เอเจนซีส์ – เม็กซิโกใช้ความพยายามจนเวลาย่างเข้าเช้าวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.) เพื่อช่วยเหลือเด็กหญิงผู้หนึ่งจากข้างใต้กองซากหักพังของโรงเรียนแห่งหนึ่งกลางเมืองหลวง รวมทั้งผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ ในพื้นที่ประสบแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทั่วประเทศ ขณะที่หลายชาติส่งทีมค้นหาและกู้ภัย รวมทั้งความช่วยเหลือทางเทคนิคเข้ามา ทางด้านยอดผู้เสียชีวิตถูกปรับเพิ่มเป็นอย่างน้อย 245 คน เฉพาะในเมืองหลวงเพิ่มจาก 100 คนเป็น 115 คน
การปฏิบัติการกู้ภัยในเม็กซิโกซิตี ซึ่งกำลังบีบหัวใจอย่างยิ่งคือที่โรงเรียนเอ็นริเก เร็บซาเมน ที่พบผู้เสียชีวิตแล้วเป็นเด็ก 21 คน และผู้ใหญ่ 4 คน แต่ในตอนเช้าวันพุธ (20) เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบว่ามีเด็กหญิงวัย 12 ปีคนหนึ่งที่ทราบชื่อภายหลังว่า ฟรีดา โซเฟีย ซึ่งถูกฝังอยู่ใต้กองซากปรักหักพังจากฤทธิ์ของแผ่นดินไหวขนาด 7.1 เมื่อบ่ายวันอังคาร (19) กระดิกนิ้วตอบเมื่อเจ้าหน้าที่ตะโกนถามว่า ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ยังสามารถติดต่อสนทนากับเธอได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปสิบกว่าชั่วโมง เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถหาวิธีนำตัวเด็กหญิงผู้นี้ขึ้นมาได้ ขณะที่พบผู้เสียชีวิตอีก 4 คน และเชื่อว่าอาจยังมีอีก 4 คนติดอยู่ใกล้ๆ กับเด็กหญิง ทว่า ไม่แน่ใจว่า คนเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
พลเรือเอกโฮเซ หลุยส์ เวอร์การา เผยว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนซึ่งเด็กหญิงผู้นี้ติดอยู่ และยังไม่รู้ว่าจะเข้าไปช่วยเด็กหญิงได้อย่างไร แต่จะไม่ล้มเลิกความพยายามเด็ดขาด อย่างไรก็ดี เขายอมรับว่า ยิ่งเวลาเนิ่นนานออกไป โอกาสที่จะพบผู้ที่รอดชีวิตและอยู่ในสภาพร่างกายแข็งแรงก็ยิ่งน้อยลงทุกที
ทั้งนี้ เช่นเดียวกับในสถานที่ประสบภัยแห่งอื่นๆ ทั่วเม็กซิโก เจ้าหน้าที่ไม่กล้าใช้เครื่องจักรอุปกรณ์ขนาดหนัก เพราะเกรงว่าจะทำให้กองซากปรักหักพังทรุดลงไปทับผู้ที่อาจยังติดอยู่ด้านล่าง
ทั่วเมืองหลวง เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครใช้สุนัขดมกลิ่น กล้อง อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและความร้อน เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคาร
ช่างภาพและผู้สื่อข่าวของสถานีทีวีเทเลวิซาที่ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษให้เข้าไปยังที่เกิดเหตุ ถ่ายทอดภาพความพยายามช่วยผู้รอดชีวิตที่โรงเรียนเอ็นริเก เร็บซาเมนไปทั่วประเทศ
การปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตเช่นนี้ยังเกิดขึ้นที่อาคารนับสิบแห่งที่ถล่มลงมาจากฤทธิ์ธรณีพิโรธ นอกจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ตำรวจ ทหาร พนักงานกู้ภัยแล้ว ยังมีอาสาสมัครจากหลากหลายวิชาชีพและภูมิหลัง ร่วมแรงร่วมใจช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตและร่างผู้เสียชีวิตอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ช่วงบ่ายวันพุธ กระทรวงการพัฒนาสังคมในเม็กซิโกซิตีทวิตว่า สามารถช่วยผู้รอดชีวิตจากซากตึกได้ 52 คน โดย 11 คนในจำนวนนี้ช่วยมาได้จากโรงเรียนเอ็นริเก เรบซาเมน แต่ที่นั่นยังมีผู้สูญหาย 3 คน เป็นเด็ก 2 คนและผู้ใหญ่ 1 คน
ภาพมุมสูงจากเฮลิคอปเตอร์ที่บินสำรวจความเสียหายพบว่า มีอพาร์ตเมนต์ที่มีความสูงปานกลาง 3 แห่งบนถนนสายเดียวกันถล่มราบเป็นหน้ากลอง อาคารบ้านเรือนเกือบทั้งหมดบนถนนนับสิบสายในเมืองโคคุตลา รัฐมอเรลอส เสียหายรุนแรงเช่นเดียวกับโบสถ์แห่งหนึ่งที่มีผู้เสียชีวิตด้านในถึง 12 คน
มิเกล แองเจล แมนเซรา นายกเทศมนตรีเม็กซิโกซิตี เผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันในเมืองหลวงของเม็กซิโกเพิ่มจาก 100 คน เป็น 115 คน
นอกจากนั้นยังพบผู้เสียชีวิต 69 คนในมอเรลอส ทางใต้ของเม็กซิโกซิตี, 43 คนในรัฐปวยบลา ซึ่งเป็นศูนย์กลางแผ่นดินไหว และอีก 18 คนในรัฐเม็กซิโก, เกร์เรโร และอัวฮากา รวมจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 245 คน และบาดเจ็บ 1,900 คน
ประธานาธิบดีเอ็นริเก เปนญา เนียโต ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน แต่ขอให้เจ้าหน้าที่มุ่งมั่นช่วยเหลือผู้ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง รวมทั้งรักษาผู้บาดเจ็บต่อไป
ขณะเดียวกัน ระบบไฟฟ้าในบางพื้นที่ของเม็กซิโกซิตีได้รับการซ่อมแซมให้ใช้ได้อีกครั้ง หลังจากชาวเมืองต้องทนอยู่ในความมืดตลอดคืนวันอังคาร นอกจากนี้ระบบรถไฟใต้ดินยังให้บริการได้เกือบทั้งหมด
แมนเซรายังปรับลดจำนวนอาคารที่ถล่มในเมืองหลวงจาก 44 หลัง เป็น 38 หลัง
ทางด้านชาติละตินอเมริกาอย่างน้อย 9 ประเทศประกาศส่งทีมค้นหาและกู้ภัย หรือความช่วยเหลือด้านเทคนิคให้แก่เม็กซิโก และมีทีมกู้ภัยจากปานามา เอลซัลวาดอร์ อเมริกา ญี่ปุ่น สเปน และอิสราเอล เดินทางถึงเม็กซิโกแล้ว
แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันอังคาร (19) มีความรุนแรง 7.1 และมีศูนย์กลางอยู่ใกล้เมืองราโบโซในรัฐปวยบลา ห่างจากทางตะวันออกเฉียงใต้ของเม็กซิโกซิตี 123 กิโลเมตร และยังเกิดขึ้นในวาระครบรอบ 32 ปีเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่มีผู้เสียชีวิตนับพันคน
นอกจากนั้น เมื่อไม่ถึงสองสัปดาห์ก่อน เม็กซิโกเพิ่งประสบแผ่นดินไหวขนาด 8.1 ทางใต้ของประเทศที่มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 คน
