เอเจนซีส์ - รายงานความก้าวหน้าโครงการจัดสรรและโยกย้ายผู้ลี้ภัยของคณะกรรมาธิการยุโรปที่ออกมาในวันพุธ (8 ก.พ.) ชี้ว่า สมาชิกสหภาพยุโรปสามารถหาบ้านใหม่ให้แก่ผู้ลี้ภัยในอิตาลี กรีซ และตุรกี แค่ 15,000 คน จากเป้าหมายเดิมทั้งหมด 160,000 คน ออกจากอิตาลีและกรีซประเทศด่านหน้าที่ต้องทนแบกรับ ให้เป็นไปตามข้อกำหนดโควตาจัดสรรผู้ลี้ภัยของอียูที่มีหลายประเทศไม่เห็นด้วย
RT สื่อรัสเซีย รายงานเมื่อวานนี้ (8 ก.พ.) ว่า ตัวเลขผู้ลี้ภัยที่ถูกย้ายออกจากกรีซ และอิตาลี ไปยังบ้านใหม่ในชาติสมาชิกสหภาพยุโรปอื่นๆ หรือสวิตเซอร์แลนด์ และนอร์เวย์นั้นได้แตะ 11,966 คน อ้างอิงจากรายงานความก้าวหน้าคณะกรรมาธิการยุโรปในแผนการเคลื่อนย้ายและหาบ้านใหม่ให้กับผู้อพยพที่ออกมาในวันพุธ (8)
ในรายงานยังระบุต่อว่า “มีผู้อพยพจำนวน 3,000 คนซึ่งจำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากนานาชาติ อยู่ในกลุ่มที่ได้รับการตอบรับจากชาติยุโรป ได้ถูกส่งตัวออกมาจากตุรกีภายใต้ข้อตกลงสหภาพยุโรป-ตุรกีเมื่อเดือนมีนาคม 2016 ที่ผ่านมา
สื่อรัสเซียรายงานว่า รายงานความก้าวหน้าของคณะกรรมาธิการยุโรปได้กล่าวยกย่องถึงสัญญาณแง่บวกที่เกิดขึ้นในภาพรวม รวมทั้งยังตอกย้ำว่าในเดือนธันวาคมปี 2016 ทางอียูได้เห็นตัวเลขสูงสุดประจำเดือนจำนวนผู้ลี้ภัยที่หาบ้านใหม่ได้สำเร็จ แต่กระนั้นประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมยังไม่สามารถบรรลุข้อกำหนดของเดือนที่ออกมาจากคณะกรรมาธิการยุโรปที่ระบุว่า ต้องทำการย้ายผู้อพยพจำนวน 1,000 คนออกมาจากอิตาลี และอีก 2,000 คนออกมาจากกรีซภายในเดือนนั้น
“ในเดือนที่ผ่านมาได้เห็นความก้าวหน้าจากทั้งสองด้าน ทั้งการย้ายไปอยู่ที่ใหม่ และการนำผู้อพยพไปออกตั้งรกราก แต่ทว่าความพยายามของทางเราที่ต้องการให้เป็นไปตามข้อกำหนดทั้งสองด้านจากทั้งรัฐชาติสมาชิกที่เป็นปราการด่านหน้า และประเทศเพื่อนบ้านของเราเองนั้นจำเป็นต้องทำให้สำเร็จลุล่วง และต้องรวดเร็วกว่านี้” รายงานจากแถลงการณ์
ในแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า “การย้ายผู้ลี้ภัยที่มีคุณสมบัติครบถ้วนออกจากอิตาลี และกรีซนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ แต่ต้องใช้ความกล้าหาญทางการเมืองเข้าช่วย รวมไปถึงความผูกพันต่อภารกิจ และความตั้งใจอย่างแรงกล้าจากชาติสมาชิกทั้งหมดที่มีในการทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นมา” ดมิทริส อัฟราโมปูลูส (Dimitris Avramopoulos) คณะกรรมาธิการยุโรปด้านการโยกย้าย การเคหะ และความเป็นพลเมืองกล่าวในแถลงการณ์ให้ความเห็นในปัญหาที่เกิดขึ้น
ในขณะที่ ฟรานซ์ ทิมเมอร์มานส์ (Frans Timmermans) รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปได้แถลงต่อว่า “สิ่งนี้ต้องทำอย่างเร่งด่วน” สำหรับบรรดาประเทศที่ต้องทนรับต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และต้องใช้ความพยายามมากขึ้นต่อป้าหมายย้ายผู้อพยพออกไป
ทิมเมอร์มานส์ยังได้ร้องขอต่อชาติสมาชิกยุโปอื่นๆ ให้ยื่นมือช่วยเหลืออย่างจริงจังต่อนโยบายที่ออกโดยบรัสเซลส์ โดยเขาได้แนะนำให้ใช้ความเป็นเพื่อนสมาชิกในการเข้ากดดันและบีบบังคับให้ชาติเหล่านั้นต้องร่วมแบกรับภาระ แต่อย่างไรก็ตาม RT ชี้ว่ารองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปปฏิเสธที่จะใช้ข้อกำหนดทางกฎหมายในการใช้อำนาจที่มีทางบรัสเซลส์เข้ามาเกี่ยวข้อง ถึงแม้ในรายงานของเอเอฟพี ทิมเมอร์มานส์ระบุว่า ทางอียูกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาในความเป็นไปได้ของมาตรการลงโทษต่อชาติสมาชิกอียูที่ฝ่าฝืนมาตรการจัดสรรโควตารับผู้อพยพ
ทิมเมอร์มานส์แถลงเพิ่มเติมว่า ในรายงานความก้าวหน้าเดือนมีนาคมของคณะกรรมาธิการยุโรป จะเป็นสิ่งที่ ”ผมจะได้กล่าวถึงบทสรุปถึงขั้นต่อไปที่เราจะเดินต่อ” เอพีรายงาน
ทั้งนี้แต่เดิม สื่อรัสเซียรายงาน แผนการของทางยุโรปได้ตั้งเป้าหมายตัวเลขไว้ที่ 160,000 คนให้สามารถถูกเคลื่อนย้ายออกมาจากอิตาลีและกรีซ และส่งตัวกระจายไปยังชาติสมาชิกอียูอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม ผลจากข้อตกลงอียู-ตุรกีที่ได้ทำขึ้นในช่วงต้นปี 2016 ส่งผลทำให้ตัวเลขมีจำนวนลดลงไปอยู่ที่ 98,000 คนเท่านั้น เนื่องมาจากว่าตัวเลข 54,000 คนได้ว่างลงผลจากการตอบรับชาวซีเรียอย่างเป็นทางการจากตุรกีไปยังอียู
RT รายงานต่อว่า และสำหรับโควตาจัดสรรผู้ลี้ภัยยังคงเป็นปัญหาต่อไปที่ต้องถกเถียงสำหรับชาติสมาชิก เนื่องมาจากชาติสมาชิกจากยุโรปตะวันออกปฏิเสธที่จะทำตามข้อกำหนดนี้ ปฏิเสธที่จะรับตัวผู้อพยพตามโควตาของบรัสเซลส์ ซึ่งจากรายงานล่าสุดชี้ให้เห็นว่า ฮังการี ออสเตรีย และโปแลนด์ ยังคงไม่ได้เปิดประเทศรับตัวผู้อพยพออกมาจากอิตาลีและกรีซตามโควตาจัดสรร ในขณะที่สโลวาเกียยอมรับผู้ลี้ภัย 9 คนจากทั้งหมด 902 คน
สื่อรัสเซียรายงานทิ้งท้ายว่า หากว่าแผนการโควตาของบรัสเซลส์เป็นไปตามเป้าหมาย ที่ทุกชาติสมาชิกสามารถทำตามข้อกำหนดประจำเดือนได้สำเร็จ คาดว่าการโยกย้ายผู้อพยพจำนวน 160,000 คนเพื่อไปหาบ้านใหม่จะสามารถเสร็จสิ้นกินเวลาไม่ต่ำกว่า 4 ปี แต่ทว่านายกรัฐมนตรีฮังการี วิกเตอร์ ออร์แบน ได้ประกาศในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า ฮังการีพร้อมที่จะขึ้นสู่ศาลฟ้องคณะกรรมาธิการยุโรปในคำสั่งโควตาบีบบังคับให้ประเทศของเขาต้องเปิดประตูรับผู้อพยพ
