xs
xsm
sm
md
lg

In Pics : เพนตากอนส่ง “B-1B Lancer” บวก F-15 เฉียดฝั่งเกาหลีเหนือ เวลาเดียว “ทูตเปียงยาง” ขู่กลางยูเอ็น “ยิงถล่มสหรัฐฯ เลี่ยงไม่ได้ - จ่อทดสอบ H-Bomb กลางแปซิฟิก”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B Lancer พร้อมกับเครื่องบินรบ F-15 ขึ้นบินเข้าใกล้เขตเปียงยางมากที่สุดในศตวรรษนี้ เวลาเดียวกับ รมว.ต่างประเทศเกาหลีเหนือประกาศกลางยูเอ็น “ส่งมิสไซล์โจมตีสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้” ยืนยันทดสอบระเบิดนิวเคลียร์กลางแปซิฟิกชัวร์ ด้านเกาหลีใต้ยืนยัน แรงสั่นสะเทือนล่าสุด ไม่ใช่แผ่นดินไหวเทียมจากการทดสอบระเบิดของเกาหลีเหนืออย่างที่จีนอ้าง

RT สื่อรัสเซีย รายงานเมื่อวานนี้ (23 ก.ย.) ว่า โฆษกเพนตากอน ดานา ไวท์ (Dana White) ออกแถลงการณ์ล่าสุดว่า ทางสหรัฐฯได้ส่งฝูงบินทิ้งระเบิดที่มีเครื่องบินขับไล่สหรัฐฯ ประกบไปด้วย ออกมาจากฐานทัพบนเกาะโอกินาวา ญี่ปุ่น และบินตรงไปยังเหนือน่านน้ำทางตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี

“นี่เป็นการบินไปไปยังเขตเหนือสุดของเส้นปลอดทหาร (DMZ) ของ 2 เกาหลี ที่ฝูงบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินขับไล่สหรัฐฯ ได้เคยบินมายังนอกน่านน้ำเกาหลีเหนือในศตวรรษที่ 21 นี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเอาจริงของเราที่มีต่อพฤติกรรมที่ขาดความรับผิดชอบของเกาหลีเหนือ”

ทั้งนี้ พบว่าศูนย์กองบัญชาการกลางกองเรือแปซิฟิกสหรัฐฯ (U.S. Pacific Command) ออกแถลงการณ์ยืนยันวันนี้ (24) ว่า ได้มีการส่งฝูงบินทิ้งระเบิด B-1B Lancer ออกไปจริง

ภาพที่ถูกถ่ายและแถลงบนทวิตเตอร์ทางการของกองบัญชาการกลางกองเรือแปซิฟิกสหรัฐฯ #เป็นการส่งขึ้นบินในช่วงกลางคืน

สื่อรัสเซียชี้ต่อว่า เขตปลอดทหาร DMZ นั้นเป็นพื้นที่เล็กๆแนวยาวตลอดรอบคาบสมุทรเกาหลีใกล้กับเส้นขนานที่ 38 องศาเหนือ (38th parallel) ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1953 หลังการสิ้นสุดสงครามเกาหลี เป็นแนวแบ่งแยกเขตแดนระหว่างโซลและเปียงยาง

กองบัญชาการกลางกองเรือแปซิฟิกสหรัฐฯ แถลงเพิ่มเติมว่า ปฏิบัติการบินโชว์ครั้งนี้ถือเป็นการ “ส่งสัญญาณอย่างชัดเจน” ว่าประธานาธิบดีทรัมป์นั้น “มีทางเลือกที่จะจัดการกับภัยคุกคาม”

พร้อมชี้ว่า ทางกองกำลังแปซิฟิกพร้อมใช้รูปแบบการทหารแบบฟูลสเกลเพื่อปกป้องมาตุภูมิสหรัฐฯ และพันธมิตรหากร้องขอ

อ้างอิงจากทวีตของกองกำลังแปซิฟิกสหรัฐฯ พบว่า กองกำลังอเมริกัน ยังได้ซุ่มฝึกซ้อมยิงขีปนาวุธโจมตีแบบไลฟ์ แต่ไม่มีการเปิดเผยว่า เกิดขึ้นเมื่อใด แต่เป็นการโพสต์เมื่อวันเสาร์ (23)

บนทวิตเตอร์ ทางสหรัฐฯ ชี้เพียงว่า เป็นการฝึกซ้อมยิงมิสไซลจากระบบยิงขีปนาวุธแบบยิงได้พร้อมกัน M270 เกิดขึ้นใต้หุบเขาขีปนาวุธ (Rocket Valley) ในเขตเกาหลีใต้ โดยมีภาพแบบเคลื่อนไหวแสดงถึงรถบรรทุกที่ติดตั้งระบบเครื่องยิงขีปนวุธเป็นหลักฐานประกอบ พร้อมการสาธิตยิงแบบต่อเนื่อง ที่มีการเปิดพลงคลาสสิกเพื่อสร้างบรรยากาศคลอไปพร้อมกัน

เดอะการ์เดียนสื่ออังกฤษ รายงานถึง B-1B Lancer ว่า ทางเพนตากอนได้ส่งฝูงบินทิ้งระเบิดขึ้นเหนือท้องฟ้าใกล้เกาหลีเหนือในวันเสาร์ (23 ก.ย.) ซึ่งถือเป็นการขึ้นบิน ***ระยะไล่เลี่ยเฉียดฉิว ก่อนที่ รมว.ต่างประเทศเกาหลีเหนือ รี ยองโฮ (Ri Yong Ho) จะขึ้นกล่าวบนเวทีที่ประชุมใหญ่ยูเอ็น *** พบว่าทางคนของประธานาธิบดีคิม จองอึน ออกมาข่มขู่สหรัฐฯ การโจมตีแผ่นดินใหญ่อเมริกาเป็นสิ่งที่ทางเปียงยางเลี่ยงไม่ได้

อ้างอิงจากวอชิงตันโพสต์ สื่อสหรัฐฯ พบว่า รีขึ้นกล่าวแถลงกลางที่ประชุมใหญ่องค์การสหประชาชาติในวันเสาร์ (23) ให้เหตุผลถึงการที่ เกาหลีเหนือจำเป็นต้องโจมตีแผ่นดินใหญ่อเมริกแบบไม่มีทางเลือก เนื่องจาก ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใช้วาจาล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือว่า “เป็นลิเติลร็อกเก็ตแมน” หรือ “ไอ้เด็กมนุษย์จรวด” ถือว่าเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ในสายตาของเปียงยาง

สื่อสหรัฐฯยืนยันว่า รีได้แถลงว่า การออกมาโจมตีของทรัมป์ทำให้ “จรวดมิสไซล์ของเกาหลีเหนือจะเดินทางมาเยี่ยมแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ ทั่วทั้งหมดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

และในแถลงการณ์ยังกล่าวไปถึงผลสำเร็จของโครงการอาวุธเกาหลีเหนือ โดยรีกล่าวว่า “ผ่านระยะเวลาที่ยาวนานและยากลำบาก ถึงจุดนี้ทางเราเข้าใกล้เป้าหมายสุดท้ายในการที่จะเป็นขุมกำลังชาตินิวเคลียร์ใหม่แล้ว”

ตัวแทนเกาหลีเหนือยังได้ชี้อีกว่า “ถือเป็นความหวังแบบลมๆแล้งๆที่จะคิดไปเองว่าสาธารณรัฐเกาหลีเหนือจะหวั่นไหวในแนวทางของตัวเองแม้แต่น้อย เนื่องมาจากความก้าวร้าวทางการคว่ำบาตรเพิ่มมากขึ้นจากกองกำลังที่เป็นปฎิปักษ์”

วอชิงตันโพสต์ยืนยันว่า รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าวยืนยันอย่างหนักแน่นว่า เปียงยางรู้วิธีจัดการกับภัยคุกคามดี โดยได้ยกระเบิดไฮโดรเจนขึ้นข่มขู่ โดยชี้ว่า ทางเกาหลีเหนือมีระเบิดไฮโดรเจนในมือ ที่พร้อมสามารถติดตั้งบนหัวรบขีปนาวุธข้ามทวีป ICBM ของตัวเองที่มีศักยภาพบินเข้ามาถึงแผ่นดินใหญ่อเมริกาได้

ซึ่งในการให้ความเห็นของรีในวันเสาร์ (23) วอชิงตันโพสต์รายงานว่า ยังมีการเปิดเผยว่า “เปียงยางเตรียมทดสอบระเบิดไฮโดรเจนกลางมหาสมุทรแปซิฟิก”

โดยเดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมในจุดนี้ว่า เปียงยางอ้างว่า การทดสอบระเบิดนิวเคลียร์กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ถือเป็นมาตรการตอบโต้ผู้นำสหรัฐฯอย่างเหมาะสม

ในขณะเดียวกัน เกาหลีใต้ออกมาปฎิเสธการแถลงของจีนถึงการตรวจพบแรงสั่นสะทือนในเกาหลีเหนือรอบใหม่ ที่ทางปักกิ่งเชื่อว่า อาจชี้ว่าทางเปียงยางกำลังทดสอบระเบิดอีกครั้ง

ทั้งนี้ รอยเตอร์รายงานว่า ในวันเสาร์ (23) หน่วยงานแผ่นดินไหวของจีน (earthquake administration) ระบุตรวจพบแผ่นไหวขนาด 3.4 แมกนิจูดในเกาหลีเหนือ ที่เชื่อว่า อาจเป็นการทดสอบระเบิดนิวเคลีร์รอบใหม่ของเปียงยาง

โดยแถลงการณ์บนเว็บไซต์ทางการของหน่วยงานได้ชี้ว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ถูกบันทึกที่ความลึก 0 กิโลเมตร ในขณะที่สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ USGS ชี้ว่า เกิดขึ้นในระดับความลึกที่ 3 ไมล์

สำนักงานซินฮวาของทางการจีนรายงานว่า จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวที่จีนค้นพบ ***เกิดขึ้นอยู่บริเวณที่เดียวกับแผ่นดินไหวผิวตื้นเมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ปรากฏในภายหลังว่ามีสาเหตุมาจากการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งใหญ่สุดครั้งที่หกของเกาหลีเหนือ***

แต่ทว่าเกาหลีใต้ออกมาปัด โดยชี้ว่าแรงสั่นสะเทือนที่ทางฝ่ายจีนพบนั้น ไม่มีการตรวจพบ “คลื่นเสียง” ที่บ่งชี้ถึงการเป็นแผ่นดินไหวโดยฝีมือมนุษย์

แรงสั่นสะเทือนที่ถูกพบนั้นเกิดขึ้นที่เมืองคิลจู (Kilju) จ.ฮัมกยองเหนือ (North Hamgyong) ซึ่งเป็นสถานที่ทดสอบนิวเคลียร์พุงกเยรี (Punggye-ri)ของโสมแดงตั้งอยู่ อ้างจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเกาหลีใต้ และทำให้สำนักงานอุตุฯโซล ระบุว่า การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นการสั่นไหวโดยธรรมชาติ ซึ่งสื่ออังกฤษชี้ว่า แรงสั่นสะเทือนล่าสุดนั้นมีความแรงน้อยกว่าแรงสั่นสะเทือนที่เกิดมาจากการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือที่ผ่านมา

โดยกลุ่มสังเกตการณ์ทดสอบอาวุธ องค์การว่าด้วยสัญญาการห้ามทดอสอบนิวเคลียร์ CTBTO (the Comprehensive Nuclear-Test-Ban Treaty Organisation) แถลงชี้แจงว่า การตรวจพบแผ่นดินไหวล่าสุดมีขนาดเล็กกว่าก่อนหน้านี้

หัวหน้ากลุ่ม ลาสซินา เซอร์โบ (Lassina Zerbo) กล่าวยืนยันว่า “แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น 2 ครั้งไม่น่าจะเป็นแผ่นดินไหวจากฝีมือมนุษย์” และชี้ว่า เป็นการเกิดขึ้นห่างไปราว 20 กม. จากสถานที่ทดสอบก่อนหน้า สอดคล้องกับ USGS ที่ยืนยันว่า แผ่นดินไหวที่พบนั้นเกิดขึ้นในบริเวณเดิมที่เคยเกิดก่อนหน้าในเกาหลีเหนือ








In Clip : ระอุ! โซลยิงจรวด “ฮุนมู-2” โต้เกาหลีเหนือทันที เชื่ออาวุธใหม่โสมแดงเป็นจรวดพิสัยกลาง ยิงถึงเกาะกวม ยูเอ็นประชุมใหญ่ด่วน
In Clip : ระอุ! โซลยิงจรวด “ฮุนมู-2” โต้เกาหลีเหนือทันที เชื่ออาวุธใหม่โสมแดงเป็นจรวดพิสัยกลาง ยิงถึงเกาะกวม ยูเอ็นประชุมใหญ่ด่วน
สื่อเกาหลีใต้ชี้โซลส่งจรวด ฮุนมู-2 (Hyunmoo-II) ยิงตอบโต้การยิงทดสอบขีปนาวุธตัวใหม่ของเกาหลีเหนือทันทีเช้านี้ (15 ก.ย.) พบอาวุธตัวใหม่โสมแดงสามารถบินไต่ระดับความสูง 770 กม. และไปได้ไกลในระยะทาง 3,700 กม. ศักยภาพถึงเกาะกวมของสหรัฐฯ ชี้อาจเป็น ICBM แต่กองบัญญาการเรือแปซิฟิกสหรัฐฯ และเจมส์ แมตทิส รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ชี้ “เป็นขีปนาวุพิสัยกลาง” ทรัมป์ได้รับรายงานสรุปแล้ว คณะมนตรีความมั่นคงเตรียมเปิดประชุมฉุกเฉินอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ด้านนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงเตือนเกาหลีเหนือ “อนาคตไม่สดใสแน่”
กำลังโหลดความคิดเห็น