xs
xsm
sm
md
lg

“โสมแดง” ยิงจรวดท้าทาย “ทรัมป์-สี” ทดสอบความสัมพันธ์อเมริกา-จีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>รายการข่าวทางทีวีเกาหลีใต้กำลังเสนอภาพจากแฟ้มเกี่ยวกับการยิงจรวดของโสมแดง  บนจอเครื่องรับโทรทัศน์ซึ่งตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟในกรุงโซล, เกาหลีใต้ เมื่อวันพุธ (5 เม.ย.) อันเป็นวันที่เกาหลีเหนือได้ยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางอีกลูกหนึ่ง </i>
เอเจนซีส์ - เกาหลีเหนือยิงจรวดพิสัยกลางไปตกในทะเลญี่ปุ่นอีก เมื่อวันพุธ (5 เม.ย.) คาดเป็นการส่งสัญญาณเตือน สี จิ้นผิง และ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะพบปะประชุมซัมมิตครั้งแรกปลายสัปดาห์นี้ โดยมีโครงการนิวเคลียร์โสมแดงเป็นหนึ่งในประเด็นหารือสำคัญที่สุด อีกทั้งทำเนียบขาวระบุว่า แนวทางการจัดการกับเปียงยางจะเป็นบททดสอบความสัมพันธ์อเมริกา - จีน

ตามการประเมินขั้นต้นของอเมริกาและเกาหลีใต้ ระบุว่า ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือยิงล่าสุดลูกนี้เป็นจรวดพิสัยกลาง เคเอ็น-15 หรือที่เปียงยางเรียกขานว่า “ปุกกุกซอง-2” ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทางการทหารหลายคน ระบุว่า เป็นความคืบหน้าที่น่าเป็นกังวล หลังจากโสมแดงได้ทำการทดสอบไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากใช้เชื้อเพลิงแข็งที่โหลดอยู่ในจรวด จึงช่วยลดระยะเวลาการเตรียมการก่อนการยิง เพิ่มความสามารถในการเคลื่อนที่ และตรวจจับยากขึ้น

คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเปียงยาง ประกาศหลังการทดสอบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า จรวด “ปุกกุกซอง-2” คือ อาวุธใหม่ในการโจมตีอเมริกาและเกาหลีใต้ด้วยนิวเคลียร์ ทั้งนี้ ขีปนาวุธส่วนใหญ่ของเกาหลีเหนือใช้เชื้อเพลิงเหลวซึ่งปกติแล้วต้องเติมบนแท่นปล่อยก่อนการยิง

สำหรับการทดสอบเมื่อวันพุธ (5) นั้น กองทัพเกาหลีใต้ แถลงว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธจากภาคพื้นดินบริเวณเมืองซินโปที่อยู่ทางชายฝั่งด้านตะวันออกของแดนโสมแดงในช่วงเช้า และขีปนาวุธไปได้ไกล 60 กิโลเมตร โดยประมาณ ขณะที่การทดสอบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์จรวดไปไกลถึงราว 500 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า ระยะทางที่สั้นลงในการยิงล่าสุดถือเป็นความล้มเหลวหรือไม่

ด้านสื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือแถลงว่า ขีปนาวุธ “ปุกกุกซอง-2” เป็นขีปนาวุธจากพื้นดินสู่พื้นดินและสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้

มีความเป็นไปได้ว่า จรวดที่ยิงล่าสุดคราวนี้ อาจอัปเกรดมาจาก “ปุกกุกซอง” ซึ่งเป็นขีปนาวุธที่ปล่อยจากเรือดำน้ำเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญเกาหลีใต้หลายคนเชื่อว่า “ปุกกุกซอง-2” อาจเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวกว่าเดิม เนื่องจากสามารถติดตั้งบนแท่นยิงบนรถจึงยิงจากที่ใดก็ได้ ขณะที่การยิงจากเรือดำน้ำแม้สามารถเลี่ยงการตรวจจับได้มากขึ้น แต่ติดปัญหาที่เปียงยางมีเรือดำน้ำไม่มากนัก

ด้านกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ วิจารณ์ว่า การกระทำล่าสุดของเปียงยางเป็น “การยั่วยุอย่างไม่ยั้งคิด” ที่เป็นภัยต่อสันติภาพระหว่างประเทศ สอดคล้องกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น ซึ่งแถลงประณามว่า เป็น “การยั่วยุอย่างร้ายแรง”

ราล์ฟ คอสซา ประธานกลุ่มคลังสมอง แปซิฟิก ฟอรัม ซีเอสไอเอส ในโฮโนลูลู กล่าวว่า เขาเคยคาดไว้ว่า เกาหลีเหนือน่าจะทำอะไรบางอย่าง ซึ่งอาจเป็นการทดสอบนิวเคลียร์ ในระหว่างที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ไปเยือนและหารือกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และการยิงจรวดอาจเป็นเพียงแค่การโหมโรงก่อนที่เปียงยางจะปล่อยของเพิ่มทันทีที่การประชุมสุดยอดเริ่มต้นขึ้นในวันพฤหัสบดีและศุกร์นี้ (6 - 7)

ในส่วนท่าทีของสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงสั้นๆ ว่า อเมริกาพูดเรื่องเกาหลีเหนือมามากพอแล้ว และไม่ขอพูดอะไรอีก

ส่วนเจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาว ระบุว่า ทรัมป์จะหารือเรื่องการหาวิธีควบคุมโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือกับสี และเรื่องนี้จะเป็นบททดสอบความสัมพันธ์สองประเทศ พร้อมสำทับว่า สถานการณ์ขณะนี้มีความเร่งด่วนมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ทรัมป์เพิ่งให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ของอังกฤษเมื่อไม่กี่วันนี้ ว่า อเมริกาพร้อมจัดการเกาหลีเหนือตามลำพัง หากจีนไม่เต็มใจช่วย รวมทั้งเคยพูดจาขึงขังเกี่ยวกับทางเลือกในการใช้มาตรการทางทหาร ทว่า เจ้าหน้าที่ในคณะบริหารคนหนึ่ง แย้มว่า ทรัมป์ยังยินดีพิจารณาทางเลือกอื่นๆ ด้วย ซึ่งรวมถึงการแซงก์ชันธนาคารจีนที่ทำธุรกิจกับเปียงยาง ถ้าปักกิ่งยังไม่ลงมือปิดช่องทางการเงินโสมแดง

ทว่า นักการทูตมองว่า วิธีการดังกล่าวคงไม่ได้ผลเท่าไร เนื่องจากเปียงยางมีช่องทางผ่องถ่ายเงินสดผ่านสิงคโปร์และเขตอำนาจของชาติอื่นๆ นอกเหนือจากจีน

ในเวลาเดียวกัน รัฐบาลจีนที่มีสนธิสัญญาผูกมัดให้ต้องปกป้องเกาหลีเหนือนั้น กลัวว่า มาตรการทางทหารของอเมริกาจะจุดชนวนสงครามบนคาบสมุทรเกาหลีและทำให้ผู้ลี้ภัยนับล้านทะลักเข้าแดนมังกร

กระนั้น หยาง ซีหยู นักวิจัยจากไชน่า อินสติติวท์ ออฟ อินเตอร์เนชันแนล สตัดดีส์ ระบุว่า จีนมีหลักการเกี่ยวกับปัญหาเกาหลีเหนืออยู่แล้ว และไม่ว่าทรัมป์จะแสดงท่าทีแข็งกร้าวเพียงใดระหว่างการประชุมสุดยอด แต่ผู้นำจีนจะไม่เปลี่ยนแปลงหลักการอย่างแน่นอน

นอกจากนั้น เกือบจะมั่นใจได้เต็มร้อยว่า ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลีจะกระตุ้นให้อเมริกาส่งทหารไปประจำการในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่ม ถึงแม้ถูกจีนมองว่า เป็นการขยายอิทธิพล รวมทั้งปักกิ่งยังไม่พอใจแผนการติดตั้งระบบป้องกันภัยขีปนาวุธ ทาด ในเกาหลีใต้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวยืนยันว่า ทรัมป์ไม่มีแผนโอนอ่อนผ่อนตามจีนและยกเลิกการติดตั้งระบบทาดเด็ดขาด

สำหรับประเด็นการเจรจาซัมมิตระหว่างทรัมป์กับสีในช่วงสุดสัปดาห์นี้ มองกันว่า เรื่องการค้านั้นดูจะมีช่องทางประนีประนอมกันบ้าง โดยผู้เชี่ยวชาญคาดว่า สีอาจยอมผ่อนปรนให้อเมริกาในด้านเหล็กกล้า หรืออาจเพิ่มเติมมูลค่าในแผนการลงทุนในอเมริกาที่วางแผนไว้แล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทำให้ทรัมป์สามารถทวีตอวดได้ว่า ตนสร้างงานให้คนอเมริกัน และจึงยับยั้งยังไม่ขึ้นภาษีเอากับสินค้านำเข้าจากจีน

การพบกันครั้งแรกระหว่างสองผู้นำชาติมหาอำนาจจะดุเดือดหรือลื่นไหลขึ้นอยู่กับว่า ทั้งคู่เคมีเข้ากันหรือไม่ แต่ถึงตอนนี้ยังไม่มีใคร ไม่ว่าจะเป็นนักการทูตหรือกระทั่งทีมวางแผนการประชุม ที่มั่นใจเต็มร้อยว่า จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้นำจีนที่ทรงอำนาจที่สุดในเจเนอเรชันนี้ พบกับประธานาธิบดีอเมริกันที่อารมณ์แปรปรวนและเข้ารับตำแหน่งยังไม่ถึง 100 วัน

กำลังโหลดความคิดเห็น