รอยเตอร์/เอเอฟพี/MGR ออนไลน์ - สื่อทางการเปียงยาง KCNA รายงานวันนี้ (28 พ.ค.) ถึงการควบคุมการทดสอบเทคโนโลยีล่าสุดอาวุธแบบนำวิถีต่อต้านอากาศยาน และผู้นำเกาหลีเหนือออกคำสั่งให้ทำการผลิตจำนวนมาก เพื่อส่งไปประจำทั่วประเทศ แต่ไม่เปิดเผยถึงวันเวลาการทดสอบ หรือประเภทของอาวุธ เกิดขึ้นหลังวันศุกร์ (26) เพนตากอนประกาศ เตรียมซ้อมทดสอบระบบต่อต้านขีปนาวุธพิสัยข้ามทวีป ICBM แบบภาคพื้น GMD รับภัยเกาหลีเหนือ
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (28 พ.ค.) ว่า เกิดขึ้นหลังจากที่ทางเกาหลีเหนือทำการทดสอบจรวดมิสไซล์อย่างถี่ยิบ ล่าสุดสำนักข่าวทางการเปียงยาง KCNA ออกมาเปิดเผยถึง การพัฒนาอาวุธประเภทใหม่แล้ว
โดยในรายงานวันนี้ (28) สื่อเกาหลีเหนือระบุว่า ผู้นำคิม จองอึน เป็นผู้ควบคุมการทดสอบระบบอาวุธต่อต้านอากาศยาน เทคโนโลยีใหม่ด้วยตัวเอง แต่ไม่ได้เปิดเผยถึงประเภท หรือลักษณะของอาวุธ นอกจากกล่าวเพียงว่า ได้มีการสั่งการลงมาให้ทำการผลิตจำนวนมาก เพื่อส่งไปประจำยังที่ต่างๆ ทั่วเกาหลีเหนือ
ในแถลงการณ์กล่าวว่า “ประธานาธิบดีคิม จองอึน ได้ชมการทดสอบระบบนำวิถีต่อต้านอากาศยาน ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นการทดสอบที่ถูกจัดโดยสถาบันอคาเดมีวิทยาศาสตร์ด้านการปกป้องประเทศเกาหลีเหนือ”
ในแถลงการณ์ยังกล่าวว่า “ระบบอาวุธประเภทนี้ที่มีความสามารถผ่านการตรวจสอบ นั้นถูกสั่งให้ทำการผลิตจำนวนมหาศาล เพื่อส่งไปประจำทั่วประเทศ เป้าหมายเพื่อทำลายเป้าหมายของข้าศึกในการควบคุมทางอากาศ และเป็นการเพิ่มศักยภาพความขุมกำลังอาวุธ และความเป็นเจ้าที่เหนือชั้นกว่าทางน่านฟ้า”
ทั้งนี้ KCNA รายงานว่า ในการทดสอบ ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือได้เดินทางไปเข้าร่วมพร้อมกับผู้ช่วยทางการทหารของเขา และได้เปิดเผยรายชื่อ 3 คนที่เชื่อว่าน่าจะเป็นนายทหารระดับสูงของกองทัพเกาหลีเหนือในโครงการความก้าวหน้าการพัฒนาอาวุธจรวดมิสไซล์ที่มีความรุดหน้าแบบก้าวกระโดด
ในรายชื่อประกอบไปด้วยรี พยองโชล (Ri Pyong Chol) อดีตนายพลระดับสูงประจำกองทัพอากาศเกาหลีเหนือ คิม จองซิค (Kim Jong Sik) นักวิทยาศาสตร์ด้านจรวดมิสไซล์ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน และจาง ชางฮา (Jang Chang Ha) ผู้อำนวยการสถาบันอคาเดมีด้านการปกป้องประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นศูนย์การพัฒนานอาวุธของคิม จองอึน
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ยังระบุว่า ในการรายงานของกระบอกเสียงเปียงยาง ไม่ได้มีการเปิดเผยถึงวันและเวลาที่ทางเปียงยางทดสอบอาวุธใหม่นี้ซึ่งเป็นการแถลงที่เกิดขึ้นหลังจากที่ทางเปียงยางได้ทำการยิงทดสอบขีปนาวุธในสัปดาห์ก่อนหน้า
ก่อนหน้านี้ เอเอฟพีรายงานในวันศุกร์ (26 พ.ค.) ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ว่า สหรัฐฯ จะเริ่มต้นการซ้อมทดสอบระบบต่อต้านขีปนาวุธพิสัยข้ามทวีป ICBM ซึ่งเอเอฟพีชี้ว่าเชื่ออาจเกิดมาจากความเสี่ยงจากเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ของหน่วยงานปกป้องประเทศด้านจรวดมิสไซล์สหรัฐฯ (Missile Defense Agency) ให้ความเห็นว่า ผู้เชี่ยวชาญจะทำการยิงระบบต่อต้านแบบจากภาคพื้นจากฐานทัพอากาศแวนเดนเบิร์ก (Vandenberg) รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ในการทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยข้ามทวีป ICBM ซึ่งจะถูกยิงมาจากจุดทดสอบการยิงเรแกนบนหมู่เกาะมาร์แชล (Marshall Islands) ใน Kwajalein Atoll
โดยการทดสอบนี้จะเกิดขึ้นในวันอังคาร (30 พ.ค.) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะมีการทดสอบการยิงสกัดขีปนาวุธ ICBM ของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งในการทดสอบครั้งก่อนหน้า เป็นการทดสอบสกัดขีปนาวุธพิสัยกลาง ซึ่งมีความเร็วน้อยกว่า ทั้งนี้ ในวันจันทร์ (23) ก่อนหน้า เกาหลีเหนืออกมาประกาศความสำเร็จในการยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางซึ่งทางเปียงยางอ้างว่ามีศักยภาพสามารถมีกำลังการผลิตจำนวนมหาศาลในระดับโรงงาน ถึงแม้ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่อื่นๆ จะสงสัยถึงขอบเขตความก้าวหน้า
โดยในการฝึกซ้อมที่จะเกิดขึ้นของกองทัพสหรัฐฯ จะเป็นการตรวจวัดสมรรถภาพระบบป้องกันแบบภาคพื้นมิดคอร์ส GMD ที่ได้มีการจดบันทึกการทดสอบก่อนหน้านี้ไว้ในปี 2014
โดยเอเอฟพีชี้ว่า การทดสอบล่าสุดเมื่อปี 2014 พบว่าระบบป้องกันแบบภาคพื้นมิดคอร์ส GMD ประสบความสำเร็จด้วยดี ถึงแม้ต้องใช้ความพยายามถึง 3 ครั้ง
ทั้งนี้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ GMD นั้นพบว่ามีความซับซ้อน ที่มีการเปิดเผยว่ามีการใช้เซนเซอร์ตรวจจับจากทั่วทั้งโลก เพื่อตรวจหาและติดตามมิสไซล์เป้าหมายของข้าศึก
โดยทางเพนตากอนอธิบายถึงการทำงานของระบบต่อต้านแบบภาคพื้นที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ว่า ระบบต่อต้านขีปนาวุธระบบภาคพื้นนี้เปรียบเสมือน การยิงลูกปืนออกไปเพื่อไปสกัดลูกปืนที่ถูกยิงเข้ามา โดยใช้ความเร็วที่สูงกว่า ซึ่งเมื่อมิสไซล์ถูกยิงไปยังอวกาศแล้ว และจะเริ่มต้นใช้ “Exo-atmospheric Kill Vehicle” ที่ใช้พลังงานจากการเคลื่อนไหวในการเข้าทำลายเป้าหมายที่กำลังพุ่งเข้ามาตรงหน้า
และหากการทดสอบที่ว่าประสบความสำเร็จ จะถือว่าเป็นการยืนยันได้ว่า อเมริกามีศักยภาพต่อระบบป้องกันแบบทางภาคพื้นในการต่อต้านขีปนาวุธ ICBM ถึงแม้ในขณะนี้อาจจะอยู่ในวงจำกัดก็ตาม
ทั้งนี้ อ้างอิงจากวิกิพีเดีย พบว่าในการทดสอบยิงสกัดที่มีการเริ่มต้นการทดสอบตั้งแต่วันที 2 ต.ค. 1999 จนถึงล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2014 พบว่า ระบบป้องกันแบบภาคพื้น มิดคอร์ส GMD ล้มเหลวไม่สามารถสกัดได้ 9 ครั้งจากทั้งหมด 18 ครั้ง หรือล้มเหลวถึง 50% ซึ่งการทดสอบครั้งต่อไปจะถือเป็นครั้งที่ 19
เอเอฟพีรายงานต่อว่า ระบบป้องกันแบบภาคพื้น มิดคอร์ส (Ground-Based Midcourse Defense) GMD จะประกอบไปด้วย ตัวระบบสกัด “interceptor” ถึง 44 ตัว ที่จะเกิดขึ้นภายในปีนี้ เพื่อที่สหรัฐฯจะสามารถป้องกันจากเกาหลีเหนือ หรือมิสไซล์ได้ แต่ตัวระบบสกัดที่เชื่อว่าคือจรวดมิสไซล์แบบภาคพื้นนั้นตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐอะแลสกา นั้นเข้าใจว่าอาจถูกใช้เพื่อป้องกันการโจมตีจากจีนและรัสเซีย ซึ่งเป็นสองประเทศที่สามารถยิงมิสไซล์ได้หลายสิบลูกในครั้งเดียว
