เอเจนซีส์ - ตำรวจฟลอริดาเริ่มเปิดการสอบสวนคดีอาญา ในเหตุผู้สูงวัย 8 คนเสียชีวิตที่สถานพักฟื้นคนชราซึ่งไฟฟ้าดับนับแต่ถูกเฮอริเคน “เออร์มา” ถล่ม กรณีนี้ยังตอกย้ำความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไขให้บริการสาธารณูปโภคอันสำคัญยิ่งนี้กลับมาใช้ได้ตามปกติ โดยขณะนี้บ้านเรือนและสถานธุรกิจ 4.3 ล้านหลังในฟลอริดาและรัฐใกล้เคียงยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะเดียวกัน โศกนาฏกรรมคราวนี้ยังทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุลูกนี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 38 คนเฉพาะในสหรัฐฯ และเมื่อรวมกับแถบแคริบเบียนด้วยแล้วก็จะเป็น 81 คน
ในวันพุธ (13 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ในมลรัฐฟลอริดาเผยว่า พบผู้สูงวัย 3 คนเสียชีวิตภายในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพแห่งหนึ่งในเมืองฮอลลีวูด ทางเหนือของนครไมอามี ที่ประสบเหตุไฟฟ้าดับนับจากเฮอริเคนเข้าถล่มฟลอริดาเมื่อวันอาทิตย์ (10)
นอกจากนั้นยังมีผู้สูงวัยในบ้านพักคนชราแห่งนี้อีก 4 คนเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง และคนที่ 5 ได้รับการระบุในภายหลังว่าเสียชีวิตตั้งแต่คืนวันอังคาร (12) โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 8 คน อายุระหว่าง 71-99 ปี ขณะนี้ยังไม่มีการระบุสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่นอนแต่อย่างใด
ริก สกอตต์ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา กล่าวว่า โศกนาฏกรรมครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร และสั่งเปิดการสอบสวนเพื่อนำผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาลงโทษ ขณะที่ตำรวจเผยว่า เริ่มเปิดการสอบสวนทางอาญาแล้ว พร้อมสั่งปิดอาคารดังกล่าวหลังย้ายผู้สูงวัยทั้ง 115 คนไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียง โดยส่วนใหญ่มีอาการหายใจลำบาก ขาดน้ำ และปัญหาจากสภาพอากาศร้อน
เจ้าหน้าที่เมืองฮอลลีวูดเผยว่า ภายในบ้านพักคนชราดังกล่าว “ร้อนจัด” ถึงแม้หลังจากไฟฟ้าดับทำให้ระบบทำความเย็นไม่ทำงานเมื่อวันอาทิตย์ (10) แล้ว ทางศูนย์ได้นำเอาเครื่องแอร์คูลเลอร์แบบเคลื่อนที่ได้ 8 เครื่องมาติดตั้งทั่วอาคาร และมีพัดลมในห้องโถงต่างๆ แล้วก็ตาม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยังไม่สามารถติดต่อตัวแทนบ้านพักคนชราดังกล่าวซึ่งเป็นกิจการเอกชนที่มุ่งทำกำไร และได้รับการจัดระดับว่า “ต่ำกว่ามาตรฐาน” ภายใต้ระบบประกันสุขภาพผู้สูงอายุ “เมดิแคร์” ของสหรัฐฯ
นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า แจ็ก มิเชล แพทย์ที่ตามทะเบียนของรัฐฟลอริดาระบุว่า เป็นผู้จัดการบ้านพักคนชราแห่งนี้ เคยทำผิดกฎหมายของรัฐและหน่วยงานควบคุมของรัฐบาลกลางมาแล้ว ในการจัดทำสถานที่พำนักอาศัยแบบมีผู้คอยช่วยเหลือ ซึ่งเขามีชื่อเป็นเจ้าของร่วมผู้หนึ่ง
ปี 2006 มิเชลและจำเลยร่วมอีก 3 คน ได้ยอมจ่ายเงิน 15.4 ล้านดอลลาร์เป็นค่ายอมความจากการถูกร้องเรียนกรณีฉ้อฉลภายใต้ระบบประกันสุขภาพคนชราและผู้ทุพพลภาพ “เมดิแคร์” และระบบประกันสุขภาพผู้มีรายได้ต่ำ “เมดิเคด”
ทางด้านบริษัทผู้ให้บริการจ่ายไฟฟ้า ฟลอริดา เพาเวอร์ แอนด์ ไลต์ ระบุว่า แม้บ้านพักคนชราดังกล่าวเป็นลูกค้าของบริษัท แต่ไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อสถานที่ที่ต้องได้รับการฟื้นการจ่ายไฟฟ้าฉุกเฉินระดับสูงสุดของเทศมณฑล
การเสียชีวิต 8 คนที่บ้านพักคนชรานี้ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในฟลอริดาจากพายุเออร์มา เพิ่มเป็นอย่างน้อย 31 คน เมื่อรวมกับอีก 7 คนในรัฐจอร์เจีย และเซาท์แคโรไลนา ทำให้ทั่วทั้งสหรัฐฯอยู่ที่ 38 และเมื่อบวกกับผู้วายชนม์ตามหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลแคริบเบียน จะทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากเออร์มาล่าสุดเพิ่มเป็น 81 คน
เวลานี้เจ้าหน้าที่รัฐฟลอริดากำลังเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าร่วมกับพนักงานบริษัทไฟฟ้าหลายหมื่นคน
ขณะเดียวกัน ชาวฟลอริดาที่อพยพออกจากที่พักอาศัยก่อนพายุเข้า ต้องเผชิญสภาพการจราจรติดขัดยาวเหยียด ขณะมุ่งหน้ากลับบ้านเมื่อวันพุธ
ทางด้านทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมภรรยา เมลาเนีย จะเดินทางไปสำรวจความเสียหายที่ฟลอริดาในวันพฤหัสบดี (14)
คลาร์ก แอนด์ คอมปานี บริษัทจำลองความเสี่ยงภัยพิบัติ ประเมินว่า เออร์มาทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินที่ทำประกันภัยไว้ถึง 25,000 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้แบ่งออกเป็น 18,000 ล้านดอลลาร์ในอเมริกา และ 7,000 ล้านดอลลาร์ในแคริบเบียน