รอยเตอร์ - รัฐบาลเกาหลีใต้กำหนดวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ 9 พ.ค. เพื่อสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่แทนที่ พัค กึน-ฮเย ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาถอดถอนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่อัยการโสมขาวเตรียมออกหมายเรียกอดีตผู้นำหญิงเข้าให้ปากคำคดีทุจริตและใช้อำนาจโดยไม่ชอบ ในวันอังคารที่ 21 มี.ค.
พัค ถูกรัฐสภาลงมติยื่นฟ้องถอดถอนเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ฐานรู้เห็นเป็นใจให้เพื่อนหญิงคนสนิท ชอย ซุน ซิล ก้าวก่ายกิจการของรัฐ และใช้เส้นสายรีดเงินบริจาคจากกลุ่มธุรกิจใหญ่ๆ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ตัดสินรับรองมติดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ พัค กลายเป็นผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยคนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกขับพ้นทำเนียบ
พัค ยังคงปฏิเสธทุกข้อหาที่เธอตกเป็นจำเลย ขณะที่เรื่องนี้ยังพัวพันไปถึงผู้บริหาร ซัมซุง กรุ๊ป กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ด้วย
สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า อัยการกำลังไล่เบี้ยกลุ่มธุรกิจใหญ่อีก 2 บริษัท ได้แก่ ล็อตเต้ กรุ๊ป และ เอสเค กรุ๊ป ซึ่งโฆษกทั้ง 2 บริษัทก็ยืนยันว่าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือต่อกระบวนการสอบสวนของรัฐอย่างเต็มที่
วิกฤตการเมืองในเกาหลีใต้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดเรื่องโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ขณะที่การนำเข้าระบบป้องกันขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง (THAAD) จากสหรัฐฯ ก็พลอยฉุดรั้งความสัมพันธ์กับจีนให้ดิ่งเหวลงไปด้วย
เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีนในสัปดาห์นี้ และคาดว่าภัยคุกคามนิวเคลียร์โสมแดงจะเป็นหัวข้อสำคัญในการพบปะหารือ
ฮวาง เคียว อันห์ นายกรัฐมนตรีและรักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยืนยันชัดเจนแล้วว่าจะไม่ลงแข่งขันในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ขณะที่รัฐมนตรีมหาดไทย ฮอง ยุน ซิก ก็ให้คำมั่นต่อสาธารณชนว่า การเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในเดือน พ.ค.จะต้องสะอาดและโปร่งใสที่สุด
ผลสำรวจความคิดเห็นพบว่า ฮวาง เป็นตัวเลือกจากสายอนุรักษ์นิยมที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุด
คดีทุจริตที่พัวพันถึง พัค กึน-ฮเย ส่งผลให้ความนิยมในพรรครัฐบาลเสื่อมถอยลงมาก และเมื่อ ฮวาง ประกาศไม่ลงเลือกตั้งก็ยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสคว้าชัยชนะให้แก่ มุน แจ-อิน ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน เดโมเครติก ปาร์ตี ซึ่งมีคะแนนนิยมมาแรงในโพลทุกสำนัก
สำนักงานอัยการเกาหลีใต้แถลงวันนี้ (15) ว่า อดีตประธานาธิบดีพัคจะถูกเรียกตัวเข้าให้ปากคำในเวลา 09.30 น.ของวันอังคารที่ 21 มี.ค. ซึ่งทนายของเธอยืนยันว่าพร้อมจะให้ความร่วมมือ
พัค ปฏิเสธที่จะตอบคำถามของอัยการ และไม่เข้าให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตลอดระยะเวลาที่ยังดำรงตำแหน่งผู้นำเกาหลีใต้ และเมื่อเธอเก็บข้าวของออกจากทำเนียบสีน้ำเงินเมื่อวันอาทิตย์ (12) เธอก็ยังแสดงท่าทีไม่ยอมจำนน โดยให้โฆษกออกมาแถลงว่า “สักวันความจริงจะต้องปรากฏ”
