xs
xsm
sm
md
lg

“โตชิบา” เตือนปีนี้ขาดทุนยับ 163,000 ล้าน ต้องปลดคนร่วมหมื่น สืบเนื่องจากเรื่องฉาวแต่งตัวเลขกำไร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>โลโก้ของโตชิบาปรากฏบนจอภาพ ระหว่างที่บริษัทจัดการแถลงข่าว ณ สำนักข่าวใหญ่ในกรุงโตเกียว วันจันทร์ (21 ธ.ค.) เพื่อแจ้งว่า ปีนี้บริษัทคงจะขาดทุน 4,500 ล้านดอลลาร์ และต้องปลดพนักงานร่วมหมื่นคน </i>
เอเอฟพี - บริษัท โตชิบา ซึ่งกำลังเผชิญวิกฤตหนัก ออกคำแถลงเตือนในวันนี้ (21 ธ.ค.) ว่าจะต้องลงบัญชีขาดทุนในรอบปีการเงินนี้ จำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 4,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 163,000 ล้านบาท) รวมทั้งต้องปลดพนักงานร่วมหมื่นคน ในเวลาเดียวกับที่ราคาหุ้นของบริษัทก็หล่นฮวบฮาบในตลาดโตเกียว

การคาดหมายเรื่องขาดทุนและปลดพนักงานเช่นนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างซึ่งประกาศออกมาก่อนหน้านี้ ภายหลังเกิดกรณีอื้อฉาวแต่งบัญชี ซึ่งทำให้บริษัทอันเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นอยู่ในอาการสั่นคลอนหนัก

ความเคลื่อนไหวในวันนี้ยังนับเป็นแรงตีกระหน่ำล่าสุดเข้าใส่บริษัทเก่าแก่อายุ 140 ปีแห่งนี้ ตั้งแต่ที่มีการเปิดโปงว่า พวกผู้บริหารของโตชิบาได้บีบคั้นกดดันพวกลูกน้องอย่างเป็นระบบ ให้แต่งบัญชีทำตัวเลขกำไรเกินความจริงเพื่อปิดบังผลประกอบที่ย่ำแย่เอาไว้

เนื่องจากมีรายงานออกมาเผยแพร่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคาดการณ์ถึงผลการขาดทุนอันสูงลิ่ว ดังนั้น พวกนักลงทุนจึงพากันเทขายหุ้นโตชิบาในช่วงการซื้อขายของตลาดโตเกียววันนี้ และประกาศของบริษัทซึ่งออกมาหลังตลาดปิดแล้ว ก็ยืนยันรายงานดังกล่าว

ทั้งนี้ หุ้นโตชิบาตกลงมา 9.80% และปิดวันนี้ที่ราคาหุ้นละ 254.8 เยน
<i>มาซาชิ มุโรมาชิ  ประธานกรรมการบริหารคนปัจจุบันของโตชิบา โค้งคำนับก่อนแถลงข่าวในวันจันทร์ (21 ธ.ค.) แจ้งเตือนการขาดทุนมหาศาล และต้องปลดพนักงานร่วมหมื่นคน </i>
ในประกาศซึ่งออกมาหลังตลาดปิด โตชิบาคาดหมายว่าจะขาดทุนสุทธิ 550,000 ล้านเยน (4,500 ล้านดอลลาร์) ในรอบปีการเงินนี้ (เม.ย. 2015 - มี.ค. 2016) หลังจากที่ปีที่แล้วรายงานว่าขาดทุนเพียงเล็กน้อย

สำหรับการปลดคนลดตำแหน่งงานนั้น ฝ่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ซึ่งผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคและอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านเรือนจะถูกลดเป็นจำนวน 6,800 ตำแหน่ง และพนักงานในสำนักงานใหญ่ของบริษัทจะถูกปลดราว 1,000 ตำแหน่ง

โตชิบาซึ่งมีลูกจ้างพนักงานในทั่วโลกประมาณ 200,000 คน ยังได้แถลงไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะลดงาน 2,800 ตำแหน่งในฝ่ายชิปเมมโมรี นอกจากนั้น บริษัทยังกำลังหยุดการผลิตโทรทัศน์ในต่างแดน

โตชิบาเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในเรื่องเครื่องรับโทรทัศน์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยเป็นผู้ผลิตทั้งคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป และเครื่องเล่นดีวีดีเครื่องแรกของโลก แต่นอกจากนี้แล้วบริษัทยังดำเนินกิจการอื่นๆ หลายหลาก เป็นต้นว่าอุปกรณ์ด้านการส่งพลังงานไฟฟ้า และเครื่องมือแพทย์

ธุรกิจของโตชิบาได้รับความเสียหายมากเมื่อเกิดวิกฤตภาคการเงินโลกในปี 2008 ขณะที่ภัยพิบัติหายนะนิวเคลียร์ฟูกูชิมะเมื่อปี 2011 ก็บดขยี้ดีมานด์ความต้องการไฟฟ้าพลังงานปรมาณูในญี่ปุ่น ซึ่งสร้างความย่ำแย่หนักแก่ฝ่ายนิวเคลียร์ ที่เป็นกิจการสำคัญมากของบริษัท

พวกผู้บริหารระดับท็อปของโตชิบาร้องโอดว่า “ผลประกอบการน่าอับอาย” และเห็นว่าไม่ควรนำออกเผยแพร่ต่อสาธารณชน

อย่างไรก็ตาม การแต่งบัญชีของโตชิบาเริ่มต้นถูกตรวจสอบและกลายเป็นกรณีฉาวโฉ่ เมื่อพวกเจ้าหน้าที่กำกับตรวจสอบหลักทรัพย์ค้นพบปัญหาหลายประการ ขณะพวกเขาสอบงบดุลของบริษัทเมื่อต้นปีนี้
<i>มาซาชิ มุโรมาชิ  ประธานกรรมการบริหารคนปัจจุบันของโตชิบา  ขณะแถลงข่าวในวันจันทร์ (21 ธ.ค.) </i>
โตชิบายอมรับในเวลาต่อมาว่า บริษัทมีการแต่งกำไรให้สูงเกินจริงไปประมาณ 1,200 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตภาคการเงินโลกในปี 2008 เป็นต้นมา

หลังจากถูกแฉเรื่องอื้อฉาวแล้ว ประธานกรรมการบริหารของโตชิบาในตอนนั้น รวมทั้งผู้บริหารระดับท็อปอีก 7 คน ก็ถูกบีบบังคับให้ลาออก

ตามรายงานที่เผยแพร่ในเดือนกรกฎาคม ของคณะทำงานซึ่งโตชิบาว่าจ้างมาศึกษาตรวจสอบ ได้บรรยายถึงวัฒนธรรมองค์กรที่มีปัญหาของโตชิบา โดยพวกผู้ใต้บังคับบัญชาไม่มีการโต้แย้งเลย ในการที่พวกบิ๊กบอสทรงอำนาจแสดงเจตนาที่จะแต่งตัวเลขกำไรให้สูงขึ้น ชนิดแทบไม่คำนึงเลยว่าจะต้องสูญเสียอะไรบ้าง

เมื่อราว 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ของญี่ปุ่นแถลงว่า ควรจะต้องปรับโตชิบาเนื่องจากการสร้างเรื่องอื้อฉาวคราวนี้ เป็นเงิน 60 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่สำหรับญี่ปุ่น

นอกจากนั้น บริษัทยังกำลังถูกรุมฟ้องร้องจากพวกนักลงทุนผู้โกรธเกรี้ยวหลายร้อยคน ขณะที่โตชิบาเองก็กำลังยื่นฟ้องพวกอดีตผู้บริหารของตน เรียกร้องค่าเสียหายจากการกระทำผิดของคนเหล่านี้

ในความพยายามที่จะกอบกู้ชื่อเสียงและเพิ่มธรรมาภิบาลของบริษัท โตชิบาแถลงเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะแต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นกรรมการของบริษัทให้มากขึ้น โดยผู้ที่จะนำเข้ามามีทั้งอดีตผู้พิพากษาศาลสูงสุด และผู้นำทางธุรกิจซึ่งมีชื่อเสียง

กำลังโหลดความคิดเห็น