รอยเตอร์ - ทางการยูกันดาเผยในวันอาทิตย์ (27 พ.ย.) ระบุมีสมาชิกชนเผ่าพื้นเมืองที่ลุกฮือขึ้นก่อความไม่สงบเสียชีวิต 41 ราย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตไป 14 นายระหว่างการปะทะกันทางภาคตะวันตกของประเทศ พร้อมเผยมีการจับกุมตัวราชาของชนเผ่าพื้นเมืองดังกล่าวไว้ได้ใกล้กับพื้นที่รอยต่อพรมแดนด้านที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
สำนักงานตำรวจแห่งยูกันดา ซึ่งแถลงยอดผู้เสียชีวิตผ่านทางทวิตเตอร์ ระบุว่า เหตุปะทะดังกล่าวเกิดขึ้นที่เขต “รเวนโซรี” ที่เผชิญกับปัญหาความไม่สงบมาตั้งแต่ช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าของตำแหน่งหน้าเดิมอย่างประธานาธิบดี โยเวรี มูเซเวนี
ข้อมูลของตำรวจยูกันดาระบุ กลุ่มชนเผ่าพื้นเมืองในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นฝ่ายเริ่มการโจมตีก่อนมีจุดมุ่งหมายในการต่อสู้เพื่อสร้าง “รัฐอิสระ” ขึ้นในพื้นที่
ด้านแพดดี อันกุนดา โฆษกกองทัพยูกันดา เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ชาร์ลส์ เวสลีย์ มุมเบเร ที่เป็นราชาของอาณาจักร “รเวนซูรูรู” ที่สนับสนุนการลุกฮือขึ้นก่อความไม่สงบในพื้นที่ ได้ถูกควบคุมตัวไปสอบสวนแล้ว
ที่ผ่านมาพื้นที่เขตรเวนโซรีถือเป็นฐานเสียงสำคัญของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่มักกล่าวหาทางการยูกันดาว่าเป็นฝ่ายเริ่มก่อความตึงเครียดในพื้นที่ก่อน เพื่อหวังกำราบการเคลื่อนไหวและกิจกรรมทางการเมืองของฝ่ายค้าน
ด้านหนังสือพิมพ์รายวันอย่าง เดลี มอนิเตอร์ ที่เป็นสื่อท้องถิ่นชื่อดัง รายงานว่า กลุ่มของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของรัฐบาลที่กำลังลาดตระเวนอยู่ในเมืองคาเซเซ ที่เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของเขตดังกล่าว ถูกโจมตีโดยบรรดาองครักษ์ของมุมเบเรในวันเสาร์ (26) และเป็นจุดเริ่มต้นของการปะทะกันอย่างดุเดือดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้นถึง 55 รายในเวลาต่อมา โดยที่ทางตำรวจยูกันดาระบุว่าสามารถจับกุมสมาชิกระดับแกนนำของฝ่ายต่อต้านได้ 15 รายหลังการปะทะกันในครั้งนี้
