เอเจนซีส์/เอพี - ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมแต่งตั้งอดีต ส.ว.รัฐอินดิแอนา แดเนียล โคตส์ (Daniel Coats) ขึ้นเป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ DNI หน่วยงานใหม่หลัง 11 กันยา ตำแหน่งที่ว่ากันว่าที่ปรึกษาทรัมป์บางคนลงความเห็นว่า “ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้”
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวานนี้ (5 ม.ค.) ว่า แหล่งข่าวทีมเปลี่ยนผ่านอำนาจของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (5) ว่า ทรัมป์เตรียมแต่งตั้ง อดีต ส.ว.รัฐอินดิแอนา แดเนียล โคตส์ (Daniel Coats) ขึ้นเป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ DNI คนใหม่
ทั้งนี้ เอพีและเอเอฟพีชี้ว่า โคตส์เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมาธิการข่าวกรองประจำสภาสูงสหรัฐฯก่อนที่จะหมดวาระจากการทำหน้าที่ในรัฐสภาคองเกรสในปีที่ผ่านมา และหากว่าอดีต ส.ว.รัฐอินดิแอนาจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ได้รับการอนุมัติจากสภาสูงสหรัฐฯ โคตส์จะเป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ DNI ที่เพิ่งถูกก่อตั้งใหม่หลังเหตุการณ์ 11 กันยาเพื่อทำหน้าที่ประสานงานระหว่างสำนักงานข่าวกรองและหน่วยงานตำรวจสหรัฐฯ
ขณะที่วอชิงตันโพสต์ชี้ว่า แต่อย่างไรก็ตาม ที่ปรึกษาส่วนตัวของเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อเมริกันบางคนลงความเห็นต่อตำแหน่งนี้ว่า “ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้”
นอกจากนี้ พบว่า โคตส์นั้นดำรงตำแหน่งในสภาสูงมาอย่างยาวนานถึง 16 ปีในช่วง 2 สมัยที่ไม่ต่อเนื่อง และเคยเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเยอรมนีในรัฐบาลประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช มาแล้ว
การแต่งตั้งโคสต์ขึ้นเป็นหัวหน้า ODNI เกิดขึ้นในช่วงระหว่างที่เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อเมริกันไม่แน่ใจในรายงานข่าวกรองของสหรัฐฯ เกี่ยวกับรัสเซียและการเลือกตั้งสหรัฐฯ และรวมไปถึงข่าวล่าสุดจากการรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่แฉในคืนวันพุธ (4) ว่า ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแนวคิดจะปฎิรูปสำนักงานข่าวกรองและความมั่นคงเสียใหม่ เป็นต้นว่า มีเป้าหมายลดขนาดหน่วยข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ (DNI) และปฏิรูปโครงสร้างของสำนักงานข่าวกรองกลาง (CIA) แต่ภายหลังทีมของทรัมป์ออกมาโต้ข่าว
โดยเอพีรายงานว่า ในวันนี้ (6) ทรัมป์มีกำหนดต้องเข้ารับฟังรายงานสรุปความมั่นคงจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯในผลการสอบสวนคดีรัสเซียแฮกระบบคอมพิวเตอร์พรรคเดโมแครต DNC และทีมหาเสียงของผู้สมัคร ฮิลลารี คลินตัน ซึ่งเป็นรายงานที่ถูกสั่งการมาจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ให้ทำการสอบสวนโดยละเอียด
ทั้งนี้ โอบามาได้รับฟังรายงานสรุปถึงผลการสอบสวนก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี (5) แล้ว
