เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(6)ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้ออกแถลงการณ์ประกาศยกเลิกโปรเจ็กต์โครงการท่อส่งน้ำมันของบริษัททรานสแคนาดา Keystone XL ไปป์ไลน์ สุดอื้อฉาว หลังก่อนหน้านี้บริษัทสัญชาติแคนาดาได้ยื่นขอให้ระงับการพิจารณาไว้ชั่วคราว
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(6)ว่า ในแถลงการณ์จากทำเนียบขาวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้ให้เหตุผลในการตัดสินใจยกเลิกโครงการท่อส่งน้ำมัน Keystone XL ไปป์ไลน์ ที่มีปัญหายืดเยื้อมาโดยตลอดว่า “ไม่ตอบผลประโยชน์ของอเมริกา”
สื่ออังกฤษชี้ว่า การก่อสร้างเครือข่ายท่อส่งน้ำมันของบริษัทสัญชาติแคนาดา ทรานสแคนาดานั้นมีปัญหามาโดยตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมาจากการที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดต่างกล่าวว่า โครงการนี้จะทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง
แต่โอบามากล่าวว่า Keystone XL ไปป์ไลน์ เป็นปัจจัยสำคัญในข้อถกเถียงด้านสิ่งแวดล้อมประเด็นปัญหาโลกร้อน ซึ่งหากมีการก่อสร้างท่อส่งน้ำมาจากแคนาดาเสร็จ จะมีระยะทางถึง 1,897 กม. และมีความสามารถในการส่งน้ำมันจากอัลเบอร์ตา แคนาดา จำนวน 800,000 บาร์เรลต่อวัน ไปยังปลายทางที่เมืองสตีล( Steele) รัฐเนแบรสกา
ซึ่งในการแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้หยับยกประเด็นสำคัญของโครงการนี้คือ (1) จะไม่ส่งผลต่อราคาน้ำมันให้ลดลง (2) จะไม่ช่วยสร้างงานในระยะยาว และ (3) มีผลกระทบต่อปัญหาการต้องพึ่งพาพลังงาน
“โครงการนี้จะไม่ทำให้เศรษฐกิจของอเมริกาดีขึ้น” โอบามชี้ แต่ทว่าทางฝั่งพรรครีพับลิกันที่มีจุดยืนสนับสนุนโครงการนี้ต่างดาหน้าออกมาโจมตีการตัดสินใจครั้งนี้ของประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต และหนึ่งในไม่เห็นด้วยคือ เจบ บุช ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 ได้โจมตีว่า การตัดสินใจยกเลิกถือเป็นการทำลายเศรษฐกิจอเมริกา
ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พรรครีพับลิกันที่คุมสภาคองเกรสลงมติให้มีการเริ่มต้นการก่อสร้างท่อส่งน้ำมันโครงการ Keystone XL ไปป์ไลน์ทันที แต่ทว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯใช้สิทธิ์วีโต้ยับยั้งไว้ โดยอ้างว่าขอรอดูรายงานสรุปด้านสิ่งแวดล้อมก่อน
ซึ่งการตัดสินใจประกาศยกเลิกโครงการนี้ของโอบามา ทำให้ฮิลลารี คลินตันมีคะแนนตีตื้นขึ้นหลังจากล่าสุดก่อนหน้านี้ คลินตันได้ออมาประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ และการประกาซยกเลิกโครงการของโอบามาทำให้ประเด็นปัญหาโครงการ Keystone XL ไปป์ไลน์ ไม่อยู่ในประเด็นต้องต่อสู้ทางการเมืองในการเลือกตั้งในเวลานี้ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม
สื่ออังกฤษวิเคราะห์ว่า การประกาศยกเลิกโครงการสร้างท่อส่งน้ำมันประจวบเหมาะกับที่พรรคลิเบอร์รัลของแคนาดาขึ้นมาบริหารประเทศ รวมไปถึงราคาน้ำมันที่ยังคงดิ่งวูบ และการประกาศอัตราว่างงานในสหรัฐฯที่ตกไปถึง 5% ต่ำที่สุดในสมัยการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา
นอกจากนี้การที่โปรเจ็กต์ท่อส่งน้ำมันแคนาดาไม่ผ่านนี้ยังสอดคล้องกับการจัดประชุมใหญ่ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม UN Climate Change Conference หรือ COP 21ที่จะเริ่มต้นภายในสิ้นเดือนนี้ในกรุงปารีส ซึ่งจะต้องมีการหาข้อตกลงร่วมในขั้นตอนสุดท้ายของสนธิสัญญาภาวะโลกร้อน ซึ่งจะถือว่าเป็นหนึ่งผลงานในสมัยของบารัค โอบามา
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้โปรเจ็กต์นี้จะไม่ได้รับการอนุมัติ แต่ทว่าการก่อสร้างเครือข่ายท่อส่งน้ำมันไม่ได้ยุติตามไปด้วยในเร็ววันนี้ เพราะยังคงมีประเด็นเดินหน้าในศาลสหรัฐฯ และหากพรรครีพับลิกันสามารถก้าวเข้าสู่ทำเนียบขาวได้สำเร็จในปี 2016 เป็นที่คาดว่าโครงการของทรานสแคนาดาจะได้รับการอนุมัติอย่างแน่นอน
และที่ผ่านมาปัญหาติดขัดท่อส่งน้ำมันแคนาดาทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯและอดีตนายกรัฐมนตรีแคนาดาสายคอนเซอร์เวตีฟ สตีเฟน ฮาร์เปอร์ ถึงขั้นมึนตึง แต่ทว่าการเข้าสู่อำนาจของนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด โอบามาได้ตอกย้ำกับทรูโดว่า ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมควรจะนำมาพิจารณาเป็นปัจจัยแรกมากกว่าความคิดที่แตกต่างในเรื่องอื่น
