รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันพุธ (16 ส.ค.) ชื่นชม คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ว่าตัดสินใจได้ฉลาดที่ไม่ยิงขีปนาวุธเข้าใส่เกาะกวม ดินแดนของอเมริกา ซึ่งช่วยบรรเทาความตึงเครียดระหว่างสองชาติ
เกาหลีเหนือไม่ปกปิดว่าพวกเขามีแผนพัฒนาขีปนาวุธที่มีศักยภาพยิงหัวรบนิวเคลียร์โจมตีสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้สิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นคำขู่รุกรานอย่างไม่ลดราวาศอกจากสหรัฐฯ
ทรัมป์ เตือนเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเปียงยางจะต้องเผชิญกับ “ไฟและเพลิงแค้นชนิดที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน” หากยังไม่หยุดการทดสอบที่มีเป้าหมายพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลติดหัวรบนิวเคลียร์ คำเตือนดังกล่าว กระตุ้นให้เปียงยางออกมาตอบโต้ โดยบอกว่ากำลังพิจารณาแผนการต่างๆสำหรับยิงขีปนาวุธเข้าหาเกาะกวม
ในการปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์ คิม เข้ารับฟังการบรรยายสรุปแผนยิงขีปนาวุธ 4 ลูกไปตกใกล้กวม ระหว่างเดินทางไปตรวจสอบศูนย์บัญชาการกองกำลังยุทธศาสตร์ที่รับผิดชอบหน่วยขีปนาวุธนิวเคลียร์เมื่อวันจันทร์ (14 ส.ค.)
อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนเกาหลีเหนือรายงานในวันอังคาร (15 ส.ค.) ว่า คิม ตัดสินใจชะลอแผนดังกล่าวออกไป โดยจะรอดูท่าทีต่อไปของสหรัฐฯ เสียก่อน
“คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือ ตัดสินใจได้เฉลียวฉลาดและมีเหตุมีผลอย่างยิ่ง” ทรัมป์ เขียนบนทวิตเตอร์ "ทางเลือกอื่นอาจก่อหายนะและไม่อาจยอมรับได้”
คำขู่ยิงเกาะกวมของเกาหลีเหนือ กระตุ้นให้ ทรัมป์ ออกมาพูดก่อนหน้านี้ว่ากองทัพสหรัฐฯพร้อมเต็มพิกัด หากเปียงยางดำเนินการใดๆ ที่ไม่เฉลียวฉลาด
เกาหลีเหนือเพิกเฉยต่อคำเตือนจากตะวันตกและ จีน พันธมิตรหนึ่งเดียวของพวกเขา ในการระงับการทดสอบขีปนาวุธและโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
สหรัฐฯ แสดงความหวังมาตลอดว่า จีนจะสามารถกดดันเกาหลีเหนือให้ยับยั้งโครงการอาวุธของพวกเขา และนายพลระดับสูงของอเมริกาก็ย้ำถึงข้อเรียกร้องดังกล่าวระหว่างการพูดคุยในกรุงปักกิ่งเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
พล.อ.โจเซฟ ดันฟอร์ด ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐฯ บอกกับนายพลฟาง เฟิงฮุ่ย ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของจีน ว่าโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือคุกคามประชาคมนานาชาติทั้งมวล ในนั้นรวมไปถึงจีนด้วย
จีน เรียกร้องซ้ำๆ ขอทุกฝ่ายอดทนอดกลั้นและอยู่ในความสงบ และในขณะที่พวกเขายอมลงนามในมาตรการคว่ำบาตรอันหนักหน่วงของสหประชาชาติต่อเกาหลีเหนือ อีกด้านหนึ่งพวกเขาบอกว่ากุญแจของทางออกขึ้นอยู่กับการพูดคุยกันระหว่างวอชิงตันกับเกาหลีเหนือ ไม่ใช่คาดหวังให้จีนทำทุกอย่าง