ฮิซบอลเลาะห์ชี้การกระทำของซาอุฯเท่ากับประกาศ'สงคราม'หลังคุมตัวนายกฯเลบานอนบังคับลาออก

รอยเตอร์ - ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ในวันศุกร์(10พ.ย.) ระบุซาอุดีอาระเบียประกาศสงครามเลบานอนและกลุ่มของเขาที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน โดยกล่าวหาว่าริยาดควบคุมตัวซาอัด อัล-ฮารีรี นายกรัฐมนตรีเลบานอนและบังคับให้เขาลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อบั่นทอนเสถียรภาพของประเทศ

ฝรั่งเศสเป็นชาติตะวันตกประเทศแรกที่บ่งชี้ว่าซาอุดีอาระเบีย กักกัน ฮารีรี โดยปราศจากความยินยอมของเจ้าตัวและถูกบีบให้เผยแพร่ถ้อยแถลงลาออกจากตำแหน่ง ขณะที่การสละเก้าอี้ของเขาฉุดเลบานอนเข้าสู่วิกฤต ด้วยผลักชาติอาหรับเล็กๆแห่งนี้เข้าสู่แนวหน้าแห่งความเป็นปรปักษ์ระหว่างซาอุดีอาระเบีย ซึ่งปกครองโดยกษัตริย์สุหนี่และอิหร่าน แกนนำของนิกายชีอะห์

ซัยเยด ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ แกนนำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ระบุว่าการที่ซาอุดีอาระเบียควบคุมตัว ฮารีรี พันธมิตรยาวนานของซาอุดีอาระเบียและบังคับให้ประกาศลาออกขณะที่อยู่ในริยาดเมื่อวันเสาร์(4พ.ย.) ถือเป็นการลบหลู่ชาวเลบานอนทั้งมวลและเขาต้องได้รับการปล่อยตัวกลับสู่เลบานอน

"พวกเขาคุมตัวชายคนนี้ไว้ในซาอุดีอาระเบียและจนถึงตอนนี้ยังห้ามเขาเดินทางกลับสู่เลบานอน" นัสรัลเลาะห์แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ "ชัดเจนว่าซาอุดีอาระเบียและเจ้าหน้าที่ซาอุดีฯประกาศสงครามกับเลบานอน และกับฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน"

คำพูดของเขาสะท้อนถึงสถานการณ์ที่ร้อนระอุในอ่าวเปอร์เซีย หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์(6พ.ย.) ริยาดได้กล่าวหาเลบานอนและฮิซบอลเลาะห์เช่นกันว่าประกาศสงครามกับซาอุดีอาระเบีย

ริยาดอ้างว่า ฮารีรี มีอิสระและที่เขาตัดสินใจลาออกเพราะเกรงว่าจะถูกลอบสังหาร ขณะที่พวกเขามองฮิซบอลเลาะห์ว่าเป็นศัตรูในความขัดแย้งต่างๆทั่วตะวันออกกลาง ในนั้นรวมถึงที่ซีเรียและเยเมน

พวกชาติตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐฯเฝ้ามองความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางด้วยความกังวล โดย เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาเตือนกลุ่มก๊กและประเทศต่างๆ ต่อการใช้เลบานอนเป็นตัวขับเคลื่อนสงครามตัวแทนในตะวันออกกลาง พร้อมระบุว่าวอชิงตันสนับสนุนอย่างหนักแน่นต่อความเป็นเอกราชของเลบานอนและให้ความเคารพ ฮารีรี ในฐานะพันธมิตรที่แข็งขันของสหรัฐฯ และยังคงอ้างอิงเขาในฐานะนายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม ทิลเลอร์สัน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์(10พ.ย.) ไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่า ฮารีรี ถูกบังคับควบคุมตัวในซาอุดีอาระเบีย แต่ก็ยอมรับว่าสหรัฐฯกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายกรัฐมนตรีเลบานอน ประกาศลาออกระหว่างที่กำลังอยู่ในซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันเสาร์ (4 พ.ย.) โดยอ้างว่ากลัวถูกลอบสังหาร พร้อมกล่าวหาอิหร่านและพวกฮิซบอลเลาะห์ กลุ่มติดอาวุธชีอะห์เลบานอน กำลังบ่มเพาะให้เกิดความขัดแย้งในโลกอาหรับ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์กลับตาลปัตรในวันพฤหัสบดี (9 พ.ย.) เมื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเลบานอน 2 คน กล่าวหาว่าเป็นทางริยาดเองที่บีบให้เขาอยู่ที่นั่น สั่งให้เขาอ่านแถลงการณ์ลาออกและกักบริเวณเขา

นัสรัลเลาะห์ ยังกล่าวหาซาอุดีอาระเบียยุให้อิสราเอลโจมตีเลบานอน และแม้เขาไม่ตัดความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะลงมือโจมตี แต่เขาก็ไม่เชื่อเช่นนั้น เนื่องจากอิสราเอลรู้ดีว่าจะต้องชดใช้ด้วยราคาที่แสนแพง "ผมขอเตือนพวกเขา อย่าได้คำนวณพลาดหรือก้าวย่างใดๆเพื่อแสวงหาประโยชน์จากสถานการณ์ ซาอุดีอาระเบียจะล้มเหลวในเลบานอน เช่นเดียวกับในทุกๆแนวหน้าขอสมรภูมิรบ"

การลาออกของ ฮารีรี ถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความพยายามตอบโต้อิหร่านของซาอุดีอาระเบีย ในขณะที่เตหะรานมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆในซีเรียและอิรัก ขณะเดียวกันริยาดกับพันธมิตรกำลังต่อสู้กับกบฏฮูตี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในเยเมน