เอพี/เอเจนซีส์ - ส.ว.รัฐเทกซัส อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เท็ด ครูซ และผู้ว่าการรัฐเทกซัส เกร็ก แอ็บบอตต์ (Greg Abbott) ออกแถลงการณ์ล่าสุด ยอมรับว่าคนทั้งคู่พบและได้มีการหารือกับประธานาธิบดีหญิงไต้หวัน ไช่ อิงเหวิน ในเมืองฮูสตัน ในวันอาทิตย์ (8 ม.ค.) ในระหว่างการเดินทางของเธอไปเยือนอเมริกากลาง โดยในกรอบการพูดคุยระบุ ได้มีการเตรียมปรับระดับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี การเจรจาขายอาวุธ การแลกเปลี่ยนทางการทูต และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
เอพีรายงานวันนี้ (9 ม.ค.) ว่า ในการเดินทางไปเยือนอเมริกากลาง ซึ่งสื่อจีน เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์ระบุว่า จุดหมายปลายทางการเยือนของประธานาธิบดีไต้หวัน ไช่ อิงเหวิน คือ ฮอนดูรัส นิการากัว กัวเตมาลา และเอลซัลวาดอร์ ก่อนที่จะเดินทางกลับไปไต้หวัน
โดยในระหว่างการเดินทางการบินไปเยือนอเมริกากลางนี้ เมื่อวานนี้(8 ม.ค) ผู้นำไต้หวันได้หยุดสต็อปโอเวอร์ที่เมืองฮูสตัน รัฐเทกซัส
ซึ่งทางเซาท์มอร์นิงไชนาโพสต์รายงานอ้างว่า ในการหยุดที่รัฐเทกซัส ไช่ไม่ได้พบกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัดล์ ทรัมป์ หรือสมาชิกทีมเปลี่ยนผ่านอำนาจของทรัมป์
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ของเจสซิกา ดิตโต (Jessica Ditto) โฆษกทีมเปลี่ยนผ่านอำนาจของทรัมป์ที่ออกมาในวันเสาร์ (7 ม.ค.) จากการรายงานของเอพี ระบุว่าจะไม่มีการพบกันระหว่างไช่ อิงเหวิน และเจ้าหน้าที่ตัวแทนของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ แต่อย่างได
โดยสื่อจีนอ้างว่า หากมีการพบปะกันเกิดขึ้น ซึ่งการทำเช่นนั้นเท่ากับเป็นการทำให้ปักกิ่งเคืองเป็นอย่างมากโดยไม่จำเป็น
แต่อย่างไรก็ตาม ทางเซาท์มอร์นิงไชนาโพสต์สื่อจีนยอมรับว่า ไช่ได้มีโอกาสพบกับนักการเมืองคนสำคัญจากฝั่งพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลสหรัฐฯในสมัยหน้า ได้แก่ ส.ว.รัฐเทกซัส อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เท็ด ครูซ และผู้ว่าการรัฐเทกซัส เกร็ก แอ็บบอตต์ (Greg Abbott) และรวมไปถึงนายกเทศมนตรีฮูสตัน ซิลเวสเตอร์ ทูเมอร์ (Sylvester Turner) และแรนเดล ชริเวอร์ (Randall Schriver) อดีตผู้ช่วยผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการแปซิฟิกและเอเชียตะวันออก (former deputy assistant secretary of state for East Asian and Pacific affairs) ประจำกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ
เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์รายงานต่อว่า ไช่และคณะเดินทางมาถึงเมืองฮูสตันในวันเสาร์ (7 ม.ค.) ซึ่งสื่อจีนอ้างว่า ผู้นำไต้หวันพยายามไม่ให้ตกเป็นข่าวเมื่อเดินมาถึงรัฐเทกซัส ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่าถือเป็นยุทธศาสตร์ที่ดีสำหรับไช่ในการหยุดแวะระหว่างทางไปเยือนทวีปอเมริกากลาง
โดยสื่อท้องถิ่นไต้หวันรายงานว่า ไช่หลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์ในระหว่างที่เธออยู่ในเมืองฮูสตัน และออกกฎห้ามไม่ให้ผู้ที่จะเข้าร่วมงานอาหารค่ำกับประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน นำกล้องถ่ายภาพ หรือโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนเข้าไปด้านในเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีภาพข่าวหลุดออกมา
และมีเพียงคำอุทานหลุดปากออกมาจากผู้นำหญิงไต้หวันต่อกองทัพนักข่าวที่ดักรออยู่ด้านนอกโรงแรมที่พักในเมืองฮุสตันของไช่ เซนทรัล นิวส์ สื่อไต้หวันชี้ คือ “อากาศหนาวมาก เข้ามาด้านใน อย่าปักหลักยืนรอด้านนอก”
โดยในการแถลงข่าวของแกนนำของพรรครีพับลิกันในวันอาทิตย์ (8 ม.ค ส.ครูซ และผู้ว่าการรัฐเทกซัส แอบบ็อตต์ได้ออกมายอมรับว่า คนทั้งคู่ได้พบปะกับไช่ อิงเหวิน และใช้เวลาที่มีค่าในการหารือร่วมกัน โดยคนทั้งคู่กล่าวว่า ในการสนทนา ได้ต่างระบุไปถึงโอกาสในการปรับระดับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี การเจรจาขายอาวุธ การแลกเปลี่ยนทางการทูต และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
“ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองชาติของพวกเราถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งการมีโอกาสเข้าถึงตลาดไต้หวันมากขึ้นถือเป็นสิ่งสำคัญต่อเกษตรกรชาวเทกซัส รวมไปถึงเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ในรัฐ และเจ้าของกิจการขนาดเล็ก” แอ็บบอตต์กล่าว
เอพีรายงานว่า และในการแถลงข่าวของแอบบ็อตต์ ยังชี้ต่อว่า ทั้งตัวเขาและไช่ยังได้มีการหารือด้านพลังงาน ความสัมพันธ์ทางการค้าและการแลกเปลี่ยนระหว่างไต้หวันและรัฐเทกซัส โดยผู้ว่าการรัฐเทกซัสจากพรรครีพับลิกันกล่าวถึงการเจรจาที่ได้เกิดขึ้นในวันเดียวกันนั้นว่า การพูดคุยนั้นออกไปในแนวทางที่ว่า “ทำอย่างไรที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของพวกเราจะสามารถขยายออกไปภายใต้กรอบความเป็นพันธมิตรทางการค้า”
ในขณะที่ ส.ครูซ ซึ่งเคยเป็นคู่แข่งของทรัมป์ในช่วงการเลือกตั้งรอบไพรมารีของรัฐรีพับลิกันได้ออกแถลงการณ์ก่อนที่จะเข้าพบกับไช่ว่า “คณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ประจำรัฐเทกซัสได้รับ “จดหมายที่แสดงถึงข้อสงสัยจากกงสุลปักกิ่ง เตือนไม่ให้พวกเขาทำการพบกับผู้นำหญิงไต้หวัน”
โดยในแถลงการณ์ เท็ด ครูซ ประกาศว่า “จีนจำเป็นต้องเข้าใจว่า ที่นี่ในอเมริกา พวกเราตัดสินใจด้วยตัวเองในการตกลงที่จะพบปะหรือหารือกับใคร”
นอกจากนี้ สื่อจีนรายงานเพิ่มเติมว่า การเดินทางของไช่ครั้งนี้ ยังพบกับ สส.รัฐเทกซัส พรรครีพับลิกัน เบลก ฟาเรนต์โฮลด์ (Blake Farenthold) และเจมส์ โมรีอาร์ตี (James Moriarty) ประธานกรรมการสถาบันอเมริกัน (the American Institute )ประจำไต้หวัน และสแตนลี เกา (Stanley Kao) ทูตไต้หวันประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี โดยคนทั้งหมดพบกับประธานาธิบดีไต้หวันที่สนามบินฮูสตัน
และมีรายงานว่า คนทั้งสามได้นำไช่ไปเยือนสถาบันมะเร็ง และรวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นที่จัดแสดงสิ่งของทางประวัติศาสตร์ที่ได้หยิบยืมมาจากพิพิธภัณฑ์พาเลซแห่งชาติไต้หวัน (National Palace Museum)
เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์รายงานต่อว่า ด้านสมาชิกรัฐสภาไต้หวัน เฉิน มิง-เหวิน (Chen Ming-wen) ที่เดินทางมาพร้อมกับคณะของไช่ ได้กล่าวยืนยันว่า ไช่ อิงเหวิน คาดว่า เธออาจจะได้รับโทรศัพท์ติดต่อจาก ส.ว.และ ส.ส.สหรัฐฯ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่อื่นๆ
ทั้งนี้ เอพีรายงานว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่สมาชิกรัฐสภาคองเกรสจะใช้โอกาสพบกับผู้นำไต้หวัน ในระหว่างที่ผู้นำไต้หวันต้องมาเปลี่ยนเครื่องในสหรัฐฯ เพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง
