มาร์เกตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับลง 2 วันติดท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนในวันพุธ (8 พ.ย.) หลังพบคลังเชื้อเพลิงสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นผิดคาด ส่วนวอลล์สตรีทเดินหน้าทุบสถิติสูงสุดต่อเนื่อง ขณะที่ทองคำพุ่งแรงจากดอลลาร์อ่อนค่า
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนธันวาคม ลดลง 39 เซ็นต์ ปิดที่ 56.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 20 เซ็นต์ ปิดที่ 63.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ (8 พ.ย.) ระบุว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 พฤศจิกายน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะลดลงราว 2.7 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันลดลงได้ไม่มากนัก เนื่องจากข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ พบด้วยว่าสต๊อกเบนซินลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่คลังสำรองน้ำมันกลั่นซึ่งประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน ลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (8 พ.ย.) แม้ซื้อขายผันผวน แต่ดาวโจนส์ยังเดินหน้าทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล 5 วันติด ขณะที่นักลงทุนเฝ้ารอความคืบหน้าความพยายามผ่านแผนปฏิรูปภาษีของรีพับลิกัน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 6.13 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,563.36 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.74 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,594.38 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 21.34 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,789.12 จุด
วอลล์สตรีทเคลื่อนไหวผันผวน ก่อนปิดในแดนบวก ในวาระครบรอบ 1 ปีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งดันตลาดหุ้นอเมริกาพุ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่นั้น ดาวโจนส์และแนสแดค ดีดตัวขึ้นมาแล้วราว 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วน เอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้นมา 20 เปอร์เซ็นต์
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (8 พ.ย.) ปิดบวกได้ไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนกังวลต่อชะตากรรมของแผนลดภาษี ซึ่งเป็นวาระนโยบายหลักของทรัมป์และรีพับลิกัน
ในวันพุธ (8 พ.ย.) หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่าพวกวุฒิสภารีพับลิกันกำลังพิจารณาเลื่อนการเปิดตัวแผนลดภาษีเวอร์ชันของพวกเขา จากเดิมที่คาดหมายไว้ว่าน่าจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี (9) ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (8) แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ หลังดอลลาร์ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 7.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,283.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์