xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ เลบานอนเดินทางถึง “ฝรั่งเศส” สยบข่าวลือโดนซาอุฯ กักขัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ขบวนรถยนต์ของนายกรัฐมนตรี ซาอัด ฮารีรี แห่งเลบานอน เดินทางถึงที่พักในกรุงปารีสเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ (18 พ.ย.)
เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีซาอัด ฮารีรี แห่งเลบานอน เดินทางโดยเครื่องบินจากซาอุดีอาระเบียถึงกรุงปารีสของฝรั่งเศสแล้วในวันนี้ (18 พ.ย.) ท่ามกลางข่าวลือว่าเขาถูกรัฐบาลซาอุฯ ควบคุมตัวและบังคับให้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

ฮารีรี มาเยือนฝรั่งเศสตามคำเชิญของประธานาธิบดีเอมมานูแอล มาครง ซึ่งพยายามช่วยหาทางออกให้แก่วิกฤตการเมืองที่เสี่ยงจะทำลายระบอบประชาธิปไตยอันเปราะบางในเลบานอน

แหล่งข่าวใกล้ชิดยืนยันว่า เครื่องบินของนายกฯ เลบานอนซึ่งเดินทางออกจากรุงริยาดเมื่อช่วงกลางดึก ลงจอดที่ท่าอากาศยาน เลอ บูร์เกต์ เมื่อเวลา 7.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยรัฐบาลฝรั่งเศสได้จัดขบวนรถยนต์ 7 คันพา ฮารีรี และภริยา “ลารา” ไปส่งยังที่พักในกรุงปารีส

“ที่มีการพูดกันว่าผมถูกกักขัง และไม่สามารถเดินทางออกจากซาอุดีอาระเบียได้ ล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ” ฮารีรี ทวีตข้อความก่อนจะขึ้นเครื่องบินออกจากซาอุฯ ซึ่งสอดคล้องกับเจ้าหน้าที่ริยาดที่ออกมาปฏิเสธข่าวลือนี้หลายครั้ง

แหล่งข่าวระบุด้วยว่า ฮารีรี ได้เข้าเฝ้าฯ เจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย และทั้งสองได้พูดคุยกันอย่าง “เยี่ยมยอด มีประโยชน์ และสร้างสรรค์” ก่อนที่เขาจะเดินทางจากมา

นายกฯ เลบานอนและภริยามีกำหนดหารือกับ มาครง ในช่วงบ่ายวันนี้ (18)

การเดินทางมาฝรั่งเศสของ ฮารีรี วัย 47 ปีมีขึ้น หลังจากที่เขาได้พูดคุยกับ ฌ็อง-อีฟส์ เลอ ดรียอง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสที่กรุงริยาดเมื่อวันพฤหัสบดี (16)

ฮารีรี ซึ่งถือสัญชาติเลบานอนและซาอุฯ ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ขณะอยู่ที่กรุงริยาด โดยอ้างว่ากลัวจะเป็นอันตรายถึงชีวิต พร้อมกล่าวหาอิหร่านกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ว่าพยายามบ่อนทำลายเสถียรภาพของเลบานอน

การที่ ฮารีรี พำนักอยู่ที่ริยาดเป็นเวลานานโดยไม่เดินทางกลับเลบานอนทำให้เกิดกระแสข่าวว่าเขาอาจจะถูกรัฐบาลซาอุฯ จับเป็นตัวประกัน ขณะที่ประธานาธิบดีมิเชล อูน แห่งเลบานอนยืนยันว่า การลาออกของ ฮารีรี ขณะอยู่ในต่างแดนนั้นไม่สามารถยอมรับได้

การสละตำแหน่งของ ฮารีรี ถูกมองว่าสะท้อนถึงการต่อสู้ระหว่างซาอุฯ กับอิหร่าน ซึ่งถือหางคู่ขัดแย้งคนละฝ่ายในสงครามซีเรีย และเยเมน ทั้งยังประจวบเหมาะกับช่วงเวลาที่เจ้าชายโมฮัมเหม็ดทรงสั่งกวาดล้างบรรดาเจ้าชายซาอุฯ รัฐมนตรี และนักธุรกิจกว่า 200 คน ด้วยข้อหาทุจริตคอร์รัปชัน

สถานการณ์ล่าสุดดูเหมือนจะลุกลามบานปลายยิ่งขึ้น โดยสื่อซาอุฯ รายงานวันนี้ (18) ว่ารัฐบาลได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำกรุงเบอร์ลินกลับริยาด เพื่อประท้วงที่รัฐมนตรีต่างประเทศ ซิกมาร์ กาเบรียล ของเยอรมนีออกมาพูดในทำนองว่า ฮารีรี กำลังตกเป็นเครื่องมือของรัฐบาลซาอุฯ

กาเบรียล กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (16) ว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงว่าจะเกิดความระส่ำระสายและเหตุนองเลือดขึ้นในเลบานอน พร้อมเตือนให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการกระทำที่สุ่มเสี่ยง (adventurism) และก่อนหน้านั้นก็ได้พูดว่า “เลบานอนมีสิทธิ์ตัดสินชะตากรรมของตัวเอง และไม่ควรตกเป็นพินบอลให้แก่ซีเรีย ซาอุดีอาระเบีย หรือผลประโยชน์ของชาติอื่นๆ”




กำลังโหลดความคิดเห็น