รอยเตอร์ - การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่บังคับใช้กับกาตาร์โดยสามรัฐอ่าวอาหรับไม่ได้ละเมิดข้อตกลงขององค์การการค้าโลก (WTO) เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อาหรับเอมิเรตส์ กล่าว หลังจากโดฮายื่นคำร้องทางกฎหมายต่อ WTO ในสัปดาห์นี้
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ยูเออี ซาอุดีอาระเบีย และบาห์เรน ตัดสัมพันธ์กับกาตาร์ ผู้ส่งออกก๊าซรายใหญ่ของโลกและที่ตั้งฐานทัพสหรัฐฯ ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง และกล่าวหาว่า พวกเขาสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธและศัตรูเก่าแก่อย่างอิหร่าน ข้อกล่าวหาที่โดฮาปฏิเสธ
กาตาร์ยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการต่อ WTO เมื่อวันจันทร์ (31) ด้วยการเรียกร้องให้มีการประชุมกับสามประเทศดังกล่าว ทำให้พวกเขามีเวลา 60 วันที่จะสะสางคำร้องนี้หรือเผชิญกับการดำเนินคดีที่ WTO และอาจถูกคว่ำบาตรทางการค้าตอบโต้
“การคว่ำบาตรที่ยูเออี ซาอุดีอาระเบีย และบาห์เรนบังคับใช้ไม่ได้ขัดต่อข้อตกลงของ WTO” สำนักข่าว WAM ของทางการยูเออีรายงานโดยอ้างจากคำพูดของ จูมา โมฮัมเหม็ด อัล-คาอิต รองปลัดกระทรวงเศรษฐกิจเมื่อค่ำวานนี้ (2)
ในสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นการตอบสนองครั้งแรกต่อการเคลื่อนไหวของกาตาร์ เขากล่าวว่า การคว่ำบาตรที่รวมถึงการตัดความสัมพันธ์ด้านการทูตและการเดินทางเป็นไปตามมาตรา 21 และมาตรา 14 ของความตกลงทั่วไปว่าด้วยการค้าบริการ (General Agreement on Trade in Services : GATS) ซึ่งทำให้การเคลื่อนไหวเช่นนี้อยู่ในกรณีของข้อยกเว้นด้านความมั่นคง
ก่อนหน้านี้ประเทศผู้คว่ำบาตรทั้งสามบอกกับ WTO ว่า พวกเขาจะอ้างความมั่นคงแห่งชาติเพื่อรับรองการดำเนินการของพวกเขาต่อกาตาร์ การใช้ข้อยกเว้นภายใต้กฎของ WTO อย่างที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
คาอิตกล่าวว่า ข้อตกลงไม่ได้ห้ามไม่ให้รัฐสมาชิก WTO ใช้การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเพื่อปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงพื้นฐาน หรือไม่ให้ทำตามข้อผูกมัดในกฎหมายสหประชาชาติเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคง WAM รายงาน
คำร้องต่อ WTO นี้ไม่ได้รวมถึงอียิปต์ อีกประเทศที่มีส่วนร่วมในการคว่ำบาตร ความพยายามของคูเวตที่จะเป็นคนกลางซึ่งตะวันตกสนับสนุนยังแทบไม่มีความคืบหน้าเลยจนถึงตอนนี้
การสกัดกั้นทางการค้านี้รวมถึงการแบนการค้าผ่านท่าเรือของกาตาร์และการห้ามพลเมืองกาตาร์เดินทางไปยังสามประเทศดังกล่าว การปิดกั้นบริการดิจิตอลของกาตาร์ การปิดเขตแดนทางทะเล และการห้ามเครื่องบินกาตาร์เข้าน่านฟ้า