รอยเตอร์ - เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกมาชี้แจงบทบาทในระยะยาวของทหารอเมริกัน หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) สูญเสียดินแดนในอิรักและซีเรียไปเกือบหมดสิ้น โดยยืนยันว่าอเมริกาพร้อมที่เดินหน้าบดขยี้ไอเอสในซีเรียต่อไป “นานตราบที่พวกเขาต้องการ”
ขณะที่กองกำลังท้องถิ่นซึ่งมีสหรัฐฯ และรัสเซียหนุนหลังยังคงบุกเข้าชิงดินแดนส่วนน้อยคืนจากไอเอส แมตทิส ได้กล่าววานนี้ (13 พ.ย.) ว่าเป้าหมายระยะยาวของสหรัฐฯ ก็คือการป้องกันไม่ให้เกิด “ISIS 2.0”
“ศัตรูยังไม่ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องสู้ต่อ ตราบเท่าที่พวกเขายังอยากจะสู้” แมตทิส แถลงต่อสื่อมวลชนที่ตึกเพนตากอนใกล้กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. พร้อมย้ำถึงความสำคัญของกระบวนการสันติภาพในระยะยาว โดยกองทัพสหรัฐฯ จะช่วยสร้างเงื่อนไขที่นำไปสู่วิธีแก้ไขปัญหาทางการทูต หลังจากที่ซีเรียต้องตกอยู่ในสงครามกลางเมืองมานานร่วม 7 ปีเต็ม
“กองทัพสหรัฐฯ จะยังไม่เดินจากออกมา จนกว่ากระบวนการสันติภาพที่เจนีวาจะขับเคลื่อนไปได้” แมตทิส กล่าว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียต่างให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกันฟื้นฟูเสถียรภาพในซีเรีย หลังจากที่สงครามเริ่มคลายความร้อนระอุลง ซึ่งรวมถึงการขยายข้อตกลงหยุดยิงที่ประกาศเมื่อวันที่ 7 ก.ค. ในพื้นที่สามเหลี่ยมทางตะวันตกเฉียงใต้ติดกับอิสราเอลและจอร์แดน
แมตทิส เชื่อว่าข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของซีเรียนั้นได้ผล และเรียกร้องให้ขยายพื้นที่หยุดยิงออกไปอีก เพื่อเปิดทางให้ผู้ลี้ภัยซีเรียได้กลับบ้าน
“คุณต้องขยายมันออกไปเรื่อยๆ จากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่ง และต่อเนื่องไปอีก พยายามทำทุกสิ่งที่จะช่วยให้ชาวซีเรียสามารถกลับไปที่บ้านของพวกเขาได้”
อย่างไรก็ตาม บอสเพนตากอนปฏิเสธที่จะระบุว่าพื้นที่ใดบ้างที่ควรมีการหยุดยิงในอนาคต
รัสเซียเคยระบุไว้ว่า ท้ายที่สุดแล้วกองกำลังต่างชาติทั้งหมดควรจะต้องถอนตัวออกไปจากซีเรีย
รัฐบาลตุรกีแถลงเมื่อวันจันทร์ (13) ว่าสหรัฐฯ มีค่ายทหารอยู่ 13 แห่งในซีเรีย ขณะที่รัสเซียมีอยู่ 5 แห่ง ส่วนกองกำลังเคิร์ด YPG ในซีเรียซึ่งสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนก็ยอมรับว่า วอชิงตันเข้าไปสร้างฐานทัพเอาไว้ถึง 7 แห่งในภาคเหนือของซีเรีย
กลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับฐานที่มั่นของกองกำลังของตน
เป้าหมายสำคัญอย่างหนึ่งของสหรัฐฯ ก็คือ การสกัดกั้นอิทธิพลของ “อิหร่าน” ที่แผ่ลามเข้าไปในอิรักและซีเรียมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงที่เกิดสงครามกับไอเอส