เอเอฟพี - คนร้ายใช้มีดจ้วงแทงทหารเจ็บ 1 นายก่อนถูกวิสามัญฯ ที่ใจกลางเมืองหลวงเบลเยียมเมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) ล่าสุดรัฐบาลบรัสเซลส์ยืนยันแล้วว่าเป็นการ “ก่อการร้าย”
มือมีดซึ่งอัยการระบุว่าได้ร้องตะโกนคำว่า “อัลลอฮุอักบาร์” (พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ที่สุด) ขณะก่อเหตุ ถูกทหารหลายนายยิงเสียชีวิตบนถนนในกรุงบรัสเซลส์ ซึ่งมีมาตรการเฝ้าระวังก่อการร้ายขั้นสูงตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีรถไฟใต้ดินและสนามบินเมื่อปีที่ผ่านมา
“เราเชื่อว่ามันเป็นการก่อการร้าย” โฆษกหญิงของสำนักงานอัยการระบุ พร้อมยืนยันว่าคนร้าย “เสียชีวิตแล้ว”
สื่อเบลเยียมรายงานว่า ผู้ก่อเหตุซึ่งไว้เคราและสวมหมวกปกปิดใบหน้าเป็นชายชาวโซมาเลีย อายุประมาณ 30 ปี
ช่วงเย็นวันเดียวกัน ตำรวจกรุงลอนดอน 2 นายก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะเข้าจับกุมชายซึ่งถือมีดเล่มโตเดินป้วนเปี้ยนหน้าพระราชวังบักกิงแฮม แต่ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย
เหตุระทึกทั้งคู่เกิดขึ้นไม่นานนัก หลังจากคนร้ายขับรถตู้พุ่งชนคนในสเปนจนมีผู้เสียชีวิต 15 ราย ซึ่งกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้อ้างความรับผิดชอบ รวมถึงกรณีชายชาวโมร็อกโกอีกคนถือมีดไล่แทงผู้คนในตลาดกลางเมืองของฟินแลนด์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีก 8 คน
อัยการกลางเบลเยียมซึ่งเปิดการสืบสวนคดีก่อการร้ายยืนยันว่า ทหาร 1 นายที่ตกเป็นเหยื่อของมืดมีดแค่ “บาดเจ็บเล็กน้อย” ขณะที่ ฟิลิป โคลส นายกเทศมนตรีกรุงเบลเยียม บอกกับสื่อมวลชนว่าเหตุโจมตีครั้งล่าสุดน่าจะเป็นฝีมือของ “บุคคลคลเดียว”
โยฮาน (ปกปิดนามสกุล) หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์ บอกกับเอเอฟพีว่า “ผมได้ยินเสียงใครบางคนตะโกน จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด” ซึ่งเมื่อตนเดินเข้าไปใกล้ก็เห็น “ทหารคนหนึ่งมีเลือดออกที่มือ และชายคนหนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น”
เหตุโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 20.00 น.เศษตามเวลาท้องถิ่น (ราว 01.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย) บนถนนใจกลางกรุงบรัสเซลส์ ใกล้ๆ จัตุรัสกรองด์ปลาส ซึ่งเป็นหนึ่งใน “จุดเสี่ยง” ที่ทางการได้ส่งทหารเดินลาดตระเวนเพื่อป้องกันการก่อเหตุร้าย
สถานีรถไฟและอาคารสำคัญๆ ในกรุงบรัสเซลส์ก็มีทหารยืนคุ้มกันตลอดเวลา หลังเหตุโจมตีกรุงปารีสเมื่อปี 2015 ได้เปิดโปงเครือข่ายกลุ่มก่อการร้ายในเบลเยียมเป็นครั้งแรก
เดือน มี.ค.ปีที่แล้ว กลุ่มคนร้ายได้ใช้ระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีสนามบินซาเวนเท็ม และสถานีรถไฟใต้ดินมาคบีคใกล้ๆ สำนักงานใหญ่สหภาพยุโรป (อียู) ในกรุงบรัสเซลส์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 32 ราย บาดเจ็บอีกหลายร้อย โดยกลุ่มไอเอสออกมาประกาศอ้างผลงานเช่นเคย
