รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์เมื่อวันพุธ (15 พ.ย.) ข้อมูลเผยสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ปัจจัยทางพลังงานฉุดวอลล์สตรีทปิดลบ ขณะที่ทองคำปรับลดพอสมควร
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนธันวาคม ลดลง 37 เซ็นต์ ปิดที่ 55.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 34 เซ็นต์ ปิดที่ 61.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนทั้งสองสัญญา
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ (15 พ.ย.) ระบุว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 พฤศจิกายน สวนทางกับที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าน่าจะลดลงราวๆ 1 ล้านบาร์เรล
ในข้อมูลเดียวกัน ระบุด้วยว่าสต๊อกเบนซินเพิ่มขึ้นเช่นกันที่ 900,000 บาร์เรล ผิดกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล ส่วนคลังสำรองน้ำมันกลั่น แม้ลดลง 800,000 บาร์เรล แต่ก็น้อยกว่าที่คาดหมายไว้ว่าจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล
หุ้นภาคพลังงานฉุดตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ (15 พ.ย.) ขยับลง 4 วันติด เช่นเดียวกับภาคเทคโนโลยีที่เป็นตัวถ่วงหลักของดัชนีเอสแอนด์พี 500
ดาวโจนส์ ลดลง 138.19 จุด (0.59 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,271.28 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 14.25 จุด (0.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,564.62 จุด แนสแดค ลดลง 31.66 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,706.21 จุด
ภาคพลังงานของเอสแอนด์พี 500 ขยับลง 4 วันรวมแล้วเกือบ 4 เปอร์เซ็นต์ หลังจากราคาน้ำมันปิดลบเป็นวันที่ 4 ในวันพุธ (15 พ.ย.) ตามข้อมูลที่เผยให้เห็นว่าสต๊อกน้ำมันดิบและเบนซินเพิ่มขึ้นผิดคาด
นอกจากนี้แล้ว ภาคเทคโนโลยียังเป็นตัวถ่วงหนักที่สุดของเอสแอนด์พี 500 โดยนักวิเคราะห์มองว่าส่วนหนึ่งว่าจะมาจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังหุ้นกลุ่มนี้ขยับขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งตลอดขวบปีที่ผ่านมา
ด้านราคาทองคำในวันพุธ (15 พ.ย.) ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน หลังดอลลาร์ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,277.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์