'จีน-เกาหลีใต้'เห็นพ้อง เพิ่มมาตรการ'แรง'เล่นงาน ถ้าโสมแดงทดลอง'นุก'-ยิงขีปนาวุธข้ามทวีป

เอเจนซีส์ - จีนกับเกาหลีใต้เห็นพ้องต้องกันในวันจันทร์ (10 เม.ย.) ที่จะใช้มาตรการใหม่ๆ ซึ่ง“แรง” มาลงโทษเกาหลีเหนือ ถ้าประเทศนั้นยังขืนเดินหน้าทดลองอาวุธนิวเคลียร์หรือขีปนาวุธข้ามทวีป เจ้าหน้าที่ระดับสูงของโสมขาวแถลงในวันจันทร์ (10 เม.ย.) ภายหลังเจรจาหารือกับตัวแทนของแดนมังกร ขณะที่หมู่เรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีของสหรัฐฯแล่นบ่ายหน้าไปยังบริเวณแถบนี้เพื่อสำแดงแสนยานุภาพ โดยที่รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกันขู่ว่า ประเทศซึ่งทำตัวเป็นภัยคุกคามนานาชาติอาจเจอมาตรการสั่งสอนแบบเดียวกับซีเรีย และที่ปรึกษาความมั่นคงสำทับว่าประธานาธบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้จัดเตรียมทางเลือกทั้งหมดในการจัดการกับโสมแดงพรักพร้อมเอาไว้

คิม ฮอง-คยุน ผู้แทนระดับสูงด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีใต้แถลงกับผู้สื่อข่าว ภายหลังการพบปะหารือกับ อู๋ ต้าเหว่ย ผู้แทนพิเศษด้านกิจการคาบสมุทรเกาหลีของจีนที่กรุงโซลในวันจันทร์ (10) ว่า “เราเห็นพ้องกันว่าควรต้องมีมาตรการเพิ่มเติมที่เข้มแข็งโดยอิงอยู่กับมติฉบับต่างๆ ของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ถ้าฝ่ายเหนือ (เกาหลีเหนือ) ยังคงเดินหน้าทดสอบนิวเคลียร์หรือยิงไอซีบีเอ็ม (ขีปนาวุธข้ามทวีป) ทั้งๆที่ได้รับคำเตือนจากประชาคมระหว่างประเทศ”

เกาหลีเหนืออาจจะดำเนิน “การยั่วยุทางยุทธศาสตร์” เนื่องในวาระสำคัญต่างๆ ทางการเมืองของโสมแดงในเดือนนี้ คิมกล่าวต่อ พร้อมกับเสริมว่าการเดินทางมาเยือนเกาหลีใต้ของอู๋ คือ “การส่งสัญญาณเตือนอย่างแรง” ต่อเปียงยาง ถึงแม้เขาระบุด้วยว่า ในการหารือของทั้งสองฝ่ายคราวนี้ไม่ได้มีการเอ่ยถึงทางเลือกในการใช้กำลังทหารใดๆ สำหรับตัวอู๋เองไม่ได้พูดกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการหารือคราวนี้

มีการคาดเดากันมากว่าเกาหลีเหนืออาจทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหม่ เนื่องในวาระครบรอบวันเกิด 105 ปีในวันเสาร์ (15) นี้ ของ คิม อิลซอง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือและเป็นปู่ของคิม จองอึน ผู้นำโสมแดงคนปัจจุบัน

เมื่อวันอาทิตย์ (9) เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันระหว่างการให้สัมภาษณ์รายการ “ดีส วีก” ของเครือข่ายเอบีซีว่า อเมริกาไม่คิดโค่นล้มระบอบคิม จองอึน แต่กำลังรอให้จีน ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของเกาหลีเหนือ เพิ่มบทบาทในการกำราบเปียงยางตามที่รับปากไว้

ทิลเลอร์สันเสริมว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเข้าใจชัดเจนว่า สถานการณ์ขณะนี้คุกรุ่นมากขึ้นและมีภัยคุกคามถึงระดับที่จำเป็นต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง

ทางด้าน เอช.อาร์. แมคมาสเตอร์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ก็ย้ำว่า การส่งกองเรือจู่โจม คาร์ล วิลสัน ไปยังคาบสมุทรเกาหลีเมื่อวันอาทิตย์ (9) เป็นการดำเนินการที่ “รอบคอบ” และวิจารณ์เกาหลีเหนือว่า เป็นประเทศอันธพาลที่มีอาวุธนิวเคลียร์และมีพฤติกรรมยั่วยุ ซึ่งอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลายคน รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เห็นตรงกันว่า เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และจำเป็นต้องทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดจากนิวเคลียร์

แมคมาสเตอร์เสริมว่า ทรัมป์ขอให้เหล่าที่ปรึกษาด้านความมั่นคงเตรียมทางเลือกทั้งหมดในการขจัดภัยคุกคามจากโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือไว้ให้พร้อม

ทั้งนี้ สหรัฐฯคาดหมายว่าเปียงยางกำลังเร่งพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีป ติดหัวรบนิวเคลียร์ที่สามารถโจมตีแผ่นดินใหญ่อเมริกา และที่ผ่านมาทดสอบนิวเคลียร์ไปแล้ว 5 ครั้ง โดย 2 ครั้งในจำนวนนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว

เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ เตือนว่า โสมแดงอาจพัฒนาวิธีการยิงจรวดติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์โจมตีถึงอเมริกาภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี

เมื่อวันพุธที่แล้ว (5) เกาหลีเหนือเพิ่งยิงขีปนาวุธพิสัยกลางไปตกในทะเลญี่ปุ่นก่อนการประชุมสุดยอดอเมริกา-จีนในวันพฤหัสฯ และศุกร์

วันต่อมา พลเอกลอรี โรบินสัน ผู้บัญชาการหน่วยป้องกันอากาศยานอเมริกาเหนือ แสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐฯ มีศักยภาพในการสกัดไอซีบีเอ็มจากเปียงยาง

อย่างไรก็ดี โรบินสันกังวลกับขีปนาวุธที่ใช้เครื่องยนต์เชื้อเพลิงแข็งที่เกาหลีเหนือโอ้อวดว่า ทดสอบสำเร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และระบุเพิ่มเติมในคำแถลงเป็นลายลักษณ์อักษรต่อวุฒิสภาว่า การทดสอบอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ของเกาหลีเหนือที่ถี่ขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ความสามารถในการออกคำเตือนที่สามารถนำไปดำเนินการได้ของอเมริกาลดลงอย่างต่อเนื่อง

ในวันอาทิตย์ (9) เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากเกาหลีเหนือพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลสำเร็จจะถือเป็นเส้นแดงอันตรายสำหรับทรัมป์หรือไม่ ทิลเลอร์สันตอบว่า ถ้าระบบดังกล่าวใช้ได้อย่างสมบูรณ์ก็จะถือเป็นพัฒนาการที่ร้ายแรงมาก

ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ให้การต้อนรับประธานาธิบดีสี และขอให้ผู้นำจีนช่วยกดดันเกาหลีเหนือให้ระงับโครงการอาวุธนิวเคลียร์

แต่ก่อนหน้านั้น ประมุขทำเนียบขาวขู่ใช้มาตรการฝ่ายเดียวจัดการกับรัฐดาวแดงเปียงยาง และคำขู่นั้นมีน้ำหนักขึ้นมาในบัดดลที่อเมริกาโจมตีฐานทัพอากาศซีเรียเมื่อวันพฤหัสฯ (6) เพื่อสั่งสอนดามัสกัสที่ใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว

ทิลเลอร์สันยังตอกย้ำเรื่องนี้เมื่อวันอาทิตย์ว่า การโจมตีซีเรียเป็นการส่งสัญญาณเตือนถึงประเทศอื่นๆ ซึ่งรวมถึงเกาหลีเหนือว่า ถ้ายังขืนทำตัวเป็นภัยคุกคามอาจถูกตอบโต้แบบเดียวกัน

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แม้การโจมตีฝ่ายเดียวต่อเกาหลีเหนืออาจได้ผลในทางการทหาร แต่อาจเป็นอันตรายต่อพลเรือนจำนวนมากในเกาหลีใต้

ขณะที่แหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นพยายามลดกระแสเรื่องนี้ โดยบอกว่า หากอเมริกาจะลงมือโจมตีเกาหลีเหนือจริง น่าจะถูกทัดทานจากทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

ที่กรุงโซล โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ มุน ซัง-คยุน กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ยังเน้นที่การป้องปรามและการเตรียมพร้อม และเสริมว่า เร็วๆ นี้ ผู้แทนอาวุโสของเกาหลีใต้ สหรัฐฯ และญี่ปุ่นจะหารือกันเพื่อหามาตรการร่วมกันเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์เปียงยาง