xs
xsm
sm
md
lg

ทรัมป์โว US-พันธมิตรเผด็จศึก IS ซัดสื่อโป้ปดเลือกรายงานเหตุโจมตี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับทหารเหล่าต่างๆ ระหว่างที่เขาไปตรวจเยี่ยมกองบัญชาการทหารภาคกลางของสหรัฐฯ (CENTCOM) ในเมืองแทมปา รัฐฟลอริดา เมื่อวันจันทร์ (6 ก.พ.)
เอเจนซีส์ - “ทรัมป์” ลั่นอเมริกาและพันธมิตรจะกวาดล้างและป้องกันไม่ให้นักรบญิฮาดเข้าไปปักหลักในแดนอินทรี แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า จะจัดการกับ “ไอเอส” อย่างไร เช่นเดียวกับการกล่าวหาลอยๆ ว่าสื่อที่ไม่ซื่อสัตย์ไม่ยอมรายงานการโจมตีบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยุโรป ขณะเดียวกัน ยูเอ็นเปิดเผยรายงานระบุว่า แม้ไอเอสเพลี่ยงพล้ำในสนามรบ แถมเงินทุนร่อยหรอ แต่ยังคงซุ่มชักชวนผู้สนับสนุนก่อการโจมตีในประเทศต่างๆ รวมทั้งยังมีความเสี่ยงสูงที่จะมีการโจมตีสนามบินและเครื่องบิน

ในระหว่างเดินทางไปตรวจเยี่ยมกองบัญชาการทหารภาคกลางของสหรัฐฯ (US CENTCOM) ที่ตั้งอยู่ที่ฐานทัพอากาศแมคดีลล์ เมืองแทมปา รัฐฟลอริดา เมื่อวันจันทร์ (6 ก.พ.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศต่อหน้าทหาร 300 คน ว่า สหรัฐฯ และพันธมิตรจะเอาชนะลัทธิก่อการร้ายอิสลาม และจะไม่ยอมให้ลัทธินี้เข้าไปตั้งรกรากในอเมริกา รวมทั้งสัญญาว่าจะอัดฉีด “การลงทุนทางการเงินครั้งประวัติศาสตร์” แก่กองทัพสหรัฐฯ แต่ไม่ได้ระบุตัวเลขเป็นรูปธรรม

กองบัญชาการทหารภาคกลางของสหรัฐฯ มีความรับผิดชอบครอบคลุมการปฏิบัติการทางทหารของอเมริกาในตะวันออกกลางไปจนถึงเอเชียกลาง และประมุขคนใหม่ของทำเนียบขาวใช้วาระการเดินทางไปตรวจเยี่ยมคราวนี้ ระบุว่า ผู้ก่อการร้ายอิสลามยังคงมุ่งมั่นในการโจมตีอเมริกาเหมือนที่เคยทำมาในเหตุวินาศกรรม 9/11 รวมทั้งที่เกิดขึ้นที่บอสตัน ออร์แลนโด ซานเบอร์นาร์ดิโน ตลอดจนทั่วยุโรป

ทรัมป์ยังอ้างว่า สื่อที่ไม่ซื่อสัตย์อย่างยิ่งไม่อยากรายงานการโจมตีบางเหตุการณ์ในยุโรป แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าเป็นเหตุการณ์ใดและสื่อสำนักไหนที่ไม่ยอมรายงานข่าว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ โฆษกทำเนียบขาวย้ำกับสื่อในภายหลังว่า คณะบริหารจะเปิดเผยรายชื่อเหตุการณ์การโจมตีที่ไม่มีการรายงานหรือมีเพียงการรายงานแบบลวกๆ และสำทับว่า มีหลายเหตุการณ์มาก

ทั้งนี้ ทรัมป์ชูการต่อสู้กับลัทธิก่อการร้ายอิสลามสุดโต่งเป็นนโยบายสำคัญในการหาเสียง และประเด็นนี้ยังเป็นหลักการสำคัญในนโยบายการต่างประเทศและนโยบายภายในประเทศของคณะบริหารชุดใหม่ของเขา

ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผู้นำสหรัฐฯ ออกคำสั่งฝ่ายบริหารให้กระทรวงกลาโหม, คณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐฯ ดำเนินการทบทวนยุทธศาสตร์ในการปราบปรามกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) และเสนอรายงานเบื้องต้นให้เขาภายในเวลา 30 วัน

ทรัมป์ยังใช้แนวโน้มความร่วมมือในการต่อสู้กับไอเอสเป็นเหตุผลในการอ้าแขนรับรัสเซีย และพยายามบังคับใช้คำสั่งฝ่ายบริหารในการห้ามผู้ลี้ภัยและพลเมืองจาก 7 ชาติมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ ทว่าถูกต่อต้านจากหลายภาคส่วน และกระทรวงยุติธรรมอยู่ระหว่างการต่อสู้ในศาลซึ่งได้ออกคำสั่งชั่วคราวให้ระงับใช้คำสั่งของทรัมป์ดังกล่าว

ในวันอาทิตย์ (5) ทรัมป์ยังคงโจมตีผู้พิพากษาของศาลสหรัฐฯ เมืองซีแอตเติล ที่สั่งระงับคำสั่งแบนการเดินทางของตนชั่วคราว โดยเขาบอกว่าหากมีการโจมตีเกิดขึ้นมาแล้ว ก็จะต้องโทษผู้พิพากษาผู้นั้นและระบบศาลของสหรัฐฯ

ทรัมป์ไม่ได้แสดงหลักฐานยืนยันการกล่าวอ้างว่า ผู้ที่มีแนวโน้มเป็นผู้ก่อการร้ายกำลังหลั่งไหลเข้าอเมริกา ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่กังวลกับคนอเมริกันที่ถูกบ่มเพาะลัทธิสุดโต่งและลุกขึ้นมาก่อการโจมตีโดยมีไอเอสเป็นต้นแบบหรือสร้างแรงบันดาลใจ มากกว่าผู้ก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ทั่วโลก

เค้าโครงนโยบายของทรัมป์ในการต่อสู้กับไอเอสในต่างแดนก็กำลังถูกจับจ้องเช่นเดียวกัน โดยคำสั่งให้ทบทวนแคมเปญต่อต้านไอเอสของเขาครอบคลุมข้อเสนอแนะในการเปลี่ยนแปลงกฎการปะทะสู้รบบางข้อที่ส่อว่า จะมีการใช้แนวทางที่แข็งกร้าวขึ้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางคนเตือนว่า อาจยิ่งส่งเสริมกระบวนการบ่มเพาะลัทธิหัวรุนแรง

ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่วันแรกที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง กองทหารรบพิเศษของสหรัฐฯ ได้บุกโจมตีเครือข่ายอัลกอ-อิดะห์ในเยเมนเป็นเหตุให้ทหารอเมริกันเสียชีวิต 1 นาย ขณะที่นักรบญิฮาดเสียชีวิต 14 คน และพลเมืองถูกลูกหลงตายอีก 16 คน

ทรัมป์ยังเรียกร้องให้ฝ่ายทหารทบทวนเสนอแนะถึงผู้ที่อาจเป็นหุ้นส่วนใหม่ๆ ในกลุ่มพันธมิตรของสหรัฐฯ โดยผู้สังเกตการณ์มองว่าเขาน่าจะหมายถึงการนำรัสเซียเข้ามาร่วมด้วยนั่นเอง

มอสโกนั้นได้ส่งเครื่องบิน ทรัพยากรของกองทัพเรือ และกำลังทหารไปยังซีเรียเพื่อกวาดล้างไอเอส แต่ขณะเดียวกัน ก็โจมตีกลุ่มกบฏที่เป็นศัตรูของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดด้วย

หลังจากสูญเสียพื้นที่ยึดครองอย่างกว้างขวาง ทำให้เวลานี้ไอเอสเหลือที่มั่นเพียงเมืองโมซุลในอิรัก ขณะที่เมืองหลวง “รอกเกาะห์” ในซีเรียกำลังถูกโจมตีอย่างหนัก

อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า ทรัมป์สั่งระงับแผนการของบารัค โอบามา ในการร่วมกับกองกำลังชาวเคิร์ดชิงเมืองรอกเกาะห์คืนชั่วคราว และกำลังตัดสินใจว่า จะเดินหน้าอย่างไรต่อไป

ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันจันทร์(6) อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่คนใหม่ของสหประชาชาติ ได้เสนอรายงานเกี่ยวกับไอเอสต่อคณะมนตรีความมั่นคง โดยระบุว่า กลุ่มก่อการร้ายนี้บางส่วนได้เคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่การรบในอิรัก ซีเรีย อัฟกานิสถาน และลิเบีย และยังใช้เทคโนโลยีต่างๆ อาทิ เว็บลับ การเข้ารหัส โปรแกรมแมสเซนเจอร์ เพื่ออำพรางการสื่อสารและการเสาะหาสมาชิกใหม่ๆ

รายงานยังระบุว่า แม้ไอเอสเพลี่ยงพล้ำในการสู้รบ ขณะที่สถานการณ์การเงินเข้าขั้นวิกฤต รวมทั้งไม่สามารถดึงดูดนักรบต่างชาติหลั่งไหลร่วมต่อสู้ในอิรักและซีเรียได้มากเหมือนที่ผ่านมา แต่กลุ่มลัทธิสุดโต่งนี้ยังคงชักชวนให้ผู้สนับสนุนที่อยู่นอกพื้นที่ความขัดแย้งทางทหาร ก่อการโจมตีโดยอาศัยเครือข่ายที่แฝงตัวอยู่ในประเทศนั้นๆ

รายงานทิ้งท้ายว่า ยังมีความเสี่ยงสูงที่กลุ่มก่อการร้ายนี้จะทำการโจมตีสนามบินและเครื่องบิน


กำลังโหลดความคิดเห็น