสที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลเฮอร์นานเดซออกมาประกาศว่า มีการพบว่าผลคะแนนของรักษาการประธานาธิบดีฮอนดูรัสขึ้นนำคู่แข่ง
นาสรัลลาอยู่ที่ 42.98% ต่อ 41.39% หลังจากที่ได้มีการนับคะแนนใหม่อีกรอบในส่วนผลคะแนนจากหน่วยเลือกตั้งที่น่าสงสัยกว่า 1,000 แห่ง
แต่กระนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้งฮอนดูรัสที่รู้จักในชื่อย่อ TSE ยังคงไม่ประกาศชื่อของผู้ชนะการเลือกตั้งออกมา โดยชี้ไปที่ยังคงอยู่ระหว่างกระบวนการนับที่อาจมีการพลิกล็อกเกิดขึ้น
เดอะการ์เดียนรายงานว่า นับตั้งแต่วันอาทิตย์ (3) ถนนสายต่างๆ ทั่วประเทศเต็มไปด้วยผู้ประท้วง ซึ่งได้มีการเผชิญหน้ากับบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลที่อยู่ในชุดเตรียมพร้อม ที่ใช้ทั้งกระสุนน้ำและแก๊สน้ำตาเป็นอาวุธ
ในขณะที่คำสั่งเคอร์ฟิวในช่วงกลางคืนที่ออกมาบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์ (1) สามารถลดการประท้วง แต่ไม่สามารถยุติความรุนแรงได้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้สื่อข่าวต่างประเทศจำนวนหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ฮอนดูรัสจับกุม รวมไปถึง จีฮาน ฮาฟิซ (Jihan Hafiz) ที่อ้างว่าถูกเนรเทศออกนอกประเทศ พร้อมกับเพื่อนนักข่าวอีก 2 คน คือ เอ็ด ออกุสติน (Ed Augustin) และรีด ลินด์เซย์ (Reed Lindsay)
ในวันจันทร์ (4) ในขณะที่การเจรจากำลังดำเนินต่อไป พบว่าพรรคการเมืองอัลไลแอนซ์ ปาร์ตี้ (Alliance party) ของนาสรัลลาได้ออกมาเรียกร้องอีกครั้งให้มีการจัดการนับคะแนนใหม่กว่า 5,000 คูหาเลือกตั้งที่เกิดปัญหาระบบการตรวจนับคะแนนของ TSE ล่มในวันอังคาร (28 พ.ย) และทำให้เกิดการพลิกผันครั้งมโหฬารขึ้น ซึ่งบรรดาผู้ประท้วงบนท้องถนนต่างชี้ว่าเฮอร์นานเดซเป็นผู้จัดการให้เกิดขึ้น และขโมยผลคะแนนไป
ในวันเดียวกันนี้ (4) หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของ OAS ที่มีชื่อว่า คณะกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชน IACHR ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระ ออกแถลงประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างการเลือกตั้งของฮอนดูรัส โดยพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งจำนวน 11 คน
นอกจากนี้ รอยเตอร์ได้รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกประกาศในวันจันทร์ (4) รับรองให้ฮอนดูรัสเป็นชาติที่ให้การสนับสนุนด้านสิทธิมนุษยชน และต่อสู้กับการคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า “ฮอนดูรัส” เป็นมิตรที่ดีของอเมริกา
การที่ฮอนดูรัสได้รับการรับรองนี้ จะทำให้รัฐบาลเฮอร์นานเดซได้รับเงินช่วยเหลือจากวอชิงตันด้านความมั่นคงมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ซึ่งในปี 2017 พบว่าสหรัฐฯ ได้ให้ความช่วยเหลือฮอนดูรัสด้วยแพกเกจตัวเลข 17.3 ล้านดอลลาร์
