รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลากล่าวขอบคุณผู้นำสหรัฐฯ วานนี้ (8 ต.ค.) ที่อุตส่าห์วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลการากัสทุกวี่วัน จนทำให้ตนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วโลก
“ช่างเป็นเกียรติเหลือเกินที่ผู้นำจักรวรรดิอเมริกาเอ่ยถึงผมทุกวัน... นั่นแปลว่าผมกำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง” มาดูโร วัย 54 ปี ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับจากเยือนรัสเซีย เบลารุส และตุรกี กล่าวผ่านรายการพบปะประชาชนประจำสัปดาห์ พร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
สหรัฐฯ กล่าวหารัฐบาล มาดูโร ว่าเป็นระบอบเผด็จการขี้ฉ้อที่กดขี่ประชาชน และสั่งคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงตัว มาดูโร เอง นอกจากนี้ยังห้ามบริษัทอเมริกันเข้าไปเกี่ยวข้องกับหนี้สินใหม่ๆ ของเวเนซุเอลาด้วย
ทรัมป์ วิจารณ์ มาดูโร และพรรคสังคมนิยมเวเนซุเอลาผ่านสื่อ หรือในการประชุมร่วมกับผู้นำต่างชาติมาแล้วหลายครั้ง
“โดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นหัวหน้าฝ่ายค้านเวเนซุเอลาไปแล้ว... เขาทำให้ผมดังไปทั่วโลก ทุกครั้งที่เขาเอ่ยถึงผม ผู้คนก็ยิ่งรักผมมากขึ้น” ผู้นำเวเนฯ ระบุ พร้อมโอ่ว่าตนได้รับการสรรเสริญเยินยอจากผู้นำหลายประเทศ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประเทศที่ไม่กินเส้นกับอเมริกาทั้งสิ้น
หลังจากอดีตประธานาธิบดี อูโก ชาเบซ ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคมะเร็งเมื่อเดือน มี.ค. ปี 2013 มาดูโร ซึ่งเป็นทายาทการเมืองที่ ชาเบซ เลือกสรรมากับมือก็ก้าวขึ้นมากุมบังเหียนรัฐสมาชิกโอเปกแห่งนี้แทน ทว่าพิษเศรษฐกิจที่รุมเร้าส่งผลให้คะแนนนิยมของเขาตกต่ำลงเรื่อยๆ
มาดูโร เผยว่า ตนได้สนทนากับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ราวๆ 1 ชั่วโมงครึ่งขณะไปเยือนมอสโก และหนึ่งในประเด็นที่มีการพูดคุยกันก็คือ ความเป็นไปได้ที่เวเนซุเอลาจะส่งออกน้ำมันในสกุลเงินรูเบิล หลังจากที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร
“มาตรการคว่ำบาตรของ ทรัมป์ ทำให้เวเนซุเอลาได้เปิดประตูออกไปสู่โลกใหม่” เขากล่าว
ผู้นำเวเนฯ เคยพูดด้วยว่า รัฐบาลของเขาจะหันไปขายสินค้าด้วยสกุลอื่นๆ ที่ไม่ใช่ดอลลาร์สหรัฐ เช่น ยูโร, เยน หรือรูปี
รัฐบาลมาดูโรและฝ่ายค้านจะเผชิญหน้ากันอีกครั้งในศึกเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ วันที่ 15 ต.ค. นี้ โดยเขาได้ใช้รายการพบปะประชาชนประจำสัปดาห์กล่าวหาศัตรูการเมืองว่าพยายามบ่อนทำลายบริการสาธารณะ เช่น ตัดสายส่งไฟฟ้า เป็นต้น
รองประธานาธิบดี ตาเร็ก เอล ไอซ์ซามี ซึ่งออกรายการพร้อมกับ มาดูโร ระบุว่า มีการจับกุมนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านคนหนึ่งซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดในการชุมนุมขับไล่ มาดูโร เมื่อต้นปีนี้ ซึ่งทำให้ตำรวจบาดเจ็บไป 7 นาย
ฝ่ายค้านเวเนซุเอลาระบุว่า รัฐบาลมักจะหาเรื่องจับกุมแกนนำด้วยการนำวัตถุระเบิด อาวุธ หรือเงินไปซุกซ่อนไว้ตามจุดต่างๆ และสร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนว่านักเคลื่อนไหวเหล่านี้พัวพันกับแก๊งอาชญากร