ประธานาธิบดีคนใหม่ซิมบับเวสาบานตนรับตำแหน่ง ลั่นฟื้นฟูศก.และบริหารประเทศเพื่อประชาชน

รอยเตอร์ - เอมเมอร์สัน เอ็มแนนแกกวา สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีซิมบับเวในวันศุกร์(24พ.ย.) พร้อมเผยวิสัยทัศน์ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจอันพังทลายของซิมบับเวและประกาศบริหารประเทศในนามประชาชนทุกคน

เอ็มนันแกกวา ซึ่งเคยเป็นหนึ่งพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของอดีตประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ ผู้ถูกขับไล่ เข้าพิธีสาบานตนที่สนามกีฬาแห่งชาติความจุ 60,000 ที่นั่ง ชานกรุงฮาราเร ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ระดับสูง นักการทูตต่างชาติ และเหล่าผู้สนับสนุน

ในพิธีสาบานตนซึ่งมีขึ้นไม่กี่วันหลังจากมูกาเบถูกโค่นอำนาจ เอ็มแนนแกกวา วัย 75 ปี อดีตหัวหน้าหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้ให้คำรับประกันสิทธิของนักลงทุนต่างชาติและกลับมาติดต่อคบค้ากับตะวันตก และบอกว่าจะเดินหน้าศึกเลือกตั้งตามกำหนดในปีหน้า

ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ราว 30 นาทีต่อหน้าพวกผู้สนับสนุนหลายหมื่นคนในสนามกีฬาแห่งชาติ เอ็มแนนแกกวา แสดงท่าทีผูกมิตรไมตรีกับพวกฝ่ายค้าน ซึ่งถูกเหมือนมีเป้าหมายหวังเป็นสะพานประสานความแตกแยกทางเชื้อชาติและการเมือง ที่เคยถูก มูกาเบ ใช้แสวงหาประโยชน์ตลอดช่วงเวลา 37 ปีที่อยู่ตำแหน่ง

"ผมมีความตั้งใจและปรารถนารับใช้ประเทศของเราในฐานะของประธานาธิบดีของประชาชนทุกคน โดยไม่เลือกสี, หลักความเชื่อ, ศาสนา, ชนเผ่า หรือความผูกพันทางการเมือง" เขากล่าว พร้อมยกย่องเสียงของประชาชนว่าเป็น "เสียงของพระเจ้า"

นอกจากนี้แล้วเขายังเรียกร้องให้ชาติตะวันตกปลดเปลื้องมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดต่อประเทศของเขาและแสดงความต้องการลงมือทำงานอย่างเต็มที่ตั้งแต่วันแรก

เบื้องหลังโวหารที่กินใจ ยังมีชาวซิมบับเวบางส่วนแสดงความคลางแคลงใจว่าชายซึ่งครั้งหนึ่งเคยรับใช้อย่างภักดีต่อนายมูกาเบมานานหลายทศวรรษ จะนำพาความเปลี่ยนแปลงมายังสถาบันการปกครองได้จริงหรือไม่ ขณะที่ระบอบการปกครองของซิมบับเวถูกกล่าวหามาช้านานว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบและมีนโยบายเศรษฐกิจที่ก่อหายนะ

ซิมบับเวเคยเป็นประเทศที่เศรษฐกิจสดใสที่สุดในแอฟริกา แต่ความตกต่ำตลอดหลายทศวรรษภายใต้การบริหารของมูกาเบ ซึ่งรวมถึงการใช้ความรุนแรงเข้ายึดไร่นาของชาวผิวขาว และการพิมพ์เงินจนกระทั่งอัตราเงินเฟ้อพุ่งพล่าน ส่งผลให้ซิมบับเวไม่สามารถกู้ยืมเงินจากสถาบันนานาชาติได้นับจากปี 1999 ที่รัฐบาลเริ่มผิดนัดชำระหนี้ และมีหนี้ค้างชำระต่างชาติถึง 1,750 ล้านแรนด์

เอ็มนันแกกวา แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าจะไม่ยกเลิกนโยบายปฏิรูปที่ดินเมื่อปี 2000 ซึ่งเป็นชนวนเหตุของการใช้กำลังยึดไร่นาของชาวผิวขาว แต่สัญญาว่าพวกที่สูญเสียที่ดินจะได้รับเงินชดเชย

เมื่อตอนกลับสู่ ซิมบับเว ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากหลบหนีการกวาดล้างที่นำโดยมูกาเบออกไปนอกประเทศ เอ็มแนนแกกวา ให้สัญญาว่าจะยึดมั่นประชาธิปไตย, อดทนและเคารพหลักนิติธรรม

ก่อนหน้าพิธีสาบานตน มูกาเบและเกรซ ภรรยาของเขา คู่ปรปักษ์ของเอ็มแนนแกกวา ได้รับสิทธิ์ภูมิคุ้มกันจากการดำเนินคดีอัยการและรับประกันความปลอดภัยจากอัยการ ส่วนหนึ่งในข้อตกลงที่นำไปสู่การลาออกของมูกาเบเมื่อวันอังคาร(21พ.ย.)

ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (23) ทางพรรค MDC-T พรรคฝ่ายค้านหลักของซิมบับเว ออกถ้อยแถลงแสดงจุดยืนว่า ทางพรรคหวังว่าเอ็มแนนแกกวา ซึ่งมีฉายาว่า “ไอ้เข้ซิมบับเว” จะไม่ทำการเมืองเลียนแบบมูกาเบ ซึ่งเป็นรูปแบบการเมืองของพวกอันธพาล เต็มไปด้วยความรุนแรง และรวมไปถึงการคอร์รัปชัน อันเป็นสัญลักษณ์การอยู่ในอำนาจของมูกาเบมานานถึง 37 ปี