รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ต้องการเพิ่มคลังแสงนิวเคลียร์ของประเทศอีกมหาศาล ระหว่างพบปะหารือกับคณะที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติเมื่อเดือนกรกฎาคม จากการเปิดเผยของสำนักข่าวเอ็นบีซีในวันพุธ (11 ต.ค.) โดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ 3 คนที่อยู่ภายในห้องประชุมในวันนั้น
รายงานเกี่ยวกับคำพูดของทรัมป์ ถูกเผยแพร่ออกมาท่ามกลางความตึงเครียดขั้นสูงกับเกาหลีเหนือ ขณะเดียวกันมันยังมีขึ้นท่ามกลางความคาดหมายว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมแถลงจะให้สัตยาบันรับรองข้อตกลงนานาชาติเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านหรือไม่
เอ็นบีซีระบุว่า ในการประชุมเมื่อเดือนกรกฎาคม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โชว์แผนภูมิหนึ่งซึ่งบ่งชี้ว่าคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ลดลงอย่างมากจากระดับสูงสุด 32,000 ลูก ในช่วงทศวรรษ 1960 และบอกว่าเขาต้องการมีจำนวนเท่ากันในปัจจุบัน
จากข้อมูลของสมาพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน พบว่าปัจจุบันสหรัฐฯ มีหัวรบนิวเคลียร์พร้อมใช้งาน 4,000 ลูกในคลังแสงของกองทัพ
ไม่นานหลังข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ทรัมป์โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ในวันพุธ (11 ต.ค.) ระบุว่า “ข่าวปลอม @NBCNews ปั่นเรื่องว่าผมต้องการเพิ่มคลังแสงนิวเคลียร์สหรัฐฯ 10 เท่า เรื่องโกหก สร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อลดความนับถือ เอ็นบีซี=ซีเอ็นเอ็น!”
ทรัมป์ เคยให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อเดือนกัมภาพันธ์ ว่าเขาต้องการรับประกันว่าคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ จะทรงอานุภาพที่สุดเท่าที่เคยมีมา
แม้ว่าเหล่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนก่อนๆ ได้ปรับปรุงคลังอาวุธของกองทัพให้ทันสมัยมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่การเพิ่มคลังแสงนิวเคลียร์หรือสร้างอาวุธรุ่นต้องห้ามจะถือเป็นการละเมิดสนธิสัญญาต่างๆ
เอ็นบีซีระบุด้วยว่า หลังการประชุมครั้งนั้น เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตีต่างประเทศ พูดพาดพิงถึง ทรัมป์ ว่า “ปัญญาอ่อน” ท่ามกลางรายงานข่าวของเหล่าสื่อมวลชนของสหรัฐฯ ที่บรรยายภาพความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์กับทิลเลอร์สันว่าเป็นไปอย่าง “ตึงเครียด”